บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท โลจิสติกส์ อันดับ 1 ของไทย มองเห็นถึงศักยภาพ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในปีนี้เดินหน้าขยายการให้บริการครอบคลุมทั่วประเทศเพื่อพัฒนา ศักยภาพในการขนส่งสินค้าภายในประเทศและซัพพลายเชน พร้อมตั้งเป้าเติบโตขึ้น 15%
ในปีนี้ยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์เนื่องจากการชะลอตัวของธุรกิจส่งออกแต่ ยูเซ็น มองเห็นโอกาสในการขยายการลงทุนในเส้นทางยุโรปและอเมริกา ผ่านการส่งสินค้าทางอากาศ โดยเฉพาะ ชิ้นส่วนรถยนต์ เนื่องจากประเทศไทยและภูมิภาคเอเชีย เป็นฐานการผลิตอะไหล่รถยนต์ ที่สำคัญของโลก พร้อมขยายการให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศประเภทของสด (Perishable Goods) เช่น ผัก ผลไม้ กล้วยไม้ และอาหารแช่แข็งต่าง ๆ ที่ต้องควบคุมอุณหภูมิ
นายฮิโรชิ มานิวะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในปีนี้เรายังคงมุ่งมั่นขยายเครือข่ายไปให้ครอบคลุมทั่วโลก และพัฒนา บริการให้ครอบคลุมทั่วประเทศซึ่งมีศูนย์ให้บริการทั้งหมด 7 แห่งในไทย และเราเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการ ขนส่งครบวงจรที่มีเครือข่ายแข็งแกร่งที่สุดในประเทศ เรามีบุคคลากรที่พร้อมให้บริการ และสิ่งอำนวย ความสะดวกกระจายตัวอยู่ในเขตพื้นที่อุตสาหกรรม และธุรกิจทั่วประเทศ ปีนี้เราได้ขยายธุรกิจด้านการ ส่งสินค้าประเภทของสด ที่เน่าเสียง่าย ซึ่งต้องการความเชี่ยวชาญ และการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้สินค้า ส่งถึงมือผู้รับอย่างมีคุณภาพ รวดเร็ว และตรงต่อเวลา ซึ่งจุดแข็งของเราคือ ความแข็งแกร่งด้าน เครือข่าย สายการบินและผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นองค์ประกอบ หลักของระบบการจัดส่งสินค้า จากผู้ผลิตไปสู่ผู้ขายเเละสู่ตลาด”
“การเปิดประชาคมเศรษฐกิจเสรีอาเชียน (AEC) จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้า ของภูมิภาคโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว พม่าและเวียดนาม (CLMV) ไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคอาเซียน โดยยูเซ็นเตรียมพร้อมเสริมศักยภาพต่อความต้องการที่หลากหลายมากขึ้นในอนาคต ด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ และเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งในเส้นทางที่ให้บริการอยู่แล้ว และวางกลยุทธ์ การขยายเครือข่ายสู่พื้กลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง โดยใช้ “ซีล” (SEAL)หรือ เซาท์อีสท์ เอเชีย ลิงค์ เซอร์วิส บริการ ขนส่งสินค้าข้ามพรมแดนทางบก เชื่อมต่อสู่ประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา และเวียดนาม โดยผสมผสานการขนส่งทั้งทางอากาศและทางทะเลเข้ามาช่วย” นายฮิโรชิ มานิวะกล่าวเพิ่มเติม
“ในแผนการขยายเครือข่ายและการเสริมศักยภาพในการให้บริการ เรามองหาพาร์ทเนอร์ในเชิงกลยุทธ์ ที่เป็นบริษัทท้องถิ่น ที่มีความเชี่ยวชาญในเส้นทางต่าง ๆ เข้ามาเสริมทัพ การเข้ามาของบริษัทโลจิสติกส์ ข้ามชาติ ขนาดใหญ่ จะทำให้การแข่งขันในบริษัทระดับขนาดกลางและขนาดเล็กรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการเปิด AEC อาจจะมีบริษัทที่ต้องปิดตัวลง ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดในธุรกิจ บริษัทท้องถิ่น จึงต้องมีการวางแผนปรับกลยุทธ์เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ เช่น การบริหารการจัดการ ต้นทุนการขนส่งและส่งเสริมการจัดการห่วงโซ่อุปทานเพื่อลดต้นทุนสินค้าคงคลัง โดยบริษัทขนาดเล็ก สามารถรวมตัวกันเป็นเครือข่ายใหญ่เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง หรือเข้าร่วมเป็น เครือข่ายในการขนส่ง ของบริษัทโลจิสติกส์ระดับโลก” นายฮิโรชิ มานิวะกล่าวสรุป
บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมานานกว่า 45 ปี และได้รับ การยอมรับว่าเป็นผู้บุกเบิกการให้บริการโลจิสติกส์ในประเทศไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก ด้วยหลักการ ทำงานของความเป็นเลิศในด้านคุณภาพและการจัดการที่จะส่งมอบความพึงพอใจของลูกค้าที่ดีที่สุดโดย การคิดค้นนวัตกรรมรูปแบบใหม่ ที่ช่วยลดการใช้ทรัพยากรด้วยการบันทึกข้อมูลด้านศุลกากร และพิธีการ ด้านศุลกากรผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์แทนกระดาษ อีกทั้งยังยกระดับมาตรฐานโลจิสติกส์ ด้วยการพัฒนา ซอฟท์แวร์เฉพาะลูกค้าแต่ละราย เพื่ออำนวยความสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการ เฉพาะด้านของ ลูกค้าได้อย่างครบถ้วน
ปีงบประมาณของยูเซ็น โลจิสติกส์ เริ่มต้นที่เดือนเมษายนถึงมีนาคม บริษัทฯคาดว่าในปีงบประมาณหน้า จะเติบโตขึ้น 15% หรือมีรายรับประมาณ 7 พัน 7 ร้อยล้านบาท โดยมีรายได้หลักมาจากการให้บริการ ขนส่งชิ้นส่วนระหว่างประเทศแก่อุตสาหกรรมยานยนต์
สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ยูเซ็น โลจิสติกส์ ประเทศไทย ได้ที่ http://www.th.yusen-logistics.com/