โอเพ่นสกายส์ “คือโมเดลแห่งความสำเร็จซึ่งสร้างประโยชน์มหาศาลแก่นักเดินทางและสายการบินต่างๆในสหรัฐฯ ยูเออี และจุดหมายปลายทางต่างๆทั่วโลก” มร.เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานกรรมการบริหารสายการบินเอทิฮัด กล่าวในวันนี้ที่ การประชุมสุดยอดด้านการบินประจำปีครั้งที่ 14 ณ มูลนิธิหอการค้าสหรัฐฯ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
นับเป็นการแสดงความคิดเห็นเป็นครั้งแรกของ มร.เจมส์ โฮแกน ตั้งแต่ 3 สายการบินของสหรัฐฯ ได้เปิดตัวแคมเปญเพื่อต่อต้านสายการบินเอทิฮัด และสายการบินจากภูมิภาคปากอ่าว มร.เจมส์ โฮแกนเรียกร้องให้มีการอภิปรายอย่างมีเหตุผลบนพื้นฐานแห่งข้อเท็จจริง มร.เจมส์ โฮแกน กล่าวเตือนว่าการต่อต้านดังกล่าวจะเป็นการจำกัดตัวเลือกแก่นักเดินทางชาวสหรัฐฯ และนักเดินทางนานาชาติอีกนับล้านคนในการเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางในตลาดต่างๆที่สายการบินของสหรัฐฯเลือกที่จะไม่ให้บริการ
คำกล่าวปราศรัยของ มร.เจมส์ โฮแกน วางอยู่บนข้อเท็จจริงที่สำคัญของสายการบินเอทิฮัดด้านการเติบโตและกลยุทธ์การแข่งขัน
“ไม่ว่าจะเป็นสายการบินแห่งชาติรายใหม่ใดๆในโลกก็ตาม เราต้องเริ่มสร้างทุกอย่างจากร่าง ทุกรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ ทุกรายละเอียดของการดำเนินการ ทุกรายละเอียดของโครงสร้างพื้นฐาน” มร.เจมส์ โฮแกน กล่าว
“เอทิฮัดคือดาวิด ดาวิดผู้ซึ่งเผชิญหน้ากับยักษ์โกไลแอทมาตั้งแต่ปี 2546 ตั้งแต่เราเริ่มสร้างสายการบิน ในแทบทุกๆตลาดที่เราได้เข้าไปดำเนินการเราต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่มีอยู่แล้วในตลาด ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งธุรกิจ โครงสร้างพื้นฐาน การตลาดและการขาย เริ่มสร้างแบรนด์ ตลอดจนการเริ่มสร้างฐานลูกค้า”
“ในหลายๆกรณี สายการบินที่เกิดใหม่เหล่านั้นคือของขวัญอันน่าทึ่งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็น สนามบิน อาคารที่พักผู้โดยสาร สล็อต สิทธิในการลงจอด – มาหลายทศวรรษ”
“เพื่อให้กิจการเดินหน้าต่อไปได้ เราต้องทำงานอย่างหนักยิ่งขึ้นและทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น หรือก็คือการแข่งขันนั้นเอง”
“ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของเราเป็นส่วนหนึ่งที่ให้เราประสบความสำเร็จ ณ วันนี้ภูมิภาคปากอ่าวเป็นเส้นทางศูนย์กลางทางด้านการค้าและการท่องเที่ยว ด้วยเทคโนโลยีเครื่องบินที่ทันสมัยและการเปลี่ยนรูปแบบของการค้าโลกส่งผลให้เรามีจุดยืนที่แข็งแกร่งในตลาดใหม่และตลาดที่กำลังเกิดขึ้นต่างๆ”
“เราได้รับความช่วยเหลือจากกระดาษที่ว่างเปล่า ปราศจากระบบเก่าที่ตกทอดมา ไม่มีเครื่องบินเดิมที่ตกทอดมาให้ ไม่มีแนวคิดเดิมๆที่สืบทอดกันมา”
“และเราได้รับการผลักดันอย่างหนักจากวิสัยทัศน์และความกระตือรือร้นของผู้ถือหุ้นในการสร้างสายการบินที่แข่งขันได้ในระดับโลก”
มร.เจมส์ โฮแกน กล่าว “ความลับ” เบื้องหลังการเติบโตอย่างรวดเร็วของสายการบินเอทิฮัดไม่มีอะไรมากกว่าการบริการลูกค้าอันน่าประทับใจ การมอบเครื่องบินอันทันสมัย ผลิตภัณฑ์ชั้นนำระดับโลกในราคาที่สมเหตุผล บนเส้นทางที่ผู้คนต้องการบิน”
มร.เจมส์ โฮแกน ยังได้กล่าวอีกว่า สายการบินเอทิฮัดมีความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจมากกว่าสายการบินอื่นๆ
“สายการบินเอทิฮัดให้ความสำคัญเป็นอย่างมากในการเข้าถึงและการมอบผลกำไรอันยั่งยืน ซึ่งเราเชื่อว่ามี มากยิ่งกว่าสายการบินแห่งชาติใดๆในหน้าประวัติศาสตร์” มร.เจมส์ โฮแกน กล่าว “เรากำหนดเป้าหมายที่จะต้องสำเร็จลุล่วงภายใน 1 ทศวรรษและเราก็สามารถทำได้สำเร็จ เราได้ส่งมอบกำไรสุทธิทุกๆปีตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา”
“ที่ผมกล่าวว่า “เรามีความเชื่อมั่น” เพราะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งที่จะหาข้อมมูลทางการเงินของสายการบินแห่งชาติใดๆจากทั่วโลกในช่วงทศวรรษแรกหรือทศวรรษที่สอง เราได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างสม่ำเสมอว่าขาดความโปร่งใสในเมื่อเราก็เห็นว่ามีสายการบินแห่งชาติเพียงไม่กี่แห่งที่ยอมเปิดเผยขั้นแรกๆของการพัฒนาเช่นเดียวกับเรา”
ในฐานะสายการบินแห่งชาติที่มีรัฐบาลเป็นเจ้าของ, มร.เจมส์ โฮแกน กล่าว,สายการบินเอทิฮัดไม่แตกต่างสายการบินที่อันเชื่อถืออื่นๆจากทั่วโลก สายการบินฯได้เน้นย้ำให้รู้ว่าได้รับเงินกู้ยืมเงินลงทุนในตราสารทุนและเงินให้กู้ยืมจากผู้ถือหุ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นเม็ดเงินถึง 10.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ จากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
“ผู้ถือหุ้นของเรามีความเชื่อมั่นในแผนธุรกิจของเรา และพวกเขาได้เพิ่มพันธะเมื่อธุรกิจของเราได้มีการพัฒนา – พวกเขาจึงลงทุนบนความสำเร็จของเรา”
“พวกเขาได้เห็นความสำเร็จที่เราได้ส่งออกไป ทั้งในด้านธุรกิจของเราและส่งผลดีต่อธุรกิจอื่นๆ อาทิการค้าและการท่องเที่ยว ในอาบู ดาบีและยูเออี ณ ขณะนี้เราไม่เป็นเพียงแต่สายการบินแต่เราเป็นกลุ่มการบินที่ประสบความสำเร็จ โดยรวมไว้ซึ่งขีดความสามารถในการจัดการ บำรุงรักษา และการจัดจำหน่าย”
“ผู้ถือหุ้นของเราก็เฉกเช่นเดียวกับผู้ถือหุ้นทั่วโลกเลือกที่ลงทุนไปกับเราเพราะหวังผลตอบแทนกลับมา และเมื่อได้เห็นธุรกิจของเรายิ่งประสบความสำเร็จ ก็ยิ่งได้เห็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่มากยิ่งขึ้นไปในอนาคต”
“สาระสำคัญคือผลตอบแทน”
มร.เจมส์ โฮแกนยังได้ กล่าวสรุปว่าสายการบินเอทิฮัดได้มีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจของสหรัฐฯโดยตรงผ่านบริการเที่ยวบินรายวันระหว่างอาบู ดาบี และ 6 จุดหมายปลายทางในสหรัฐฯ ที่สายการบินให้บริการอย่างเฉพาะเจาะจงและผ่านพันธมิตรห่วงโซ่อุปทานที่มีอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ
“เราถือว่าตัวเองเป็นมิตรคนหนึ่งของสหรัฐอเมริกา” มร.เจมส์ โฮแกน กล่าว “เป็นที่แน่นนอนว่าความสัมพันธ์ระหว่างยูเออีและสหรัฐฯ มีความแน่นแฟ้น และเราเชื่อมั่นว่าสายการบินเอทิฮัดได้ส่งต่อข้อความนั้นออกมาผ่านการดำเนินธุรกิจของเรา”
“เราเป็นลูกค้ารายสำคัญของ โบอิ้ง จีอี ซาเบอร์ และธุรกิจอเมริกันอื่น ๆ เราทำงานร่วมกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อเมริกันอื่นๆ อาทิAtlas เพื่พัฒนาและปรับปรุงการดำเนินการขนส่งสินค้าทางคาร์โก้ทั่วโลก เรายังได้ร่วมงานกับสถาบันการเงินต่างๆของสหรัฐ บอร์ดการท่องเที่ยวสหรัฐฯ สนามบินต่างๆของสหรัฐฯ และยังมุ่งมั่นสนับสนุนอัตราการจ้างงานเพื่อผลักดันเศรษฐกิจของสหรัฐฯกว่า 200,000 ตำแหน่ง”
มร.เจมส์ โฮแกน ยังได้กล่าวถึงตัวอย่าง เที่ยวบินแรกของสายการบินโดยเครื่องบินโบอิ้ง 787 ดรีมไลเนอร์ของสายการบินฯ ที่เริ่มให้บริการเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาจากอาบู ดาบีสู่ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ซึ่งเป็นเครื่องบินดรีมไลเนอร์เครื่องที่ 2 จาก 71 ลำที่สายการบินได้สั่งจากโบอิ้ง ซึ่งยังเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องบินทั้งหมดจำนวน 120 ลำที่ได้ทำการสั่งซื้ออันเป็นมูลถึง 36 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้ มร.เจมส์ โฮแกน ยังได้กล่าวว่า สายการบินเอทิฮัดยังได้กระจายนักเดินทางจำนวน 180,000 คนไปยังเครือข่ายการบินของสายการบินสหรัฐฯ ในปี 2557 และ 50,000 คนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2558
มร.เจมส์ โฮแกน จบการปราศรัย โดยกล่าวว่า โอเพ่นสกายส์เป็นทางเลือกของลูกค้า “ทางเลือกของลูกค้าถือเป็นอันสิ้นสุด ลูกค้าเลือกที่จะเดินทางไปกับสายการบินเอทิฮัดเพราะเรานำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีเยี่ยม บริการที่โดดเด่น ในเส้นทางที่พวกเขาต้องการด้วยราคาที่สมเหตุสมผลไปยังจุดหมายปลายทางในตลาดดั่งกล่าว”
“นักเดินทางเลือกเราจากหลากหลายคู่แข่งทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละตลาดที่เราดำเนินการ เมื่อกล่าวอย่างตรงไปตรงมามันเป็นเรื่องยากมากที่สายการบินของสหรัฐจะมอบทางเลือกเหล่านั้น ไม่มีสายการบินจากสหรัฐฯรายได้บินไปยังอาบู ดาบี มีเพียงสายการบินจากสหรัฐฯเพียงไม่กี่รายที่ให้บริการไปยังอนุทวีปอินดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือไกลออกไปในตะวันออกกลาง”
“นี้ไม่ใช่ความผิดของเราแต่อย่างใด ที่นำเสนอทางเลือกใหม่ที่ดีกว่าในสายตานักเดินทางทางอากาศ เรายังหวังที่จะนำเสนอทางเลือกของเราต่อไปยังทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง”