ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ในฐานะที่กรุงเทพมหานครได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นำเมืองเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 3 ในปีนี้ ถือเป็นเกียรติประวัติที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยอีกครั้ง ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจัดขึ้นทุก 2 ปีโดยสมาชิกฝ่ายยุโรปและฝ่ายเอเชียสลับกันเป็นเจ้าภาพ โดยครั้งแรกและครั้งที่สองจัดขึ้นที่กรุงจาการ์ตาและกรุงเบอร์ลินตามลำดับ ในโอกาสนี้ กรุงเทพมหานครมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะได้ต้อนรับคณะผู้ว่าการและนายกเทศมนตรีของเมืองในเอเชียและยุโรปที่จะมาประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาเมืองและแสวงหาทั้งนวัตกรรมและหลักปฏิบัติ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาของการจัดการเมืองภายใต้แนวคิด “ASEM Goes Local: Innovation and Regeneration”
“การประชุมผู้นำเมืองเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 3 จะเปิดเวทีให้ผู้แทนและผู้นำเมืองได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ หารือในประเด็นสำคัญ อาทิ สิ่งแวดล้อม การขยายตัวของเมือง การจราจร การท่องเที่ยว และการบริหารจัดการท้องถิ่นที่ดี เพื่อกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาเมืองที่สร้างสรรค์อย่างยั่งยืน ตั้งอยู่บนพื้นฐานการเปลี่ยนแปลงที่ได้จากการแบ่งปันประสบการณ์ และตัวอย่างที่ดีของเมืองทั้งในเอเชียและยุโรป” ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าว
สำหรับหัวข้อในการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นที่ 4 ประเด็นหลัก คือ การบริหารจัดการภัยพิบัติ ผลกระทบของปัญหาสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการการจราจรและการขนส่ง และการบริหารจัดการการท่องเที่ยวและความหลากหลายทางวัฒนธรรม ซึ่งจะเปิดวงอภิปรายให้คณะผู้นำเมืองจากทั้งยุโรปและเอเชียได้แสดงวิสัยทัศน์และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เพื่อนำไปสู่แนวทางการจัดการกับปัญหาในเชิงสร้างสรรค์
“จากการที่โลกเราทุกวันนี้กำลังก้าวสู่โลกยุคใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วยองค์ความรู้ นวัตกรรม ความคิดสร้างสรรค์ และแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ส่งผลให้ผู้นำของเมืองต่าง ๆ ต้องเผชิญกับความท้าทายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งจากปัญหาเดิม ๆ ที่มีอยู่แล้วและปัญหาใหม่ ๆ ที่นับวันจะเกิดเพิ่มขึ้นทวีคูณ ดังนั้นการแลกเปลี่ยนแนวคิดและแบ่งปันประสบการณ์ในแง่ของนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ตลอดจนการฟื้นฟูเมืองระหว่างผู้นำจากเมืองต่าง ๆ ที่มีความสำคัญ ทั้งในเอเชียและยุโรปในการประชุมผู้นำเมืองเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 3 ที่กรุงเทพฯ ในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจ เป็นแรงผลักดันในการวางแผนเพื่อให้เกิดความยั่งยืนทางสังคม วัฒนธรรม ให้สามารถสอดรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของทุกเมืองที่เกี่ยวข้อง” ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ กล่าวทิ้งท้าย