บอร์ด CHO สั่งลุย!!!ยื่นซองประมูลงานผลิตรถเมล์NGV มั่นใจคุณสมบัติพร้อมทุกด้าน ส่งมอบงานทันภายในสิ้นปี"58

พุธ ๐๘ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๒:๕๒
บอร์ดบมจ.ช.ทวี ดอลลาเซียน (CHO) สั่งเดินหน้าท้าลุย!!! ยื่นซองประมูลงานผลิตรถเมล์ NGV ล็อตแรก 489 คัน หลังซัพพลายเออร์ประกาศสนับสนุนเต็มกำลัง ด้านหัวเรือใหญ่ “สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย” มั่นใจในศักยภาพของบริษัทพร้อมทุกด้าน คาดส่งมอบทุกคันทันภายในกำหนดไม่เกินสิ้นปีนี้ ระบุหากได้งานดังกล่าวจะช่วยผลักดันรายได้-กำไร ในช่วง 10 ปีข้างหน้า เติบโตแข็งแกร่ง

นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน) (CHO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 5/2585 มีมติให้บริษัทเข้าร่วมยื่นซองประมูลงานการซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ล๊อตแรกจำนวน 489 คัน จากหน่วยงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ราคากลาง (ราคาอ้างอิง) 3,650,000 บาทต่อคัน ที่มีวัตถุประสงค์จำเป็นเร่งด่วนต้องการใช้รถโดยสารปรับอากาศในระยะแรกจำนวน 489 คัน จากแผนการจัดหารถโดยสารคันใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 3,183 คัน

"บริษัทตัดสินใจเข้าร่วมประมูลงานการซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) ล็อตแรกจำนวน 489 คัน หลังจากองค์กรที่จัดหาสินค้าให้กับเรา (Supplier) ให้การสนับสนุนในการจัดหาประกอบรถ และมีความเห็นพ้องต้องกันว่าจะสามารถสร้างรายได้ และส่งมอบรถที่มีคุณสมบัติตามที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกำหนดไว้ได้" นายสุรเดชกล่าว

ทั้งนี้ บริษัทจะต้องผ่านกระบวนการการคัดกรองคุณสมบัติ 15 ประการของผู้เสนอราคาแล้วก่อน ซึ่งหากบริษัทผ่านเกณฑ์คุณสมบัติดังกล่าว จึงจะได้เข้าร่วมการเคาะราคา และคาดว่าจะสามารถทราบผลการประมูลงานได้ภายในไตรมาส 2/2558

นอกจากนี้ บริษัทได้มีการผลิตรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) แล้วตามมาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก เพื่อทดลองใช้ประโยชน์เองภายในบริษัท และเพื่อให้ทีมงานของบริษัทได้ศึกษาทุกอุปกรณ์และชิ้นส่วนอย่างปราณีตและเข้าใจทุกกระบวนการผลิตอย่างเชี่ยวชาญ

“ถ้าหากว่า บริษัทได้รับงานดังกล่าวแล้ว บริษัทเชื่อมั่นว่าว่าจะส่งผลดีต่อรายได้และกำไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพราะนอกจากบริษัทจะมีรายได้จากการขายรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) แล้ว บริษัทจะได้รับค่าตอบแทนจากสัญญาการซ่อมบำรุงรถดังกล่างถึง 10 ปี คือตั้งแต่ 2558 ถึง 2568 และเราเชื่อมั่นว่า บริษัทสามารถทำรถที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานตามที่กรมขนส่งทางบกกำหนดไว้อย่างแน่นอนเนื่องจากเรามีประสบการณ์มาแล้ว และสามารถส่งมอบรถทั้งหมดได้ตามกำหนดภายในปี 2558 เนื่องจากวันนี้บริษัทมีความพร้อมในทุกๆด้านแล้ว อาทิ ด้านแรงงานคน เครื่องจักร พื้นที่ใช้สอย วัตถุดิบและอื่นๆ" นายสุรเดช กล่าวในที่สุด

อนึ่ง ตามแผนงานขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมีโครงการจัดหารถโดยสารคันใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 3,183 คัน เพื่อทดแทนรถโดยสาร (ดีเซล) คันเดิมที่มีสภาพเก่า ชำรุด และทรุดโทรม อีกทั้งเพื่อยกระดับคุณภาพและความเชื่อถือได้ในการให้บริการ รวมทั้งลดต้นทุนด้านเชื้อเพลิงและลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และยังเป็นการสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่สนับสนุนให้ใช้พลังงานทางเลือกอีกด้วย ซึ่งรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ(NGV) จำนวน 489 คัน นี้ เป็นล็อตแรกที่มีความจำเป็นเร่งด่วนเพื่อนำมาให้บริการประชาชนทดแทนรถโดยสารเดิมที่ชำรุด เสื่อมสภาพ หากไม่มีรถทดแทนโดยเร็วจะเกิดปัญหาในการให้บริการประชาชน เนื่องจากปัจจุบันรถโดยสารเริ่มทยอยจอดเสียเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรถโดยสารไม่เพียงพอที่จะรองรับการใช้บริการของประชาชน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๙ ผู้ถือหุ้น READY อนุมัติปันผล อัตรา 0.30 บาทต่อหุ้น ปักธงปี 68 รายได้โต 10% เติบโตตามเทรนด์การตลาดยุคดิจิทัล
๑๗:๐๗ JMART เตรียมเงินพร้อมคืนหุ้นกู้ 1,500 ล้านบาท ตอกย้ำเสถียรภาพการเงินปิดจ๊อบหุ้นกู้ 856.6 ล้านบาท ขอบคุณนักลงทุนที่เชื่อมั่น
๑๗:๓๗ Lorde เซอร์ไพรส์! ส่งเพลงใหม่ในรอบ 4 ปี What Was That พร้อมเอ็มวีแนว Vlog สุดเท่ ซีนยิ่งใหญ่แฟนเพลงรวมตัวกว่า 8,000
๑๗:๐๔ Kenny G คัมแบ็ค!! ชวนแฟน ร่วมดื่มด่ำสุนทรียภาพดนตรีแจซระดับโลกอีกครั้ง ใน Kenny G Live in Bangkok 2025 เปิดแสดง 4 กรกฎาคม
๑๗:๒๓ เปิดประตูสู่อนาคตไอที รำไพพรรณี MOU นครระยองวิทยาคมฯ สร้างบัณฑิตพันธุ์ใหม่
๑๗:๐๘ JGAB 2025 เวทีอัญมณีและเครื่องประดับอาเซียนระดับโลก ดันไทยสู่ศูนย์กลางการค้าและนวัตกรรมเครื่องประดับอย่างยั่งยืน
๑๗:๐๒ อ.อ.ป. ร่วมยินดี อคส. ครบรอบ 70 ปี
๑๗:๓๗ กองทรัสต์อัลไล เดินหน้าขยายพอร์ต เตรียมลงทุน! 2 โครงการใหม่ ทีเท็น บาย วิลเลจ ฮับ และ วิลเลจ ฮับ สายไหม โครงการคอมมูนิตี้มอลล์บนทำเลศักยภาพ
๑๗:๓๕ Bangkok Climate Action Week (BKKCAW) รวมพลังคนกรุง สู้วิกฤตโลกร้อน
๑๗:๓๑ Sherwood Corporation จับมือ Conquest Crop Protection Pty Ltd ขยายช่องทางสู่ตลาดเคมีเกษตรในออสเตรเลีย