นายวิมล จันทรโรทัย รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีนโยบายในการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมจากผลงานวิจัยทางการเกษตรของทุกหน่วยงานในสังกัด ไปใช้ในการแก้ปัญหาการผลิตของเกษตรกร ทั้งการพัฒนาเพิ่มผลผลิต การลดต้นทุนการผลิต และการสร้างมูลค่าเพิ่มทางการเกษตรให้แก่เกษตรกรในทุกพื้นที่การผลิต ซึ่งจะเห็นได้จากที่กระทรวงเกษตรฯ มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ที่กระทรวงเกษตรฯ ดำริตั้งขึ้น เพื่อให้มีหน้าที่สนับสนุนให้ทุนวิจัยเพื่อส่งเสริมพัฒนางานวิจัยด้านการเกษตรกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกกระทรวงเกษตรฯ และผลักดันผลงานวิจัยที่สำเร็จแล้วไปสู่วงการเกษตร ทั้งในรูปแบบใช้เป็นประโยชน์สาธารณะหรือเชิงพาณิชย์ ซึ่งมีภาคเอกชนมาขอรับสิทธิถ่ายทอดเทคโนโลยี ทำให้เกิดการพัฒนาการเกษตรของประเทศอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมวิจัยการเกษตรสู่เชิงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สนช. จึงร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเรื่อง “การพัฒนาและสนับสนุนนวัตกรรมการวิจัยเกษตรสู่เชิงพาณิชย์” ระยะที่ 2 มีระยะเวลาดำเนินการ 2 ปี เพื่อสร้างความร่วมมือในการส่งเสริมและสนับสนุนการนำผลงานวิจัย โดยเฉพาะด้านการเกษตร เกษตรอินทรีย์ และเครื่องจักรกลการเกษตรของกรมวิชาการเกษตรไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลและองค์ความรู้ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมทางการเกษตรระหว่างกัน และมุ่งถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่กลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร เพื่อให้มีการส่งออกสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ทั้งพืชผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูป ตลอดจนสร้างความเข้มแข็งด้านการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อขยายผลในเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
นายสุวิทย์ ชัยเกียรติยศ รองอธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ สนช.จะสนับสนุนเงินอุดหนุนแก่ภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ สหกรณ์ และวิสาหกิจชุมชน ในการพัฒนานวัตกรรมทั้งด้านสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการของตลาด พร้อมทั้งต่อยอดองค์ความรู้ด้านการเกษตรหรือร่วมทดสอบประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการนำร่อง และร่วมเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สินค้านวัตกรรมทางการเกษตร เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดและเป็นการเพิ่มมูลค่าสินค้าด้วย สำหรับความร่วมมือกับ สนช. ในการพัฒนาและสนับสนุนนวัตกรรมการวิจัยการเกษตรสู่พาณิชย์ ระยะที่ 2 นี้ สนช.และภาคเอกชนที่เข้าร่วมโครงการนำร่องรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีหนึ่งนวัตกรรมไปสู่เชิงพาณิชย์ จะชำระค่าธรรมเนียมแรกเริ่มให้แก่กรมวิชาการเกษตร จำนวน 100,000 บาท ในการขออนุญาตนำเทคโนโลยีหรือองค์ความรู้ หรือผลงานวิจัยด้านการเกษตรไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดย สนช.และหน่วยงานเอกชนจะรับผิดชอบค่าธรรมเนียมแรกเริ่มฝ่ายละ 50,000 บาท ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะนำไปใช้ต่อยอดส่งเสริมการวิจัยด้านการเกษตรต่อไป