11 มหาวิทยาลัยผนึกพลังร่วม “เครือข่ายมหาวิทยาลัย ปี 2” สู่มหาวิทยาลัยรับใช้สังคม

ศุกร์ ๒๐ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๕๕
สสส. มูลนิธิสยามกัมมาจล มสช. สภาคณบดีทางศิลปะฯ และ 11 มหาวิทยาลัยชื่อดัง หนุนเครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์สังคมปี 2 เปิดโอกาสนศ.นิเทศศาสตร์-นิเทศศิลป์ 14 คณะ เรียนรู้-สร้างสรรค์สื่อ จาก “โจทย์จริง” เพื่อสร้างนักสื่อสารรุ่นใหม่มีสำนึกความเป็นพลเมืองไม่นิ่งดูดายต่อสังคม พร้อมหวังมหาวิทยาลัยปรับการเรียน เปลี่ยนการสอนสู่มหาวิทยาลัยรับใช้สังคมอย่างแท้จริง

เครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์สังคม ปี 2 มี 11 มหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศเข้าร่วมได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร มหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปัตตานี สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ส่งนักศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์และคณะนิเทศศิลป์ จำนวน 14 คณะ เข้าร่วมเรียนรู้ โดยมีมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ(มสช.) มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) สนับสนุนการขับเคลื่อนเครือข่ายมหาวิทยาลัยสร้างสรรค์สังคม (University Network for Change : UNC) ภายใต้โครงการเสริมสร้างพลังเยาวชนสร้างสรรค์สื่อเพื่อสังคมไทยที่น่าอยู่ เพื่อสนับสนุนให้สถาบันการศึกษาที่มีหลักสูตรด้านนิเทศศาสตร์-นิเทศศิลป์ ร่วมกับภาคประชาสังคม เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้และสร้างสรรค์ผลงานจากพื้นที่จริง มหาวิทยาลัยนำกระบวนการเข้าสู่ห้องเรียนและสามารถปรับการเรียน เปลี่ยนการสอนได้จริง สู่มหาวิทยาลัยรับใช้สังคมได้อย่างแท้จริง

นางปิยาภรณ์ มัณฑะจิตร ผู้จัดการมูลนิธิสยามกัมมาจล กล่าวว่า “โครงการปีนี้เป็นปีที่สอง หลักการทำอย่างไรให้การเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยสามารถจะเชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดในสังคมได้ ทางหนึ่งก็คือว่าทางภาคประชาสังคมเข้ามาร่วมให้โจทย์ในบ้านเราในพื้นที่ต่างๆ เกิดปรากฏการณ์อะไรขึ้น พวกเราเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ใช้ความรู้ที่มีคลี่คลายปัญหาได้หรือไม่ เป็นเรื่องสำคัญที่มหาวิทยาลัยต้องเริ่มคิด เครือข่ายมหาวิทยาลัยด้านศิลปะ คณบดีทุกท่านเห็นร่วมกันว่าต้องเปลี่ยนการเรียนการสอน นี่เป็นก้าวสำคัญของคณะของอาจารย์ ที่จะลองทำงานร่วมกันกับภาคประชาสังคม หรือปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนขึ้นมา น้องๆ ที่เข้าร่วมโครงการน่าจะภูมิใจเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการปรับการเรียนเปลี่ยนการสอน ที่จะทำให้การเรียนการสอนคณะของเราสามารถที่จะไปเชื่อมโยงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคมได้ ปีสองเข้มข้นขึ้น มีคณะต่างๆ มหาวิทยาลัยต่างๆ ร่วมคิดร่วมกันขับเคลื่อนได้ชัดขึ้น จะเห็นว่าปีนี้หลายมหาวิทยาลัยเริ่มเอากิจกรรมแบบนี้ไปร้อยหรือไปหนุนการเรียนการสอนในคณะของตัวเอง และมีวิธีการจัดการที่ไม่เหมือนกัน ตรงนี้น่าสนใจที่เราจบกระบวนการแล้วเราน่าจะได้มาดูกันว่าเราจะได้เห็น “นวัตกรรมการปรับการเรียนการสอน”ออกมาที่หลากหลายอย่างไรบ้าง เป้าหมายคือแต่ละคณะปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนได้จริง กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ องค์กรต่างๆ ช่วยกันทำงานมีมากมาย ไม่ว่าที่ประชุมคณบดีด้านศิลปะ มสช.ที่เชื่อมภาคประชาสังคมเข้ามามีหลายมูลนิธิ หลายองค์กรและมี สสส.เข้ามาร่วมมูลนิธิสยามกัมมาจลสนับสนุนการทำงานครั้งนี้ จะเห็นว่าพวกเราต้องการที่จะเข้ามาหนุนกิจกรรมในมหาวิทยาลัยให้เกิดสิ่งที่เรียกว่ามหาวิทยาลัยรับใช้สังคม ปรับการเรียนเปลี่ยนการสอนที่จะเชื่อมวิชาการ นักศึกษา มหาวิทยาลัย คณาจารย์กลับไปสู่สังคมได้ เราก็หวังว่าการทำงานร่วมกันครั้งนี้มันจะไม่ใช่แค่กิจกรรมที่จะมาเวิร์คช้อปเจอกันเท่านั้น แต่จะเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของคน ขององค์กร และก็นำไปสู่การร่วมมือกันที่จะทำงานในทิศทางที่เกิดประโยชน์กับมหาวิทยาลัย คณาจารย์ นักศึกษา และสังคมโดยรวมได้จริง”

สำหรับประเด็นทางสังคมที่เป็นโจทย์ให้นักศึกษาได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ได้แก่ ประเด็นด้านทรัพยากร - สิ่งแวดล้อม ที่ดินทำกิน แรงงาน-กลุ่มชาติพันธ์ คนพิการ เด็ก เยาวชน และ เกษตรกรรม โดยมีภาคประชาสังคมเป็นผู้ให้ข้อมูล อาทิ มูลนิธิชุมชนไท มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก สหกรณ์กรีนเนท เป็นต้น ที่ผ่านมานักศึกษาได้ร่วมเวิร์คช้อปพัฒนางานไปแล้ว 2 ครั้ง และ ได้ลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูล อาทิ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.นเรศวร และคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.ศิลปากร ได้ลงพื้นที่หมู่บ้านคลองรั้ว จ.กระบี่ เพื่อศึกษาถึงผลกระทบต่อชาวบ้านต่อการตั้ง โรงไฟฟ้าที่กระบี่ ส่วน คณะวิทยาการสื่อสาร ม.สงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี ติดตามเรื่องท่าเรือน้ำลึก ปากบารา สตูล เป็นต้น จะมีเวิร์คช้อปครั้งที่ 3 ในวันที่ 5 เมษายน 2558 ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การรวมพลังครั้งนี้ของ 11 มหาวิทยาลัย จะได้เห็นผลงานของนักศึกษาที่หลากหลายและน่าสนใจเพียงไร และจะสะท้อนปัญหาสังคมได้อย่างแท้จริงหรือไม่ สนใจติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ www.scbfoundation.com

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO