สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนระวังโรคลิชมาเนีย พร้อมตอบข้อสงสัยประชาชน

เสาร์ ๒๑ มีนาคม ๒๐๑๕ ๑๑:๓๗
สมาคมแพทย์ผิวหนังฯ เตือนประชาชนพึงระวังโรคลิชมาเนีย หลังเกิดกระแสข่าวการระบาดของโรค ซึ่งมีสาเหตุมาจากแมลงริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมีย เผยการป้องกันด้วยวิธีง่าย ๆ หากจำเป็นต้องเข้าป่าหรือทำสวนควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดและประชาชนท่านใดมีข้อสังสัย สามารถส่งอีเมล์มาที่ [email protected] ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ พร้อมตอบข้อคำถามทุกข้อ

ผศ.พญ.สุวิรากร โอภาสวงศ์ ประธานประชาสัมพันธ์สมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทย กล่าวถึง กรณีพบผู้ป่วยโรคลิชมาเนีย ซึ่งเกิดจากการกัดของแมลงริ้นฝอยทราย (Sand fly) เพศเมียที่มีเชื้อลิชมาเนียและทำให้เกิดโรคได้ทั้งในคนและสัตว์อีกหลายชนิด เช่น หนู สุนัข แมว ม้า วัว ควาย ว่า โรคผิวหนังชนิดนี้เมื่อก่อนถือว่าไม่ใช่ปัญหาของประเทศไทยเพราะเราไม่มีพาหะของโรค คือ แมลงริ้นทราย พบผู้ป่วยเฉพาะที่ได้รับเชื้อจากการไปทำงานที่ประเทศตะวันออกกลาง ตั้งแต่ปี 2539 เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่า ในประเทศไทยมีเชื้อลิชมาเนีย โดยจะเป็นเชื้อคนละสายพันธ์กับที่เคยได้รับจากประเทศตะวันออกกลาง คือ เชื้อ ลิชมาเนีย ไซแอมเมนซิส ( Leishmania siamensis) ซึ่งทำให้เกิดโรคในคนไทยโดยมีการระบาดที่จังหวัดตรังและภาคใต้ แต่ก็พบกระจัดกระจายตามภาคอื่นด้วย? โดยจะพบในทุกเพศ ทุกวัย ทั้งผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติ หรือ คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง

พบการระบาดครั้งล่าสุดที่จังหวัดตรัง เมื่อปี2553 โดยมีผู้ป่วยเพศหญิงเสียชีวิต ด้วยโรคลิชมาเนีย ที่เกิดจากตัวลิ้นชนิดหนึ่งที่เรียกว่าริ้นฝอยทรายด้วยการกัดและนำเชื้อโปรโตรซัวที่เรียกว่าลิชมาเนีย เข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดการติดเชื้อที่ผิวหนัง ทำให้แผลเปื่อยและเกิดโรคแทรกซ้อนในอวัยวะภายใน เช่น ตับ ไต ม้ามและกระดูกไขสันหลัง ซึ่งโรคดังกล่าวทางองค์การอนามัยโลกกําหนดให้เป็น 1 ใน 5 ของโรคเป็นโรคติดเชื้อที่อุบัติใหม่ทางวงการแพทย์ ผู้ป่วยจะมีแผลเปื่อย มีไข้เป็นๆ หายๆ อ่อนเพลีย น้ำหนักลดลง ผิวสีคล้ำขึ้น ส่วนแผลที่เป็นรอยกัดจะมีลักษณะเฉพาะเป็นแผลขอบนูนแข็ง ข้างในเป็นสะเก็ดขาว ๆ

ริ้นฝอยทราย (sand fly) เป็นแมลงที่กัดกินเลือดคนและสัตว์ เมื่อดูดเลือดคนและสัตว์ที่ป่วยเป็นโรคลิชมาเนีย ก็จะแพร่โรคไปสู่คนอื่นได้ พบในแถบตะวันออกกลาง อาการของโรคแบ่งได้ 3 ชนิด คือ ชนิดที่ไม่รุนแรง จะมีอาการที่ผิวหนัง มีตุ่มเล็ก ๆ ที่ผิวและแตกออกเป็นแผล อาจมีกว่า 100 แผลก็ได้ และชนิดรุนแรงที่ทำให้ติดเชื้อที่อวัยวะภายในมีชื่อเรียกว่า โรคคาลา อาซา (Kala azar) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้เรื้อรัง ซีด น้ำหนักลด ม้ามและตับโตหมดเรี่ยวแรง และชนิดที่ 3 เป็นชนิดที่เกิดขึ้นกับเยื่อเมือก ซึ่งจะมีลักษณะคล้ายกับที่เกิดขึ้นที่ผิวหนังแต่จะเกิดแผลลุกลามในอวัยวะที่มีเยื่อเมือกเช่น จมูก ปาก เป็นต้น

ผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้หากไม่ได้รับการรักษา โดยเฉพาะชนิดที่ทำให้ติดเชื้อที่อวัยวะภายใน จะทำให้อัตราป่วยเพิ่มขึ้น100 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2 ปีและอาจทำให้เสียชีวิตได้ มักเป็นโรคของคนในชนบท เนื่องจากเชื้อมักจะพบในผู้ที่อยู่ในบ้านใกล้กับป่าหรือทำงานในป่า อาการโรคเบื้องต้น คือ จะมีผื่นนูนเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง และกลายเป็นแผล หายช้า มีไข้เรื้อรัง เป็น ๆ หาย ๆ ซีด ท้องอืด ตับม้ามโต และน้ำหนักลด วิธีป้องกันแนะชาวบ้านถางหญ้ารอบ ๆ บ้านให้โล่งเตียน โดยเฉพาะชาวชนบท การรักษาโรคลิชมาเนีย ในปัจจุบันจะใช้ยาฉีด 2 ชนิด คือ ชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ ฉีดเป็นเวลา 14 วัน และชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดติดต่อกันเป็นเวลา 30 วัน การรักษาได้ผลดีและหายขาด

โรคลิชมาเนียสามารถป้องกันได้โดย 1. สวมใส่เสื้อผ้ารัดกุมมิดชิด เมื่อต้องเข้าไปทำงานหรือพักค้างคืนในพื้นที่ที่คาดว่ามีริ้นฝอยทรายอาศัยอยู่เช่นในสวน ป่า หรือในสถานที่รกทึบ 2. ทายากันยุงให้ทั่ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาและแขน3. นอนในมุ้งที่ชุบด้วยสารกำจัดแมลง 4. ฉีดพ่นสเปรย์กำจัดยุงและแมลงภายในบ้าน 5. ดูแลบริเวณบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ให้มีสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เพราะเป็นแหล่งรังโรคที่สำคัญ 6. หลีกเลี่ยงการเลี้ยงสัตว์ในบริเวณที่พักอาศัยและใช้สารกำจัดแมลงบนตัวสัตว์ตามคำแนะนำของสัตวแพทย์

สำหรับในประเทศไทยนั้น เคยมีรายงานพบโรคนี้ 2 ช่วง คือในปี 2503-2529 และช่วงที่ 2 คือตั้งแต่ปี 2548 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพบโรคนี้ในคนที่ไม่เคยเดินทางออกนอกประเทศมาก่อนและผู้ป่วยมีทั้งคนที่มีระดับภูมิคุ้มกันปกติและภูมิคุ้มกันบกพร่อง พบทั้งในภาคใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ รวมทั้งชาวพม่าที่เข้ามารักษาตัวในประเทศไทยอีกด้วย นอกจากนี้ในกลุ่มคนไทยที่เดินทางเข้าไปทำงานในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นแหล่งระบาดของโรค หรือกลุ่มคนไทยที่มีประวัติไปทำงานในประเทศแถบตะวันออกกลางและคนไทยมุสลิมที่ไปร่วมพิธีฮัจย์ ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย หากประชาชนท่านใดมีข้อสังสัย สามารถส่งอีเมล์ มาที่ [email protected] ทางสมาคมแพทย์ผิวหนังฯ จะมีแพทย์คอยตอบคำถามเพื่อไขข้อสงสัยให้อยู่เสมอ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version