กสิกรไทยเสริมภูมิคุ้มกันผู้ประกอบการรายใหญ่ สร้างเครือข่ายพันธมิตรสู้เศรษฐกิจโลก

พุธ ๒๕ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๐:๕๐
กสิกรไทยชี้ทางออกแก่ผู้ประกอบการรายใหญ่ของไทยเร่งหาพันธมิตรทางธุรกิจในกลุ่มเครือข่ายอุตสาหกรรม เสริมภูมิต้านทานทางการตลาดและการเงินต่อปัจจัยเสี่ยงและความผันผวนของเศรษฐกิจโลกให้สามารถบริหารสภาพคล่องและขยายตลาดสู่ต่างประเทศท่ามกลางความเปราะบางของตลาดโลกได้ พร้อมตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมทั้งปีเติบโต 13% ขึ้นแท่นเป็นธนาคารหลักในการทำธุรกรรมของกลุ่มลูกค้าธุรกิจ

นายจงรัก รัตนเพียร รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการธุรกิจรายใหญ่ของไทย ได้เสริมความแข็งแกร่งทางการเงินอย่างต่อเนื่อง ผ่านการมีวินัยทางการเงินและความสามารถในการจัดการธุรกิจและบริหารเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จากอัตราการเติบโตของยอดขายและหนี้สินที่สอดคล้องกันอยู่ที่ประมาณ 11% ทั้งยังพบว่าการบริหารต้นทุนปรับตัวดีขึ้น จากการเติบโตของกำไรสุทธิสูงกว่ายอดขายที่ 15% และ 11% ตามลำดับ รวมทั้งมีแนวโน้มของภาระหนี้สินที่ลดลง โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนลดลงจาก 3.2 เท่าเป็น 2.9 เท่า จึงทำให้มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยสูงกว่า 20 เท่า ชี้ให้เห็นศักยภาพทางการเงินที่จะต้านทานความผันผวนทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวมของโลกยังมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นราคาน้ำมัน อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินหลัก ประกอบกับสัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักในตลาดโลกที่ยังไม่ชัดเจน ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญต่อการบริหารต้นทุนและความเสี่ยงเพื่อเสริมภูมิต้านทานทางการเงิน

ทั้งนี้ ธุรกิจจะเติบโตไปได้ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจผันผวน จำเป็นที่จะต้องรวมกลุ่มเป็นพันธมิตรในเครือข่ายอุตสาหกรรมหรือห่วงโซ่ธุรกิจ (Value Chain) ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่าย และเวลาในการบริหารจัดการที่จะส่งผลโดยตรงต่อต้นทุน ซึ่งการรวมกลุ่มพันธมิตรยังสามารถสร้างโอกาสทางการค้าและการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่เป็นต้นน้ำของอุตสาหกรรมหลักซึ่งมีความแข็งแกร่งทางธุรกิจมากที่สุดได้มีการเปิดตลาดในภูมิภาค AEC บ้างแล้ว โดยเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าโครงการการลงทุนในต่างประเทศจาก 8 แสนล้านบาทเป็นกว่า 1 ล้านล้านบาท ซึ่งกลุ่มพันธมิตรในห่วงโซ่ธุรกิจสามารถร่วมมือกับผู้นำห่วงโซ่เปิดตลาดในภูมิภาคใหม่ๆ ได้ นับเป็นการช่วยลดความเสี่ยงของการหาตลาดใหม่เองโดยปราศจากเครือข่ายของพันธมิตรทางธุรกิจ

นายจงรัก กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2558 นี้ ธนาคารกสิกรไทยมีแผนขยายเป้าหมายการให้บริการ K-Value Chain Solutions ไปยังธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิเช่น ขนส่ง อาหารและเครื่องดื่ม เกษตรอุตสาหกรรม และธุรกิจค้าส่ง เป็นต้น ผ่านการให้คำแนะนำและการทำจับคู่ทางธุรกิจ (Business Matching) เพื่อให้คำตอบที่ครบวงจรแก่ผู้ประกอบการและส่งเสริมการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น

สำหรับผลประกอบการของสายงานธุรกิจลูกค้าบรรษัทปี 2558 นี้ มั่นใจว่าจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าที่ 4-5% โดยตั้งเป้ารายได้ค่าธรรมเนียมทั้งปีที่ 13% ขึ้นแท่นอันดับ 1 ในการเป็นธนาคารหลักในการทำธุรกรรมของกลุ่มลูกค้าธุรกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ