กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขับเคลื่อนงานตามนโยบายรัฐบาล และโรดแม็ปภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมและมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

พฤหัส ๑๙ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๘:๒๘
นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แถลงข่าวการายงานความคืบหน้าตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศที่มีผลต่อการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ ผู้ประกอบการ ตลอดจนประชาชน ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ว่า จากสถานการณ์ภัยแล้ง ในปี 2557/58 ได้มีการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค โดยการจัดสรรน้ำอย่างเพียงพอให้แก่พื้นที่ชลประทานที่อยู่ในแผนการจัดสรรน้ำตลอดฤดูแล้ง และพื้นที่งดส่งน้ำเพื่อการเพาะปลูกข้าวนาปรังและพื้นที่นอกเขตชลประทานที่เชื่อมต่อกับระบบชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเร่งขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลและโรดแม็ปภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง เพื่อดูแลเกษตรกรให้มีรายได้ที่เหมาะสมและมีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยได้รายงาน

ความคืบหน้าของมาตรการหลักในการดำเนินโครงการเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการงดส่งน้ำเพื่อการทำนาปรัง พื้นที่ในเขตชลประทานของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำแม่กลอง รวม 26 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2557 ได้แก่ การซ่อมแซมหรือปรับปรุงคูคลอง โดยการจ้างแรงงานเกษตร ได้ดำเนินการแล้ว 87% และมาตรการเสริม ได้แก่ การส่งเสริมอาชีพด้านประมง ด้านปศุสัตว์ การฝึกอบรมภาคการเกษตรและนอกภาคการเกษตร การสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ตระกูลถั่วและพืชปุ๋ยสด ดำเนินการแล้ว 90% คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2558 ได้แก่ โครงการปลูกพืชฤดูแล้ง เป้าหมายรวม 9.11 ล้านไร่ (ในเขตชลประทาน 3.06 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 6.05 ล้านไร่) ปัจจุบันเกษตรกรได้มีการปลูกพืชฤดูแล้งไปแล้วกว่า 10.88 ล้านไร่ แยกเป็นในเขตชลประทาน 5.61 ล้านไร่ นอกเขตชลประทาน 5.27 ล้านไร่ และโครงการช่วยเหลือพื้นที่แล้งซ้ำซาก มีเป้าหมายช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากสภาวะในเขื่อนน้อยให้มีรายได้ทดแทนรายได้จากการเกษตร ขณะนี้ได้ฝึกอบรมและสนับสนุนปัจจัยการผลิตเพื่อส่งเสริมอาชีพด้านการประมง โดยมี 2 กิจกรรม คือ การเลี้ยงปลาดุกในบ่อพลาสติกและการเลี้ยงกบในกระชัง เกษตรกร 3,574 ราย ในพื้นที่ 18 จังหวัด เป็นเงิน 8,603,300 บาท ซึ่งได้ดำเนินการแล้วในพื้นที่ 3 จังหวัด คือ ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี จำนวน 408 ราย เป็นเงิน 811,400 บาท รวมเงินงบกระตุ้นเศรษฐกิจที่ใช้จ่ายแล้ว 84,470 ล้านบาท

สำหรับ โครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง โดยให้ชุมชนออกแบบโครงการเอง เพื่อจะได้มีงานทำและมีรายได้ในช่วงฤดูแล้ง พื้นที่เป้าหมาย 3,052 ตำบลๆ ละ 1 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการเกษตร เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของชุมชน จ้างแรงงาน และสนับสนุนความต้องการของชุมชนผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ซึ่งได้มีการเสนอโครงการมาจากระดับตำบลกว่า 1,500 ตำบล ผลการพิจารณาของคณะกรรมการบริหารโครงการฯระดับกระทรวง ได้เห็นชอบโครงการแล้ว 707 โครงการ ในพื้นที่ 385 ตำบล 43 จังหวัด วงเงิน 334.7 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ทั้ง 3,052 ตำบล จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในเมษายน 2558 จากนั้นก็จะจ่ายเงินลงสู่พื้นที่ให้ชุมชนดำเนินการบริหารจัดการพัฒนาการเกษตรตามเป้าหมายต่อไป

ส่วน โครงการเพิ่มรายได้เพื่อช่วยเหลือชาวนา ที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้านี้แล้ว มีเป้าหมายจ่ายเงินให้เกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 15 ไร่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้แสดงจำนวนเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียน เพื่อติดประกาศ จำนวน 3,602,646 ครัวเรือน เนื้อที่เพาะปลูก 39,156,048.16 ไร่ และส่งข้อมูลให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ดำเนินการจ่ายเงิน ซึ่งมีผลการจ่ายเงิน ณ วันที่ 18 มี.ค. 58 ดำเนินการจ่ายเงินแล้วจำนวน 3,565,401 ราย พื้นที่ 38,866,010 ไร่ จำนวนเงิน 38,866,010,250 บาท ส่วนที่เหลือมีปัญหาเรื่องเอกสารหลักฐานไม่ถูกต้อง อาทิ หลักฐานการครอบครองที่ดิน ซึ่งได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ร่วมกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เร่งตรวจสอบเพื่อจะได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรโดยเร็ว และ โครงการชดเชยรายได้ให้ชาวสวนยาง มีเป้าหมายจ่ายเงินชดเชยให้เกษตรกรในพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ ไร่ละ 1,000 บาท ครอบครัวละไม่เกิน 15 ไร่ ปัจจุบันได้จ่ายให้เงินให้เกษตรกรแล้ว766,627 ราย เนื้อที่เพาะปลูก 7,695,768 ไร่ วงเงิน 7,695.768 ล้านบาท ยังมีปัญหาบางส่วนที่เข้าทำกินในที่ดินของรัฐและไม่มีเอกสารสิทธิ์ ซึ่งอยู่ระหว่างหามาตรการช่วยเหลือ ส่วนโครงการสนับสนุนสินเชื่อเกษตรกรชาวสวนยางรายย่อยเพื่อประกอบอาชีพเสริม มีเป้าหมาย 100,000 ครัวเรือนๆ ละไม่เกิน 100,000 บาท วงเงิน 10,000 ล้านบาท ขณะนี้ ธ.ก.ส.ได้อนุมัติแล้ว12,775 ครัวเรือน วงเงิน 1,186.32 ล้านบาท หรือประมาณ 12 % จากเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 111,210 ราย ใน 62จังหวัด

ขณะเดียวกันยังเร่งรัดการลงทุนภาครัฐ โดยได้ดำเนินโครงการใช้จ่ายงบลงทุน (งานก่อสร้าง) ของกรมชลประทานโดยมีงบลงทุนวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท จำนวน 6,922 รายการ วงเงิน 35,061.71 ล้านบาท ปัจจุบันดำเนินการแล้ว 6,732รายการ วงเงิน 34,215.88 ล้านบาท คิดเป็น 80 % ส่วนงบลงทุนวงเงินเกิน 500 ล้านบาท มี 2 รายการ วงเงิน 567.75 ล้านบาท อยู่ระหว่างเตรียมลงนามสัญญาในเดือนมีนาคมนี้ จำนวน 2 รายการ วงเงิน 567.75 ล้านบาท

สุดท้าย โครงการใช้จ่ายงบลงทุน (งานก่อสร้าง) ของกรมพัฒนาที่ดิน มีเป้าหมายงบลงทุนวงเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท จำนวน 16 รายการ ซึ่งดำเนินการจัดจ้างครบแล้ว วงเงิน 286.44 ล้านบาท ส่วนงบลงทุนวงเงินเกิน 500 ล้านบาท มี 2 รายการ วงเงิน 1,589.44 ล้านบาท ดำเนินการจัดจ้างแล้ว 1 รายการ วงเงิน 1,565.20 ล้านบาท และมีโครงการขุดบ่อน้ำในไร่นา เป้าหมาย 50,000 บ่อ ได้โอนเงินให้ท้องถิ่นดำเนินการขุดเสร็จแล้ว 16,480 บ่อ เบิกจ่ายแล้ว 204 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version