ก้าวสู่ปี 2549 ติดอาวุธองค์กรอัจฉริยะ

พฤหัส ๒๒ ธันวาคม ๒๐๐๕ ๑๖:๐๙
กรุงเทพฯ--22 ธ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
“แนวโน้มเทคโนโลยีแห่งอนาคต คือ การทำให้เทคโนโลยีเป็นเรื่องง่ายต่อการนำไปใช้”คำกล่าวจาก ณัฐศักดิ์ โรจนพิเชฐ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออราเคิล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด
ปัจจุบัน เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น เราอาจจะนั่งจิบกาแฟใน
ร้านโปรดหรือรับประทานไปพร้อมๆ กับใช้เทคโนโลยีไว-ไฟเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ที่ต้องการได้ทันที หรือฟังเพลงสุดฮิตจากไอพอด เครื่องเล่นเพลงเอ็มพี 3 หรือเลือกฟังผลการแข่งขันฟุตบอลนัดเมื่อคืนระหว่างขับรถมาออฟฟิศ เราต่างเกาะกระแสเหตุการณ์ หรือ ความคิดฝันเบื้องลึกของผู้คนในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาพสวยๆ ของสมาชิกในครอบครัว และเพื่อนฝูงได้อย่างง่ายๆ ด้วยกล้องดิจิตอล ส่งผ่านระบบอีเมล์ ในขณะเดียวกันเพื่อนๆ ที่กำลังท่องราตรีก็สามารถส่งภาพ MMS ผ่านทางโทรศัพท์มือถือมาให้เราดูได้เช่นกัน
ในปี 2549 นี้ หลังจากที่เราสั่งซื้อหนังสือเป็นของขวัญปีใหม่ และเครื่องเล่นดีวีดีให้หลานสาวตัวจิ๋วผ่านระบบออนไลน์จากเว็บไซต์ของอะเมซอนดอทคอม หรือเลือกแชตเพื่อฟังข่าวในห้องแชต หรือท่องอินเตอร์เน็ตผ่านเว็บกูเกิ้ล เอิร์ธ เพื่อค้นหาแผนที่บ้านของเราแล้ว เรายังสามารถสนุกกับการเล่นเกมส์แบบมัลติยูเซอร์ พร้อมๆ กับเพื่อนทางอินเตอร์เน็ต และใช้โทรศัพท์ทางไกลผ่านอินเตอร์เน็ต สไคป์ (skype) ไปหาเพื่อนๆ ที่ต่างประเทศได้ด้วย
ในมุมของผู้ใช้ทั่วไป การใช้อุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ เป็นเรื่องง่าย แถมยังสนุก และอินเทรนด์ สามารถเลือกใช้ได้ตามต้องการ
แต่สำหรับองค์กร เทคโนโลยีเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการทำงานทั้งหมดขององค์กร การตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ นั้นไม่เกี่ยวข้องกับการเกาะกระแสแฟชั่น หรือเลือกใช้เทคโนโลยีใดๆ เพียงชั่วครู่ชั่วยาม คำว่า “เทคโนโลยีใหม่ล่าสุด” หรือ “เทรนด์แห่งอนาคต” สำหรับบรรดาซีไอโอ (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี) ก็อาจกังวลถึงโปรเจ็คท์ใหม่ๆ ที่อาจมีปัญหาไอทีขัดข้อง การจัดหาทีมงาน และการประเมินค่าใช้จ่ายและการวัดผลที่ต้องคุ้มค่ากับการลงทุน
ในทุกวันนี้ เทรนด์ หรือ กระแสการเปลี่ยนแปลงด้านไอทีขององค์กรจะมุ่งไปสู่ การทำระบบไอทีให้มีความเรียบง่าย สามารถเปลี่ยนหรืออัพเกรดระบบอย่างง่ายดาย และต้องวัดผลได้ การเปลี่ยนแปลงบางอย่างก็ทำได้ง่าย ไม่มีเรื่องยุ่งยากให้ปวดหัว สามารถนำไปใช้ได้ทันทีและราคาไม่แพง แต่กุญแจสำคัญของเทรนด์ทางเทคโนโลยี เพื่อนำไปสู่การใช้เทคโนโลยีสำหรับองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ การรวมระบบเป็นหนึ่งเดียว (หรือ Consolidation)
การรวมระบบเป็นหนึ่งเดียว (Consolidation) - ฐานข้อมูล เซิร์ฟเวอร์ และซอฟต์แวร์ ปี 2548 นับเป็นปีแห่งการเชื่อมโยงและรวบรวมระบบ ทั้งการรวบรวมข้อมูล (Data consolidation) การเชื่อมโยงการทำงานของเครื่องแม่ข่าย (Server consolidation) และการควบรวมกิจการของบริษัทต่างๆ (Consolidation of companies) โดยในปี 2548 ที่ผ่านมา มีการเข้าซื้อและควบรวมกิจการของอุตสาหกรรมต่างๆ เกิดขึ้นมากมายโดยเฉพาะในทวีปยุโรป ซึ่งคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งนับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมากที่สุดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้ (จากรายงาน “มาร์เก็ต วอตช์” เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2548)
ในส่วนของเทคโนโลยีก็มีการเปลี่ยนแปลงที่เราสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน โดยในช่วงปลายทศวรรษ 90 ซึ่งเป็นยุคของอุตสาหกรรมด้านฮาร์ดแวร์ แต่ในปัจจุบัน เป็นยุคของอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ อาจสงสัยได้ว่า ทำไมการควบรวมซอฟต์แวร์จึงเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน? อาจเป็นเพราะในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงยุคบูมของกระแส dotcom เราได้เห็นผลิตภัณฑ์ประเภทซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ที่พัฒนาขึ้นสำหรับกลุ่มผู้ใช้แต่ละกลุ่ม (niche) เข้าสู่ตลาดมากมาย ซอฟต์แวร์เหล่านี้ได้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อการใช้งานในวงแคบๆ มีลูกเล่นหรือฟีทเจอร์นับร้อยๆ ซึ่งล้วนใช้โมเดลข้อมูล (data model) ที่แตกต่างกัน ปัญหานี้ก่อให้เกิดความยุ่งยากและในบางครั้งก็ยากที่จะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ หรือซอฟต์แวร์ใด ซอฟต์แวร์หนึ่ง เพราะผู้ใช้อาจต้องตัดสินใจไม่ใช้ฟีเจอร์บางอย่าง เพื่อแลกกับสิ่งที่ต้องการใช้งานจริงๆ บริษัทขนาดใหญ่หลายแห่ง รวมถึงภาครัฐ ที่ต้องพบปะพูดคุยกับบริษัทจำหน่ายซอฟต์แวร์นับสิบบริษัท ล้วนต้องพบกับปัญหาความยุ่งยาก และการบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ในราคาสูง
ความกดดันเหล่านี้ส่งผลให้ลูกค้าให้ความสนใจในการเลือกเฟ้นพันธมิตรที่สามารถนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ครบถ้วนสมบูรณ์แบบ และสามารถสร้างความมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหา ด้วยเหตุนี้ เราจึงได้เห็นช่วงเวลาของยุคการ ควบรวมซอฟต์แวร์โซลูชั่นต่างๆ เนื่องจากลูกค้ามีข้อเรียกร้องให้ผู้จำหน่ายลดความยุ่งยากซับซ้อน (complexity) ลดการใช้ซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเฉพาะเจาะจงมากเกินไป (less customization) และลดต้นทุน
2549 ปีทองสำหรับการสร้างสถาปัตยกรรมแบบใช้งานได้ทันที (Hot-pluggable)แนวโน้มไอทีที่น่าจับตาอีกประการหนึ่ง คือ การทำให้ไอทีเป็นเรื่องง่ายขึ้น นั่นคือ การเคลื่อนไปสู่การใช้มาตรฐานสากล (common standard) หากจะให้กล่าวถึงแนวโน้มของไอทีปี 2549 แบบย่อๆ คงไม่พ้นเรื่องของ hot-pluggable เพราะนี่เป็นคำตอบสำหรับข้อกังวลต่างๆ ของซีไอโอทั้งหลาย เกี่ยวกับการติดตั้งวางระบบใหม่ๆ ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำงาน เพราะประเด็นนี้จะช่วยบรรเทาข้อกังวลในการนำเทคโนโลยีไปใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีที่มีอยู่เดิม สถาปัตยกรรมแบบใช้งานได้ทันที หรือ hot-pluggable ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถมิกซ์และแมทช์ ซอฟต์แวร์ที่ใช้อยู่เดิม และซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ของผู้จำหน่ายต่างๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ แนวทางนี้ช่วยให้องค์กรสามารถเชื่อมโยงและขยายระบบต่างๆ ในแนวกว้างและลึกขึ้น ทั้งยังได้ใช้ประโยชน์จากการลงทุนด้านไอทีทั้งในปัจจุบันและอนาคตได้อย่างคุ้มค่า Hot-pluggable เป็นส่วนหนึ่งของเทรนด์ทางเทคโนโลยีที่จะก้าวไปสู่ความเป็นมาตรฐานในการทำงานร่วมกัน (interoperability) และในปี 2549 คาดว่าคงจะได้เห็นการยอมรับและการใช้สถาปัตยกรรมนี้มากยิ่งขึ้น
กริดคอมพิวติ้ง (Grid Computing) เติบโตขึ้น
เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคของกริดคอมพิวติ้ง จากดัชนี “ออราเคิล กริด” ล่าสุด (เดือนพฤศจิกายน 2548) ดัชนีการใช้กริดคอมพิวติ้งทั่วโลกขึ้นไปที่ระดับ 5.2 จาก 4.4 ในการสำรวจเมื่อเดือนเมษายน 2548 สำหรับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก 51% ของบริษัทที่ได้ทำการสำรวจการใช้กริด ปรากฎว่า ค่าดัชนีกริด เพิ่มขึ้นจาก 4.4 เป็น 4.9 โดยบริษัทเหล่านี้ได้ยอมรับว่าได้มีการนำกริดคอมพิวติ้งมาใช้งาน หรือเตรียมพร้อมที่จะใช้กริดคอมพิวติ้ง ทั้งนี้ อัตราการนำกริด คอมพิวติ้งในระดับองค์กรมาใช้ร่วมกับเซิร์ฟเวอร์อย่างเต็มพิกัดมีอัตราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะมีการใช้กริดคอมพิวติ้งอย่างแพร่หลายในปี 2549
อย่างไรก็ตาม การใช้กริดไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะทำได้ เนื่องจากระบบฐานข้อมูลออราเคิล 10g ได้มีการกำหนดพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลที่จำเป็นไว้ทั้งหมดแล้ว นอกจากนี้ ในปัจจุบัน ผู้ใช้ระดับองค์กรเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับประโยชน์ของเทคโนโลยีเสมือนจริง (virtualisation technologies) และการวางโครงสร้างระบบไอทีเพื่อรองรับการบริการ (service oriented architecture) สามารถช่วยให้องค์กรมีความยืดหยุ่น และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด ภายใต้การทำงานในรูปของเทคโนโลยีกริด ทั้งนี้ กริดเริ่มต้นจาการถูกนำไปใช้งานในองค์กรธุรกิจที่มีความซ้บซ้อน เช่น อุตสาหกรรมการเงิน และขยายไปสู่การทำงานในรูปของคลัสเตอร์ ซึ่งเป็นรูปแบบที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น
RFID เทคโนโลยีรับส่งสัญญาณ รองรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ งานด้านบุคลากร และโรงงานรหัสคลื่นความถี่วิทยุ หรือ อาร์เอฟไอดี (radio frequency identification : RFID) คือหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการเติบโตอย่างเด่นชัดในปี 2548 ปัจจุบัน อาร์เอฟไอดีได้รับการพัฒนาให้เป็นชิปสำหรับใช้ติดตั้งบนสิ่งต่างๆ บริษัททุกขนาดใช้เทคโนโลยีส่งสัญญาณ เพื่อตรวจสอบสินทรัพย์ของบริษัทได้แบบอัตโนมัติ รวมทั้งใช้ตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงระดับอุณหภูมิ การเคลื่อนไหว การกำหนดตำแหน่ง และสภาวะทางกายภาพอื่นๆ ทั้งนี้ ประโยชน์ที่แท้จริงของอาร์เอฟไอดี คือ การเชื่อมโยงข้อมูลสัญญาณเข้าไว้กับแอพพลิเคชั่นระดับองค์กร อาทิ ระบบบริหารจัดการสินค้า
คงคลัง ระบบคลังสินค้า และระบบการผลิต เพื่อสร้างความเป็นอัจฉริยะทางธุรกิจแบบเรียลไทม์
นอกเหนือจากการใช้งานเพื่อการพาณิชย์แล้ว เทคโนโลยีอาร์เอฟไอดียังนำมาใช้งานด้านอื่นๆ อีกด้วย หน่วยงานด้านสาธารณสุขในภูมิภาคยุโรปเริ่มใช้ระบบอินเตอร์เน็ต เพื่อการติดต่อสื่อสารอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริการผู้ป่วยได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพดีขึ้น อุปกรณ์รับส่งสัญญาณแบบเคลื่อนที่สามารถนำมาติดตั้งที่ตัวผู้ป่วย เพื่อให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยได้ตลอดเวลาจากระยะไกล นอกจากนี้ เครื่องรับส่งสัญญาณยังสามารถตรวจหาการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ปรากฏอาการเด่นชัดของระบบเผาผลาญในร่างกายและส่งข้อมูลที่ตรวจพบไปยังแพทย์ผ่านโทรศัพท์มือถือ สำหรับโครงการนำร่องการใช้ระบบอาร์เอฟไอดีอื่นๆ ได้แก่
การตรวจหาและกำหนดตำแหน่งของผู้ปฏิบัติงานในห้องผ่าตัด การตรวจสอบและติดตามการทำงานของเครื่องมือในห้องผ่าตัด เช่น การปลูกถ่าย การตรวจสอบกลุ่มเลือดโดยใช้ระบบอาร์เอฟไอดีที่วัดด้วยระดับอุณหภูมิ ซึ่งสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการปลูกถ่ายร่องรอย และตรงตามมาตรฐานเกี่ยวกับขีดความสามารถและคุณภาพในการตรวจสอบการถ่ายถุงเลือด
มีบางคนเชื่อว่า การพูดคุยกับพืชจะทำให้พืชเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ปัจจุบัน พืชสามารพูดคุยกับมนุษย์ จากการศึกษาของหน่วยงานของรัฐในกรุงปารีสเกี่ยวกับวิธีการดูแลไม้ประดับที่ปลูกอยู่ริมถนนสายหลักของกรุงปารีส ผลการศึกษาบ่งชี้ว่า ต้นไม้ที่ปลูกบนท้องถนนในสภาพแวดล้อมแบบชุมชนเมืองต้องการการดูแลเอาใจใส่มากกว่าต้นไม้ที่ปลูกในฟาร์มและพื้นที่ชนบท ปัจจุบัน ต้นไม้ที่ปลูกอยู่ริมถนนสายต่างๆ ในกรุงปารีสซึ่งมีอยู่รวมทั้งสิ้น 95,000 ต้นได้ติดชิปอาร์เอฟไอดี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ด้านสิ่งแวดล้อมของนครปารีสสามารถรู้ตำแหน่งของต้นไม้แต่ละต้น และเข้าใช้ข้อมูลการดูแลรักษาตามข้อมูลวงจรชีวิตของต้นไม้แต่ละต้นได้อย่างถูกต้องผ่านโทรศัพท์มือถือ
เปรียบเทียบกับในอดีตที่ผ่านมาที่เจ้าหน้าที่ต้องออกไปเริ่มนับต้นไม้ที่ปลูกเป็นแถวยาวรวม 400 ต้นตั้งแต่จุดเริ่มต้น เพื่อหาต้นไม้ต้นที่ต้องการ แต่ปัจจุบัน ต้นไม้สามารถพูดกับเจ้าหน้าที่ว่า “ฉันอยู่นี่จ้ะ”
เกี่ยวกับเทคโนโลยีการกำหนดความหมาย (Semantics Technology)
เทคโนโลยีการกำหนดความหมาย (semantics technology) มีแนวโน้มที่จะเป็นจริงได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ซีแมนติดส์เว็บหรือในบางครั้งได้รับการขนานนามว่าเป็นระบบบริหารจัดการข้อมูลหลัก หรือเอ็มดีเอ็ม (master data management : MDM) มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูลของระบบต่างๆ ทั้งนี้ ไอดีซีคาดการณ์ว่า ตลาดเอ็มดีเอ็มจะมีรายได้สูงถึง 10,400 ล้านเหรียญสหรัฐในปี 2552 สำหรับเอ็มดีเอ็มเป็นโซลูชั่นที่มุ่งสนับสนุนธุรกิจต่างๆ ให้มีข้อมูลเกี่ยวกับลูกค้า พันธมิตรหรือซัพพลายเออร์สที่ถูกต้องและมีมาตรฐานเดียวกัน โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ที่กระจัดกระจายทั่วองค์กรเข้าไว้ด้วยกัน และด้วยเทคโนโลยีที่มีมาตรฐานเดียวกันจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้เทคโลยีดังกล่าวบรรลุผลสำเร็จเป็นจริงได้
สำหรับปี 2549 ทิศทางใหม่ของเทคโนโลยีไอที คือ การพัฒนาระบบไอทีระดับองค์กรให้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและคุ้มทุนมากขึ้น ด้วยการผนวกรวมโซลูชั่นต่างๆ ไว้ด้วยกัน รวมทั้งมีการแบ่งปันการใช้ระบบจัดเก็บข้อมูล และการเข้าใช้ข้อมูลได้แบบเรียลไทม์โดยใช้ชิปรับส่งสัญญาณ ภายใต้หลักการของการทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น ซึ่งเป็นเป้าหมายของการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ เป็นเวลานานหลายปี แต่ด้วยสถาปัตยกรรมแบบ hot-pluggable ของออราเคิลในวันนี้ ทำให้ปี 2549 เป็นปีที่มีการผนวกรวมนวัตกรรมและเทคโนโลยีอันทันสมัยทั้งหมดอย่างครบวงจร
นวัตกรรมทางเทคโนโลยีในรูปแบบใหม่ๆ จากทั่วโลกทยอยเข้าสู่ประเทศไทยอย่างรวดเร็วมากกว่าที่เคยมีมา โดยปี 2549 จะเป็นปีที่น่าท้าทายอีกปีหนึ่งสำหรับออราเคิล องค์กรธุรกิจ และเทคโนโลยีแบบเฉพาะเจาะจงที่จะเข้ามามีบทบาทเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและไลฟ์สไตล์มากขึ้น
ท้ายที่สุดนี้ ผมขอให้ปี 2549 เป็นปีแห่งความสำเร็จของทุกท่านครับ--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version