“ณ จุดนี้ขอให้ทุกฝ่ายลืมชื่อ SLC NMG สปริงนิวส์ เนชั่น เพียงยึดหลักว่า ไม่ว่าชื่อหรือช่องข่าวอะไรถ้าถือหุ้นร่วมกันเกินร้อยละ10 คือขัดกติกา กสทช. ซึ่งตามความเห็นอนุที่ปรึกษากฎหมาย ถ้าเรายึดกฎกติกาที่วางไว้ ปัญหาจะหมดไป ไม่เกี่ยวว่าบริษัทกลุ่มทุนสีใด ถ้าเนชั่นไปมีผลประโยชน์ร่วมกับช่องสปริงนิวส์ ถือหุ้นแบบกลับกันก็ขัดกับกติกา ที่ กสทช.วางสัดส่วนไว้แล้วคือ 1 บริษัทถือครองไม่เกิน 3ช่อง คนถือช่องHD ห้ามถือครองช่องข่าว เพื่อประกันความหลากหลายของสื่อ และเพื่อความเป็นอิสระของข้อมูลข่าวสาร ปลอดจากผู้มีอำนาจควบคุมกิจการ ถ้าหาก กสท.ไม่ตัดสินว่าถูก-ผิดในวันจันทร์นี้ เสนอให้ภาคส่วนต่างๆใช้สิทธิ์ฟ้องร้อง หรือตัดสินแล้วฝ่ายใดคิดว่าไม่ถูกต้องก็ใช้สิทธิ์ฟ้องร้อง คนถือช่อง HD ด้วยกัน หรือช่องข่าวด้วยกันก็ต้องไม่เป็นผู้มีผลประโยชน์ร่วมกัน” นางสาวสุภิญญา กล่าว
นางสาวสุภิญญา กล่าวถึง เหตุผลในตอนนั้นที่มีการขยายให้ผู้ประมูลใบอนุญาตดิจิตอลทีวีช่องHD ช่องข่าว และช่องวาไรตี้ SD ก็เพื่อให้ผู้เล่นหน้าใหม่ๆมีโอกาสเข้าสู่ตลาดมากขึ้น จึงต้องรักษากติกาให้ผู้เล่นในตลาดคึกคัก15ปี รวมทั้งการที่เราขยายคลื่นให้ธุรกิจเข้าประมูลได้มากรายขึ้นเท่ากับไปเบียดบังการใช้คลื่นไปเพื่อประโยชน์อื่น เช่น ทีวีชุมชนต้องรอคืนแอนาล็อก หากสุดท้ายปล่อยให้ควบรวมกันเองได้จนเหลือน้อยราย เราก็คงไม่จำเป็นต้องใช้ศักยภาพคลื่นความถี่มาเปิดประมูลให้ผู้เล่นมากราย สังคมต้องปกป้องฝ่ายที่รักษากติกาและไม่เห็นด้วยกับคนที่ไม่ทำตามกติกา เพื่อรักษากติกากลางให้เดินไปข้างหน้าเพื่อรักษาประโยชน์สาธารณะซึ่ง กติกาทั้งหมดถูกออกแบบมาล่วงหน้า เพื่อให้เกิดการใช้คลื่นอย่างคุ้มค่า.