นายสุรศักดิ์ เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอส 11 กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ S11 ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 213.02 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.40 บาทเพิ่มขึ้น 83.15% จากกำไรสุทธิปี 2556 อยู่ที่ 116.30 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 0.24 บาท เนื่องจากบริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยรายได้รวมอยู่ที่ 934.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น27.04% จากรายได้รวมปี 2556 อยู่ที่ 735.25 ล้านบาท สาเหตุสำคัญที่รายได้รวมปรับเพิ่มขึ้น มาจากรายได้ค่าเช่าซื้อเพิ่มขึ้น 25.55% อยู่ที่ 887.50 ล้านบาท จากปี 2556 อยู่ที่ 706.89 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายสาขาการให้บริการสินเชื่อของร้านค้าตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ที่เป็นพันธมิตรทางการค้ากับบริษัทฯ
สำหรับค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ อยู่ที่ 529.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.35% จากปี 2556 อยู่ที่ 471.32 ล้านบาท เป็นค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 181.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2556 ที่ 5.15% เนื่องจากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อที่เพิ่มขึ้น มีหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 10.84% อยู่ที่ 210.40 ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าและจำหน่ายสินทรัพย์รอการขาย ปี 2557 เพิ่มขึ้น 26.33% อยู่ที่ 137.97 ล้านบาท เป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2557 ที่ผ่านมาชะลอตัวมาโดยตลอด อีกทั้ง ภาวะราคาตกต่ำของพืชผลทางการเกษตร ทำให้กลุ่มลูกค้ามีความสามารถในการชำระหนี้ลดลง และความต้องการซื้อรถจักรยานยนต์มือสองลดลง ส่งผลกระทบต่อสินค้ารอการขาย ส่วนลูกหนี้เช่าซื้อสุทธิอยู่ที่ 2,833.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.37% จากปี 2556 อยู่ที่ 2,296.96 ล้านบาท สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 3,100.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.79% และหนี้สินรวมอยู่ที่ 2,046.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.52% จากปี 2556
“ในปี 2557 ที่ผ่านมา แม้จะได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัว รวมถึง ภาพรวมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ติดลบ แต่บริษัทฯ ก็ยังคงสามารถรักษาผลงานให้เติบโตขึ้นสูงอย่างน่าพอใจ โดยมีกำไรขยายตัวจากปีที่ผ่านมากว่า 83% เนื่องจากขยายการให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ผ่านทางร้านค้าตัวแทนจำหน่ายได้ตามแผนที่วางไว้ และด้วยนโยบายการปล่อยสินเชื่อโดยเน้นคุณภาพเป็นสำคัญ ส่งผลให้อัตราหนี้สูญเพิ่มขึ้นไม่มากนักเมื่อเทียบกับอุตสาหกรรมที่ปรับตัวลดลง และไม่เกินจากนโยบายที่กำหนดไว้” นายสุรศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลปี 2557 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.17บาท จากงวดดำเนินงานวันที่ 1 มกราคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 104,210,000 บาท ซึ่งเป็นการจ่ายปันผลหลังจากบริษัทฯ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ วันแรกเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อแสดงถึงศักยภาพทางการเงิน ความพร้อมในการปล่อยสินเชื่อเพื่อสร้างการเติบโตยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ได้ให้ความไว้วางใจ
อย่างไรก็ตาม ประเมินว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ในปี 2558 จะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งจากนโยบายและโครงการต่างๆ ของภาครัฐ สนับสนุนให้ภาคครัวเรือน โดยเฉพาะกลุ่มรากหญ้ามีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อบริษัทฯ ในการปล่อยสินเชื่อได้เพิ่มขึ้นในทิศทางเดียวกัน และนอกจากการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งเป็นตลาดหลักของเราแล้ว ในช่วงที่ผ่านมาได้ขยายสาขาไปยัง จังหวัดอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง และจันทบุรี เพื่อขยายธุรกิจในภาคตะวันออก
นอกจากนี้ บริษัทฯ จะเดินหน้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกโดยเน้นไปที่การบริการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่แก่บุคคลธรรมดาเป็นหลัก ซึ่งเงินที่ได้จากการระดมทุนในช่วงที่ผ่านมา จะทำให้บริษัทฯ มีฐานะทางการเงินแข็งแกร่งขึ้น มีต้นทุนทางการเงินลดลง และสนับสนุนให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากที่ผ่านมาได้