Monkey Disco Boy คือโปรเจ็คท์พิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากงานเพลง และต่อยอดไปสู่คอนเสิร์ตใหญ่ ที่มีทั้งศิลปินเก่าและใหม่มาร่วมงานกัน เพื่อทำให้คนไทยได้สัมผัสกับงานเพลงในรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า อีดีเอ็ม (EDM - Electronics Dance Music) ซึ่งเริ่มต้นด้วยจุดกำเนิดของ Monkey Disco Boy มนุษย์จากดาวเรฟ (Rave) รูปร่างหน้าตาคล้ายลิง ออกแบบโดยอเล็กซ์ เฟส ศิลปินกราฟฟิตี้ ที่คุ้นเคยกับสุกี้ โดยความพิเศษของมนุษย์จากดาวดวงนี้คือการที่พวกเขามีดนตรีอีดีเอ็มเป็นพลังแห่งชีวิต และ Monkey Disco Boy จะนำมาถ่ายทอดให้กับ ผู้ฟังทุกคน
ขณะที่งานเพลงเปิดตัวของโปรเจ็คท์นี้ ก็คือ “ฟอร์เอฟเวอร์ ยัง” Forever Young ซึ่งสุกี้ในนาม Monkey Disco Boy ทำงานร่วมกับศิลปินน้องใหม่ “บูม บูม แคช” Boom Boom Cash เจ้าของรางวัลชนะเลิศจากหลายเวที และเจ้าของงานเพลงที่มีผู้คลิ๊กชมนับล้านวิวบนยูทูป ตลอดจนมีผู้ติดตามในเฟซบุ๊คนับแสน โดยเพลงดังกล่าวมีเนื้อหาและดนตรีที่ตอกย้ำถึงความ “สด” ในเนื้องาน เพื่อแสดงถึงความ “แปลกใหม่” ทั้งภาพลักษณ์และงานเพลง
นอกจากนี้ยังมีงานเพลงของ Monkey Disco Boy กับศิลปินอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ธนชัย อุชชิน (ป๊อด โมเดิร์น ด็อก), แสตมป์ (อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข), บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ (บุรินทร์ กรู๊ฟไรเดอร์ส) และ เบน ชลาทิศ ซึ่งทั้งหมดล้วนเคยร่วมงานกับสุกี้มาแล้ว และจะมาร่วมสร้างปรากฏการณ์ทางดนตรีอีกครั้ง เพื่อให้วงการเพลงไทยก้าวผ่านจากความจำเจเดิมๆ
ก่อนจะปิดท้ายด้วยคอนเสิร์ต ที่เป็นการปรากฏตัวของ Monkey Disco Boy อย่างเต็มรูปแบบ ให้ได้ดูกันสดๆ เต็มๆ ตา มาแบบตัวเป็นๆ เตรียมพร้อมให้ดี และยินดีต้อนรับสู่โลกของดนตรีอีดีเอ็ม “WELCOME TO THE WORLD OF EDM”
เกี่ยวกับสุกี้
สุกี้ - กมล สุโกศล แคลปป์ ถือเป็นส่วนหนึ่งของผู้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเพลงไทย โดยหลังจากจบการศึกษาทางด้านดนตรีจากสหรัฐ เมื่อ พ.ศ. 2536 สุกี้ได้ร่วมกับเพื่อนๆ อีก 3 คน คือ สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์, บอย โกสิยพงษ์ และสาลินี ปันยารชุน เปิดค่ายเพลงเล็กๆ ที่ชื่อว่า เบเกอรี่ มิวสิค ขึ้น
นับจากนั้น เบเกอรี่ มิวสิค ได้กลายเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ปฏิวัติวงการเพลงไทยไปสู่ยุคใหม่ ซึ่งมีเพลงดังมากมายเกิดขึ้นจากค่ายเพลงอินดี้เล็กๆ แต่สร้างผลงานได้อย่างแปลกใหม่และน่าสนใจ ในหลากหลายแนวออกมาสู่ผู้ฟังชาวไทย ไม่ว่าจะเป็น อัลเทอร์เนทีฟ, อาร์แอนด์บี, แร็ป ไปจนถึงทีน-ป็อป
ในช่วงเวลาดังกล่าว สุกี้ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ผ่านการทำงาน ในหลายหน้าที่ ทั้งผู้บริหารค่ายเพลง โปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง นักดนตรี และศิลปิน ก่อนจะส่งท้ายความยิ่งใหญ่ของ เบเกอรี่ มิวสิค ด้วยคอนเสิร์ต 10 ปี เบเกอรี่ ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อปี พ.ศ. 2546 ที่มีผู้ชมกว่า 50,000 คน
หลังจากนั้นเขาก็หันไปทำรายการโทรทัศน์ในโปรเจ็คท์ดรีมเชสเซอร์ และทำธุรกิจของครอบครัว ในปี พ.ศ. 2557 สุกี้ซึ่งบริหารธุรกิจโรงแรมของครอบครัว ได้รับแรงกระตุ้นจากลูกชายคือ ดีโน ซึ่งสนใจและรักในดนตรีเช่นกัน จนกลายเป็นแรงบันดาลใจและแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คิดถึงและอยากทำงานเพลงอีกครั้ง หลังจาก ห่างหายไปนานเกือบสิบปี เมื่อตัดสินใจทำงานเพลง สุกี้ได้ศึกษาวงการเพลงไทยในยุคนี้ และพบว่ามีบางสิ่ง ที่หายไป นั่นคือความแปลกใหม่ รวมไปถึงความสดของงานดนตรี จนวงการเพลงเหมือนย่ำอยู่กับที่ สุกี้จึงคิดจะสร้างผลงานในรูปแบบใหม่ที่แตกต่าง โดยทำงานร่วมกับคนรุ่นใหม่ในแนวคิดใหม่ ทั้งในการทำธุรกิจเพลง และดนตรี ภายใต้การดำเนินงานของค่ายเพลงใหม่
เกือบ 1 ทศวรรษที่หายไปจากวงการเพลง วันนี้ สุกี้-กมล สุโกศล แคลปป์กำลังจะกลับมาพร้อมกับ โปรเจ็คท์ทางดนตรีที่จะเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการเพลงไทยอีกครั้ง ในชื่อ Monkey Disco Boy หรือ M.D.B. พร้อมพันธมิตรอย่าง ไฮเนเก้น ซึ่งมีแนวคิดตรงกันในการนำเสนอประสบการณ์ทางดนตรีที่แปลกใหม่และประทับใจให้กับคอเพลงชาวไทยอย่างต่อเนื่อง ในคอนเซ็ปท์ Open Your World พร้อมด้วย สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย, ดีแทคดีเซอร์, ธนาคารกรุงเทพ และเครื่องดื่มชาร์ค คูลไบท์ ที่ร่วมสนับสนุน