- SPDR ลดปริมาณการถือทองลง 0.28 ตัน
- แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,165 ดอลลาร์
ราคาทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13 มี.ค.) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ถึงแม้ว่าเผชิญแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แต่ได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐไม่ดี ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐเดือนมี.ค.ของมหาวิทยาลัยมิชิแกนลดลงสู่ระดับ 91.2 จาก 95.4 ในเดือนก.พ. นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.พ.ลดลง 0.5% หลังจากที่ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนม.ค. และเป็นการอ่อนตัวลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ซึ่งบ่งชี้ถึงแรงกดดันเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ และเฟดอาจจะไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัปดาห์นี้ติดตามการประชุมเฟดในวันอังคารและวันพุธ ที่สำคัญอยู่ที่คำแถลงของเฟดหลังการประชุม นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ โดยเฟดจะตัดคำว่า "ความอดทน" ออกจากสัญญาณชี้นำล่วงหน้าในการประชุมเฟดหลังจากการจ้างงานนอกภาคเกษตรออกมาแข็งแกร่ง อย่างไรก็ดีสำหรับคำแถลงของประธานเฟดต่อสภา คองเกรสในช่วงปลายเดือนก.พ. ระบุว่าเฟดจะพิจารณาปัจจัยที่หลากหลายทางเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ย และส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย นั่นหมายความว่าเฟดไม่ได้พิจารณาเพียงตัวแปรตลาดแรงงาน
แนวโน้มราคาทองคำคาดเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150-1,165 ดอลลาร์/ออนซ์ ทองคำยังมีแนวรับที่บริเวณ 1,147-1,150 ดอลลาร์/ออนซ์ ถ้าหลุดแนวรับดังกล่าวคาดจะมีแนวรับถัดไปที่ 1,140 และ 1,132 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ โดยแนวรับหลังเป็นแนวรับสำคัญที่เป็นจุดต่ำสุดของราคาทองคำในเดือนก.ค.2557 ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,165-1,170 และ 1,180 ดอลลาร์/ออนซ์ตามลำดับ