น้ำผลไม้ชบา ทุ่มงบกว่า 30 ล้าน บุกตลาด รับกระแสคนรักสุขภาพ

พฤหัส ๒๘ เมษายน ๒๐๐๕ ๑๑:๕๗
กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--แอกเซส แอนด์ แอสโซซิเอทส์
“ชบา” รุกตลาดน้ำผลไม้อย่างหนักรับกระแสคนรักสุขภาพ ทุ่มงบโฆษณากว่า 30 ล้านบาท รีลอนซ์แบรนด์ “ชบา” ชูจุดเด่นคุณภาพสินค้าเป็นที่น่าเชื่อถือ พร้อมตอกย้ำน้ำผลไม้ 5 รสชาติที่แตกต่างไม่มีในท้องตลาด คือน้ำส้มโอผสมเกร็ดส้มโอ น้ำพีชผสมเนื้อพีช น้ำสาลี่ผสมเนื้อสาลี่ น้ำพรุน และน้ำกล้วยหอม
นายวงศ์วุธ กุลปิยะวาจา กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาลีบางกอก จำกัด บริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายน้ำผลไม้ตรา “ชบา” เปิดเผยว่า ในภาพรวมของตลาดน้ำผลไม้หลายปีที่ผ่านมาจะมีอัตราการเจริญเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 20% โดยตลอด แต่เริ่มชะลอการขยายตัวลงในปี 2547 ที่ผ่านมาเนื่องจากมีกระแสของผู้บริโภคน้ำชาและกาแฟ เข้ามากินส่วนแบ่งตลาดไปในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทมีความเชื่อมั่นว่า ด้วยประโยชน์และคุณค่าในเชิงโภชนาการในระยะยาวแล้ว ผู้บริโภคจะเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากน้ำผลไม้ที่มีมากกว่าเครื่องดื่มประเภทอื่นที่เป็นไปตามกระแสตลาดทั่วไป
สำหรับมูลค่าการตลาดรวมของน้ำผลไม้ในปี 2547 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 3,600 ล้านบาท โดยอันดับหนึ่งคือ น้ำผลไม้ทิปโก้ มีมูลค่าการตลาดประมาณ 37% อันดับสองคือ น้ำผลไม้ยูนิฟ มีมูลค่าการตลาดประมาณ 25% อันดับสามคือ น้ำผลไม้มาลี มีมูลค่าการตลาดประมาณ 17% และ อันดับสี่คือ น้ำผลไม้ชบา มีมูลค่าการตลาดประมาณ 6%
ในปีนี้บริษัทฯ มีแผนที่จะรีลอนซ์น้ำผลไม้ “ชบา” อีกครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาดและเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอีกด้วย โดยผลจากการสำรวจและวิจัยตลาดตลอดจนการทำ FOCUS GROUP ทำให้บริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในคุณภาพผลิตภัณฑ์และรสชาติของน้ำผลไม้ จึงได้มีการสร้างภาพยนตร์โฆษณาใหม่จำนวน 3 ชุดด้วยกันประกอบด้วยชุด LOOK , ชุด WAB และชุด TEST โดยทั้ง 3 ชุด เป็นภาพยนตร์โฆษณาที่ต้องการจะสื่อให้ผู้บริโภคเกิดการรับรู้ต่อแบรนด์น้ำผลไม้
“ชบา” โดยชัดเจน และเน้นย้ำให้เกิดการทดลองดื่มน้ำผลไม้ “ชบา” โดยเน้นรสชาติที่เป็นที่คุ้นเคยกับผู้บริโภคทั่วไปคือน้ำส้มเขียวหวานผสมเกล็ดส้ม ซึ่งเป็นเพียง 1 ใน 12 รสชาติที่มีอยู่ โดยบริษัทฯ จะเน้นการใช้สื่อโฆษณาทางทีวีซึ่งเป็นสื่อที่มีผู้ชมมากที่สุด ในทุกช่องและในช่วงของรายการต่าง ๆ นอกจากนั้นแล้วยังมีการสื่อวิทยุและนิตยสาร รวมถึงการออกบูทชิมในซุปเปอร์มาร์เก็ตต่าง ๆ คาดว่าจะใช้งบประมาณการโฆษณาและส่งเสริมการขายประมาณไม่น้อยกว่า 30 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ABOVE THE LINE 50% และ BELOW THE LINE 50%
น้ำผลไม้ “ชบา” แบ่งตามบรรจุภัณฑ์ได้เป็น 2 ประเภท คือ น้ำผลไม้ 30% ที่บรรจุกระป๋องขนาด 240 ml และน้ำผลไม้ 100% ที่บรรจุใส่กล่อง UHT ขนาด 200 ml และ 1000 ml โดยทั้ง 2 ประเภทมีรสชาติให้เลือกมากถึง 12 รสชาติ โดยมีรสชาติทั่วไป 7 รสชาติคือ 1.น้ำส้มเขียวหวานผสมเกล็ดส้ม100% 2.น้ำองุ่นแดง100% 3. น้ำแอปเปิ้ลแดง100% 4. น้ำแครอทผสมผลไม้รวม100% 5. น้ำผักผสมผลไม้รวม100% 6. น้ำสับปะรด100% 7. น้ำมะเขือเทศ 100%
นอกจากนั้นยังมีอีก 5 รสชาติที่แปลกใหม่ไม่มีในท้องตลาด คือ 1. น้ำส้มโอผสมเกล็ดส้มโอ 100% 2. น้ำพีชผสมเนื้อพีช100% 3. น้ำสาลี่ผสมเนื้อสาลี่100% 4. น้ำพรุน100% 5. น้ำกล้วยหอม
สำหรับในเรื่องกลุ่มเป้าหมายของ “ชบา” เนื่องจากน้ำผลไม้พร้อมดื่ม มีเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นของน้ำผลไม้สูง ดังนั้นกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมาย คือ ผู้บริโภคที่มีความสนใจและใส่ใจในสุขภาพ มีไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัย ชอบความสะดวกสบาย และเนื่องจากน้ำผลไม้ทั้ง 2 กลุ่มมีบรรจุภัณฑ์และความเข้มข้นของน้ำผลไม้ที่แตกต่างกัน ซึ่งได้กำหนดกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายของสินค้าแตกต่างกันในแต่ละกลุ่มดังนี้คือ
กลุ่มน้ำผลไม้ CHABAA 100% (มี 2 ขนาดคือ UHT 200 ML และ 1000 ML)
-กลุ่มครอบครัวคนทำงาน ต้องการความสะดวกสบาย รักและดูแลสุขภาพของคนในครอบครัว
-กลุ่มผู้บริโภคชาย หญิง มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป เป็นคนสมัยใหม่ ชอบความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็รักและใส่ใจในสุขภาพ
กลุ่มน้ำผลไม้ CHABAA 30% (บรรจุใส่กระป๋องขนาด 240 ml)
-กลุ่มผู้บริโภคชาย หญิง มีอายุตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป เป็นคนสมัยใหม่ ชอบความสะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็รักและใส่ใจในสุขภาพด้วย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่ผ่านมาของบริษัทฯ นับตั้งแต่วางสินค้าน้ำผลไม้ “ชบา” ครั้งแรกในเดือนสิงหาคม 2544 จนถึงขณะนี้ เป็นเวลาประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว จากการวิเคราะห์ของทีมผู้บริหารของบริษัทและจากการสำรวจและวิจัยตลาดผู้บริโภค บริษัทฯ พบว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ในเรื่องของบรรจุภัณฑ์นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีรูปแบบที่ทันสมัยเป็นลักษณะกล่องแปดเหลี่ยม มีสีอาบมัน สวยเด่นสะดุดตาแก่ผู้พบเห็นและสะดวกต่อการบริโภค ซึ่งเป็นผลมาจากการตัดสินใจของผู้บริหารในการเลือกเครื่องจักร TETRA PAK ที่ทันสมัยที่สุดในกลุ่มเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาใช้ในกระบวนการผลิต นอกจากนั้นในเรื่องของรสชาติน้ำผลไม้ที่หลากหลายถึง 12 รสชาติเพื่อเป็นทางเลือกของผู้บริโภคนั้น ทางบริษัทฯ ได้มีการจัดทำ FOCUS GROUP โดยทดสอบกลุ่มลูกค้าเป้าหมายด้วยวิธีการหลากหลายในจำนวนหลายกลุ่ม บริษัทฯ พบว่า โดยส่วนใหญ่แล้ว รสชาติน้ำผลไม้ของบริษัทฯ เมื่อมีการทำ BLIND TEST แล้วได้ผลตอบรับอย่างดีมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าคู่แข่งอื่นๆ ซึ่งสอดคล้องกับผลการสำรวจภายในของบริษัทฯ จึงทำให้ทีมงานของบริษัทฯ มีความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีความสมบูรณ์ทั้งในเรื่องของบรรจุภัณฑ์และรสชาติของผลิตภัณฑ์ หากเพียงแต่ผู้บริโภคได้มีโอกาสลิ้มลองรสชาติของน้ำผลไม้ “ชบา” เท่านั้น
ในเรื่องของช่องทางจัดจำหน่ายนั้น ทางบริษัทฯ ได้มอบหมายให้บริษัท ซี.พี.คอนซูเมอร์ โพรดักส์ จำกัด เป็นผู้จัดจำหน่ายน้ำผลไม้”ชบา” ในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั้งหมด ซึ่งขณะนี้สินค้าของบริษัทฯ ได้มีวางจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์นเทรด เช่น ห้างแม็คโคร โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์ ท๊อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต เป็นต้น และยังรวมถึงห้างสรรพสินค้าต่างๆ ร้านมินิมาร์ท ร้านขายส่ง แคเทอร์ริ่ง ร้านค้าปลีกต่างๆ โดยบริษัทฯ มีความเชื่อมั่นในทีมงานของบริษัท ซีพี ในการวางจำหน่ายสินค้าต่าง ๆ ได้อย่างทั่วถึง
สำหรับกลยุทธ์ราคานั้น ทางบริษัทฯ ได้ตั้งราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งขันในขณะที่บริษัทฯ มีต้นทุนการผลิตสูงกว่าบริษัทคู่แข่งทั้งในเรื่องการลงทุนในเครื่องจักรใหม่ ทั้งในเรื่องบรรจุภัณฑ์ที่ทันสมัยและปลอดภัย อีกทั้งยังมีการเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยวิตามิน A , C , E และ B12 ซึ่งถือว่าผู้บริโภคจะได้สินค้าในระดับ PREMIUM PRODUCT มากกว่าตราสินค้าอื่นๆ แต่ได้ราคาในระดับ NORMAL PRODUCT หรือต่ำกว่าสินค้าตราอื่นๆ นอกจากนี้ในส่วนของการส่งเสริมการตลาดของบริษัทฯ ในรอบ3ปีที่ผ่านมา ได้มีการสื่อสารไปยังกลุ่มผู้บริโภค โดยใช้งบประมาณสำหรับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ และการส่งเสริมการขายร่วม 80 ล้านบาท
นายวงศ์วุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญและตระหนักถึงมากที่สุด อยู่ที่คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่จะไปสู่มือผู้บริโภค ดังนั้นในส่วนของกระบวนการผลิต บริษัทฯ จึงได้ลงทุนไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท เพื่อพัฒนาระบบเครื่องจักรที่ทันสมัยและมีความปลอดภัยสูงต่อผู้บริโภค โดยทางบริษัทฯ ได้ใช้เครื่องจักรใหม่ที่ทันสมัย มีความปลอดภัยจากเชื้อ ด้วยการควบคุมระบบคอมพิวเตอร์อัตโนมัติ ทำให้นอกเหนือจากการผลิตสินค้าภายใต้แบรนด์ “ชบา” แล้วบริษัทฯ ยังได้รับความไว้วางใจจากบริษัทชั้นนำอื่นๆ ที่มอบหมายให้บริษัทฯ ทำการผลิตสินค้า เช่น เครื่องดื่มน้ำชาเขียวตราลิปตันกรีนทีของ PEPSICO INTERNATIONAL น้ำผลไม้กิฟฟารีนของบริษัทกิฟฟรีนสกายไลน์ น้ำสมุนไพร CACH ของบริษัท แครอทเฮลท์แคร์ จำกัด เป็นต้น
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ