นายแพทย์สมศักดิ์ มุนีพีระกุล นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย(TREBA) เปิดเผยว่า ในวันที่ 23 เมษายน 2558 นี้ สมาคมฯ จะจัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2558 ณ ห้องประชุม ชั้น 9 อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต เพื่อรายงานผลการดำเนินงานในรอบปี 2557และทิศทางการบริหารกิจการของสมาคมฯ รวมทั้งจะจัดให้มีการแถลงนโยบายด้านกฎหมายและจรรยาบรรณ รวมทั้งการฝึกอบรมและสัมมนาเพื่อพัฒนาและให้ความรู้กับสมาชิกมีความพร้อมในการทำงาน โดยงานดังกล่าวนอกจากจะเป็นการรวบรวมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์จากทั่วประเทศ เพื่อร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นในแง่มุมต่าง ๆ ของการทำงานแล้วยังจัดให้มีการเสวนาเรื่อง “ปัญหาและอุปสรรค ของผู้ที่ประกอบวิชาชีพนายหน้า” จากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิและมีประสบการณ์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มือสองพร้อมเปิดโอกาสให้สมาชิกได้สอบถามและแลกเปลี่ยนทัศนคติ รวมทั้งได้ถกถึงปัญหาต่าง ๆ เพื่อค้นหาทางออกร่วมกัน เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการขายและการตลาด รวมทั้งปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภค โดยเฉพาะการยื่นกู้เพื่อขอสินเชื่อกับสถานบันการเงินในสถานการณ์ที่แบงก์มีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อฯลฯ นอกจากนี้แล้วยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย การประเมินราคา และเรื่องอื่น ๆ ที่มีผลกระทบกับการซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์มือสอง เชื่อว่าการประชุมใหญ่ในปีนี้จะเป็นการเปิดโอกาสให้สมาชิกฯ มีโอกาสได้แชร์และแลกเปลี่ยนความคิดด้านต่าง ๆ เพื่อให้สามารถนำไปประยุกต์ในการทำงานได้
นายกสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ไทย เปิดเผยเพิ่มเติมถึงสถานการณ์ของตลาดอสังหาริมทรัพย์มือสองว่า ในช่วงครึ่งไตรมาสแรกของปีนี้ตลาดว่าจะไม่หวือหวามากนัก เนื่องจากปัญหาด้านเศรษฐกิจของประเทศที่ยังไม่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้ ส่งผลให้การตัดสินใจซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองชะลอตัวลง โดยเฉพาะบ้านมือสองระดับราคาตั้งแต่ 10 ล้านขึ้นไป ส่งผลให้การซื้อเพื่อการลงทุนอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งปกติแล้วระหว่างการซื้อเพื่ออยู่อาศัยและการอยู่เพื่อการลงทุนนั้นอยู่ในสัดส่วน 50:50 เนื่องจากนักลงทุนเริ่มลังเลไม่ตัดสินใจในช่วงนี้ จึงมีผลต่อภาพรวมของตลาดตั้งแต่ปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งยอดขายอสังหาริมทรัพย์มือสองทั้งระบบนั้นอยู่ที่ประมาณ 5-6 หมื่นยูนิตเท่านั้น ในขณะที่การซื้อ-ขายในช่วงปกติเฉลี่ยประมาณ 7-8 หมื่นยูนิตต่อปี อย่างไรก็ตาม คาดว่าภาพรวมของตลาดในปีนี้น่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 5 เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้น เมื่อการส่งออกมีปัญหาจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ