บลจ.กสิกรไทย โชว์จ่ายปันผลกองทุน ABPIF พร้อมจ่ายคืนส่วนลดทุน รวมกว่า 377 ล้านบาท

ศุกร์ ๑๓ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๓๒
นายเขมชาติ สุวรรณกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ครั้งที่ 3 สำหรับรอบระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2557 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนวันที่ 23 มีนาคม 2558 ในอัตรา 0.3036 บาทต่อหน่วย พร้อมกันนี้กองทุนได้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมครั้งที่ 3 และจะจ่ายคืนผลตอบแทนส่วนลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตรา 0.3258 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้มูลค่าทุนจดทะเบียนลดลงเหลือ 8.8369 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้เมื่อรวมมูลค่าผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งในส่วนเงินปันผลและเงินลดทุน รวมเป็นอัตรา 0.6294 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 377.64 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนที่ประมาณ 13.63% ของมูลค่าที่ตราไว้ (PAR) ที่ 9.1627 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ กองทุนมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและคืนเงินลดทุนดังกล่าวในวันที่ 31 มีนาคม 2558 นี้

นายเขมชาติ กล่าวต่อไปว่า “กองทุน ABPIF เป็นการลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ทั้งนี้ ในรอบผลการดำเนินงานของปี 2557 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ โดยโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 มีรายได้รับจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฝผ. ในสัดส่วน 41.8% และจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในสัดส่วน 57.4% ที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายไอน้ำและการใช้สาธารณูปโภคอีก 0.8% ด้านโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 2 มีรายได้รับจากการจำหน่ายไฟฟ้าให้กับ กฝผ. ในสัดส่วน 37.5% และจากลูกค้าภาคอุตสาหกรรมในสัดส่วน 60.7% ที่เหลือเป็นรายได้จากการจำหน่ายไอน้ำและการใช้สาธารณูปโภคอีก 1.8% ทั้งนี้ เมื่อคิดรายได้รวมจากการลงทุน ทำให้กองทุน ABPIF มีกำไรสุทธิซึ่งปรับปรุงแล้ว รวมมูลค่ากว่า 182.21 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.3036 บาทต่อหน่วยลงทุน ซึ่งเมื่อคำนวณจากอัตราการจ่ายปันผลในครั้งนี้ ในอัตรา 0.3036 บาทต่อหน่วย ถือได้ว่ากองทุนมีการจ่ายเงินปันผลในอัตราสูงถึง 100% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว”

สำหรับกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) เริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2556 ด้วยมูลค่ากองทุน 6,300 ล้านบาท ถือเป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองทุนที่ 2 ของประเทศไทยที่มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยจุดเด่นของกองทุนคือ มีการลงทุนในผลประโยชน์จากการประกอบกิจการโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และลูกค้าชั้นดีในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จึงนับว่าเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนที่ดี ซึ่งตอบรับกับสภาวะตลาดในปัจจุบันที่มีความผันผวนสูง เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการโอกาสรับผลตอบแทนสม่ำเสมอในระยะยาว และต้องการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ โดยนักลงทุนจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทน 2 ส่วนคือ เงินปันผลและเงินลงทุนที่ทยอยจ่ายด้วยการลดทุน โดยผู้ลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดาจะได้รับการยกเว้นภาษี ณ ที่จ่าย จากผลตอบแทน เป็นเวลา 10 ปี ทั้งนี้กองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกินปีละ 2 ครั้ง ในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว และกองทุนพิจารณาจ่ายส่วนลดทุนคืนไม่เกินปีละ 2 ครั้ง จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาตามสิทธิในการรับผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้า ทั้งนี้หากกองทุนไม่มีแผนการลงทุนในกิจการเพิ่มเติม กองทุนจะดำเนินการทยอยลดทุนจนกระทั่งสิ้นสุดอายุสัญญาดังกล่าว

นายเขมชาติชี้แจงเพิ่มเติมว่า “สำหรับกรณีการลดทุนถือเป็นการคืนผลประโยชน์ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ตามโครงสร้างปกติของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานที่เข้าลงทุนในกระแสเงินสดสุทธิจากการดำเนินกิจการ โดยตามสัญญาโอนผลประโยชน์และตามมาตรฐานทางบัญชี มูลค่าของทรัพย์สินของกิจการโครงสร้างพื้นฐานจะลดลงตามอายุของสิทธิการรับผลประโยชน์จากรายได้ในอนาคตที่เหลืออยู่ ดังนั้น เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโครงการตามสิทธิในการรับผลประโยชน์จากรายได้ในอนาคตดังกล่าวที่กองทุนรวมได้ลงทุนไว้ มูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) อาจจะลดลงจนถึงศูนย์บาทได้ในที่สุด อย่างไรก็ตามผู้ถือหน่วยลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนในรูปของเงินปันผลและทยอยรับเงินต้นคืนจากการลงทุนด้วยการลดทุนตลอดอายุกองทุน ซึ่งเป็นหลักการทั่วไปที่ใช้ในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์แบบสิทธิการเช่าหรือ Leasehold ทั้งนี้หากผู้ลงทุนท่านใดสนใจกองทุนที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงอย่างเช่นกองทุน ABPIF เพื่อสร้างความสมดุลย์ให้พอร์ตการลงทุนของตัวท่านเอง ผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มเติมผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยใช้ตัวย่อ ABPIF ในหมวดธุรกิจพลังงาน”

ผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน ABPIF สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 0 2673 3888 หรือติดตามรายละเอียดได้ทาง www.kasikornasset.com หรือ www.bgrimmpower.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ