นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) เปิดเผยว่าจะเสนอขายหุ้นสามัญของ SLP รวมจำนวนทั้งสิ้น 420 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.25 บาท ในราคา 2.16 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ประมาณ 27.00 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับค่า P/E ของหลักทรัพย์ในหมวดธุรกิจบรรจุภัณฑ์ในช่วงระยะเวลา 3 เดือน ที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 32.68 เท่า คิดเป็นส่วนลดให้มากถึงร้อยละ17.38
ทั้งนี้จะเปิดให้จองซื้อสำหรับผู้ถือหุ้นของ SALEE (Pre-emptive Right) จำนวนไม่เกิน 126,707,006 หุ้น ระหว่างวันที่ 20 - 22 เมษายน 2558 ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญของ SALEE ต่อ 1 หุ้นสามัญของ SLP ส่วนที่เหลือจากการจัดสรรตามสิทธิ Preemptive Right จำนวนทั้งสิ้น 293,292,994 หุ้น
สำหรับส่วนของประชาชนทั่วไป จะเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 23 – 24 และวันที่ 27 เมษายน 2558 และ คาดว่า SLP จะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “SLP” ซึ่งการเสนอขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ มีผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย คือ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมีโก้ จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด และ บริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด (มหาชน)
ด้านนายเศวต นราธิปกร กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่ พริ้นท์ติ้ง (SLP) กล่าวว่า การระดมทุนในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดีกับบริษัท เพราะจะทำให้การดำเนินธุรกิจหลังจากนี้จะมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดย SLP มีแผนที่จะนำเงินจากการระดมทุนไปก่อสร้างอาคารโรงงานและคลังสินค้า,ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่เป็นมา โดยบริษัทมีโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคตได้อีกมาก ตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ยังเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดี
“การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจของบริษัท เพราะเป็นช่องทางในการบริหารเงินอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้าทางธุรกิจ เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร ทำให้ชื่อเสียงของ SLP เป็นที่ยอมรับและรู้จักในวงกว้างยิ่งขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ด้วยศักยภาพการขยายตัวทางธุรกิจ ผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทีมงานมีประสบการณ์ ทำให้เชื่อมั่นว่าหุ้นน้องใหม่ SLP จะได้รับความสนใจจากนักลงทุน” นายเศวตกล่าวในที่สุด
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2555- 2557 มีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 552.64 ล้านบาท, 717.27 ล้านบาท และ 644.91 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 130.55 ล้านบาท, 163.80 ล้านบาท และ 92.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 23.62, ร้อยละ 22.84 และร้อยละ 14.39 ตามลำดับ
ปัจจุบัน SLP ดำเนินธุรกิจรับผลิตฉลากสินค้าและงานพิมพ์คุณภาพสูง โดยใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย ส่งผลให้ฉลากที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูง มีความละเอียดและสวยงาม ประกอบกับมีระบบการตรวจสอบคุณภาพและจำนวนของชิ้นงานหลังการผลิต ทำให้บริษัทสามารถจัดส่งสินค้าได้ครบถ้วนตามจำนวนและตรงกับคุณภาพที่ลูกค้ากำหนด ซึ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทแบ่งออกตามคุณลักษณะและการใช้งานเป็น 3 ประเภทหลัก คือ 1)ฉลากสินค้าที่มีกาวในตัว (Self Adhesive Label) 2)ฉลากสินค้าแบบผนึกในแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ (In-mould Label) และ 3) งานพิมพ์ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่มีกาว (Offset Printing)