ห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เดินหน้าสานต่อ “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ” ต่อเนื่องอีก 5 ปี

พฤหัส ๐๙ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๗:๔๒
...เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา “เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร”...

โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ โดยห้างแว่นท็อปเจริญ ร่วมกับมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย เดินหน้าสานต่อโครงการอย่างต่อเนื่องเพิ่มอีก 5 ปี ภายหลังจากที่ได้ปฏิบัติภารกิจในการช่วยเหลือผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศที่มีปัญหาด้านสายตามาตลอดระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 60 พรรษา และเป็นไปตามพระราชประสงค์ตั้งแต่ริเริ่มโครงการฯ พร้อมเชิญชวนประชาชนจิตอาสาร่วมทำกิจกรรมแบ่งปันน้ำใจให้แก่ผู้สูงวัย โดยมีศิลปินดาราอาทิ เกรท-วรินทร ปัญหกาญจน์ มิน-พีชญา วัฒนามนตรี ร่วมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ที่ได้ให้เกียรติเข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ สยามดิสคัฟเวอรี่

นายนพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ กรรมการผู้จัดการห้างแว่นท็อปเจริญ กล่าวว่า “โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2552 โดยความร่วมมือระหว่างห้างแว่นท็อปเจริญ และมูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย ในการลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ เพื่อสนองพระราชประสงค์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเล็งเห็นความสำคัญในการช่วยเหลือผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดารที่มีปัญหาด้านสายตา ให้กลับมาดำเนินชีวิตประจำวันได้และสามารถหาเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัวได้อย่างปกติสุข ด้วยการเข้ารับบริการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นใหม่ฟรี ผ่านการดำเนินงานของทีมผู้เชี่ยวชาญและเครื่องมืออันทันสมัยโดยห้างแว่นท็อปเจริญ”

“ในปีนี้โครงการแว่นตาผู้สูงวัยในสมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้ดำเนินโครงการครบกำหนดวาระ 5 ปี ทางคณะผู้ร่วมดำเนินโครงการ จึงได้ขอพระราชทานพระราชานุญาตสานต่อโครงการต่อเนื่องเพิ่มอีก 5 ปี ในปี พ.ศ. 2558 – 2562 เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมายุครบ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี วันที่ 2 เมษายน 2558 โดย 5 ปีที่ผ่านมาโครงการได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตา พื้นที่ละจำนวน 400 - 500 คน รวมจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือกว่า 75 พื้นที่” นายนพศักดิ์ กล่าว

สำหรับการคัดเลือกผู้สูงวัยเพื่อเข้ารับการบริการนั้น โครงการได้รับความร่วมมือจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ที่ได้ประสานความร่วมมือกับพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ของแต่ละจังหวัดทำหน้าที่เป็นผู้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มผู้สูงวัยที่มีปัญหาและต้องการรับความช่วยเหลือด้านสายตา ที่มีอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป ในพื้นที่ทุรกันดารต่างๆ ทั่วประเทศ โดยหากพบว่ามีผู้สูงวัยที่เป็นโรคตาและไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นตา อาทิ ต้อกระจก ทางโครงการจะนำส่งผู้ป่วยเหล่านี้เข้ารับการรักษาอาการต่อที่ ‘ศูนย์รักษาตาท็อปเจริญ’ ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยที่อาการทางสายตาและโรคตาทั่วไป ตลอดจนให้บริการรักษาผู้สูงวัยที่ตรวจพบว่าเป็นโรคตาตามโครงการ ปีละ 100 ดวงตา โดยไม่คิดค่าบริการรักษาแต่อย่างใด

ม.ร.ว.จิยากร เสสะเวช กรรมการอำนวยการ มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย กล่าวว่า “ปัญหาด้านสุขภาพของผู้สูงวัย ส่วนใหญ่มักต้องพบเจอกับความโรยราของอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะปัญหาใหญ่ที่ผู้สูงวัยมีความเป็นกังวลมากที่สุด คือความเสื่อมประสิทธิภาพของดวงตา เนื่องจากถูกใช้งานอย่างหนักมาเป็นเวลานาน ส่งผลให้เกิดอุปสรรคต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพ และในบางรายอาจถึงขั้นไม่สามารถดูแลตนเองได้เลย “แว่นตา” จึงถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งต่อการมองเห็นของผู้มีปัญหาด้านสายตา ผู้สูงวัยในถิ่นทุรกันดารจำนวนมากไม่มีโอกาสได้รับการตรวจวัดสายตาเพื่อประกอบแว่นให้เหมาะกับสายตาของตนเอง และอีกหลายคนมีอาการทางสายตา ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยการตัดแว่น”

“ด้วยปัญหาดังกล่าว สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญและความจำเป็นในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก และได้มีพระราชดำริในการช่วยเหลือผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตา โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารหรือพื้นที่ห่างไกลต่างๆ ให้มีคุณภาพสายตาที่ดี เชื่อมโยงไปถึงการที่ให้ผู้สูงวัยเหล่านี้มีโอกาสกลับมาประกอบอาชีพได้อย่างปกติ สามารถเลี้ยงดูตนเองและบุตรหลานได้ ไม่เป็นภาระต่อครอบครัว โครงการนี้จึงมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในสังคม และยังช่วยต่อยอดการพัฒนาในภาคส่วนอื่นๆ ต่อไปในอนาคตได้อีกด้วย” ม.ร.ว.จิยากร กล่าวเสริม

กิจกรรมในงานแถลงข่าวครั้งนี้ โครงการได้เชิญตัวแทนผู้สูงวัยจากอำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี มาเข้ารับบริการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้จัดให้มีนิทรรศการภาพถ่ายเพื่อบอกเล่าเรื่องราวการดำเนินงานตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีเหล่าศิลปินดารา เซเลบริตี้จิตอาสาและประชาชนทั่วไป แห่เข้าร่วมกิจกรรมจัดทำสายคล้องแว่นตา ดี.ไอ.วาย. เพื่อมอบเป็นกำลังใจไปยังผู้สูงวัยที่มีปัญหาด้านสายตาในถิ่นทุรกันดารทั่วประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-612-4710 หรือคลิกเข้าดูเว็บไซต์ www.topcharoen.co.th

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ