ผลงาน ก.ล.ต. 4 ปี บรรลุเป้าหมายการยกระดับตลาดทุนสู่สากล ทุกภาคส่วนเศรษฐกิจไทยได้ใช้ประโยชน์

ศุกร์ ๑๐ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๔:๔๒
ก.ล.ต. เผยผลงานการพัฒนาและกำกับดูแลตลาดทุนตลอดระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2554 - 2558 บรรลุเป้าหมายการยกระดับตลาดทุนไทยสู่สากลในทุกด้าน เพิ่มความน่าเชื่อถือด้วยมาตรการกำกับดูแลและป้องปรามที่ทันสมัยส่งเสริมให้ทุกภาคเศรษฐกิจใช้ประโยชน์จากตลาดทุน โดยเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกิจการทุกขนาด และเป็นทางเลือกสำคัญในการลงทุนของภูมิภาค

นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานของ ก.ล.ต. ร่วม 4 ปี นับตั้งแต่ ตุลาคม 2554 – เมษายน 2558 ก.ล.ต. ขับเคลื่อนตลาดทุนไทยโดยมุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อรองรับแนวโน้มและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจของโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นและความยั่งยืน สร้างโอกาสให้กิจการและประชาชนเข้าถึงตลอดจนใช้ประโยชน์จากตลาดทุน รวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ ดึงดูดเงินลงทุนจากผู้ลงทุนทั่วโลก

นายวรพลกล่าวว่า การดำเนินงานของ ก.ล.ต. ที่ผ่านมา มุ่งสร้างโอกาสในการเข้าถึงการระดมทุนสำหรับกิจการทุกระดับทั้งขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดเล็ก หรือ SMEs ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศผ่านโครงการ “หุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด” เกิดหุ้นใหม่เข้าจดทะเบียนในตลาดทุนไปแล้วกว่า 30 บริษัท และโครงการส่งเสริมการระดมทุนผ่านโครงการ “หุ้นนวัตกรรมและสร้างสรรค์ ความภูมิใจของไทย” เพิ่มโอกาสต่อยอดขยายกิจการสำหรับธุรกิจที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรม รวมทั้งได้เพิ่มช่องทางใหม่ในการระดมทุนด้วยรูปแบบการเสนอขายหุ้นด้วยวิธี crowdfunding ที่เป็นกระแสการระดมทุนใหม่ของทั่วโลก ตลอดจนเพิ่มช่องทางการระดมทุนของกิจการขนาดกลางและเล็กผ่าน Private Equity Trust อีกด้วย นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังส่งเสริมให้กิจการมีทางเลือกการระดมทุนด้วยเครื่องมืออื่น ๆ เช่น การระดมทุนโดยการออกตราสารหนี้ ผ่านโครงการ “หุ้นกู้น้องใหม่ ก้าวแรกที่ก้าวไกล” มุ่งให้บริษัทใช้ตราสารหนี้บริหารต้นทุนการเงินของกิจการ

ที่สำคัญ ก.ล.ต. ได้สร้างกลไกสนับสนุนการระดมทุนของทั้งภาครัฐและภาคเอกชนเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ผ่านกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อประโยชน์ของประเทศ ลดภาระงบประมาณและการเป็นหนี้สาธารณะ เช่น ไฟฟ้า ประปา ถนน ท่าอากาศยาน สนามบิน และล่าสุดได้เพิ่มเติมให้รวมถึง ระบบขนส่งทางท่อ ระบบจัดการของเสีย โครงสร้างพื้นฐานด้าน ICT และโครงการที่มีกิจการโครงสร้างพื้นฐานหลายประเภทมารวมกันด้วย

จากแผนกลยุทธ์ที่ ก.ล.ต. ต้องการให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมที่สำคัญของประเทศกลุ่ม GMS (GMS Connector)ได้สร้างความสัมพันธ์และช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านให้เติบโตไปด้วยกัน มีการลงนามเพื่อพัฒนาตลาดทุนระหว่างหน่วยงานกำกับดูแลตลาดทุนของ ลาว กัมพูชา เวียดนาม การเป็นเจ้าภาพการประชุม Mekong Capital Market Cooperation (MCMC) ขณะที่ในระดับอาเซียนมีความร่วมมือที่ชัดเจน จนนำไปสู่การมีมาตรฐานกลางของอาเซียนในการเปิดเผยข้อมูล ASEAN Disclosure Standards) และการเสนอขายกองทุนรวมข้ามกัน (ASEAN Collective Investment Scheme Framework) การเข้าร่วมประเมินมาตรฐานธรรมาภิบาล (CG) เพื่อเปรียบเทียบคุณภาพบริษัทข้ามตลาดและในระดับตลาดทุนของโลก ก.ล.ต. ได้สร้างช่องทางให้ตัวกลางไทยนำสินค้าไปขายในตลาดสำคัญ ๆ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงการลงนามความร่วมมือเพื่อให้กองทุนรวมไทยไปขายในยุโรปได้

นายวรพลกล่าวว่า ในส่วนของการออกหลักเกณฑ์สนับสนุนการขับเคลื่อนตลาดทุนไทยสู่การเป็นศูนย์เชื่อมโยงการระดมทุนในภูมิภาค ก.ล.ต. ได้ดำเนินการดังนี้

(1) สนับสนุนการระดมทุนของกิจการต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกลุ่ม GMS ได้แก่ เกณฑ์รองรับบริษัทต่างประเทศที่มาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเป็นแห่งแรก (primary listing) และเกณฑ์รองรับบริษัทต่างประเทศที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อื่นอยู่แล้ว และมาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยเพิ่มเติม (secondary listing)

(2) สร้างกลไกการระดมทุนในไทย เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในต่างประเทศ รวมทั้งประเทศกลุ่ม GMSผ่านทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure trust)

(3) วางกติกาสนับสนุนการสร้างสินทรัพย์ลงทุนในประเทศกลุ่ม GMS (GMS asset class) ผ่านกองทุนรวมไทยที่ลงทุนในประเทศกลุ่ม (GMS) ได้ถึง 100% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน แต่จะต้องกระจายการลงทุนซึ่งยังเป็นการสร้างโอกาสการแข่งขันของอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยด้วย

(4) สร้างกลไกอำนวยความสะดวกเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศ ผ่าน DR หรือ Depositary Receipt ซึ่งเป็นตราสารแสดงสิทธิการฝากหลักทรัพย์ต่างประเทศ การลงทุนผ่าน DR เปิดให้ไปลงทุนในหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ในประเทศกลุ่ม GMS ด้วย

สำหรับความพยายามในการพัฒนากฎเกณฑ์และยกระดับการดำเนินธุรกิจ ผ่านเวทีแลกเปลี่ยนระหว่าง ก.ล.ต. และผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนในโครงการ CEO Forum ส่งเสริมให้มีความสนใจเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผลักดันให้เข้าร่วมแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านการทุจริตในโครงการแนวร่วมปฏิบัติ (Collective Action Coalition) ของภาคเอกชนไทย นำไปสู่ความคืบหน้าอย่างเป็นรูปธรรมในด้านธรรมาภิบาล (CG) โดยได้รับการประเมิน CG ROSC สูงถึง 82.83 จาก 100 คะแนน ขณะที่การประเมิน CG Watch ได้รับคะแนนสูงเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รวมทั้งได้รับการประเมิน ASEAN CG Scorecard 2556/2557 สูงที่สุดจากทั้งหมด 6 ประเทศใน ASEAN ที่เข้ารับการประเมิน

นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้พัฒนางานด้านคุณภาพทางบัญชีจนได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยการเข้าร่วมเป็นสมาชิก IFIAR หรือ International Forum of Independent Audit Regulator ทำให้ได้รับการยอมรับว่า ก.ล.ต. มีความเป็นอิสระจากผู้ประกอบวิชาชีพ และระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชีของประเทศไทยสอดคล้องกับแนวทางสากล รวมถึงการได้รับ Recognition จากคณะกรรมาธิการยุโรป ในเรื่องระบบการกำกับดูแลผู้สอบบัญชี ส่งผลให้ผู้ลงทุนมีความเชื่อถือในระบบการรายงานทางการเงินและคุณภาพผู้สอบบัญชีไทยมากยิ่งขึ้น ในเรื่องการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจและสถาบันตัวกลาง ก.ล.ต. สร้างกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนเพิ่มขึ้น ปรับปรุงเกณฑ์การเสนอขายสินค้าและบริการ เพิ่มความรับผิดชอบของตัวกลางในการขายสินค้าและบริการให้เหมาะสม ตลอดจนอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบธุรกิจโดยออกเกณฑ์กลางรองรับการออกและเสนอขายตราสารใหม่ได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผู้ลงทุนและผู้ระดมทุน เช่น การขยายอัตราส่วน การลงทุนในตราสารอนุพันธ์ การปรับปรุงเกณฑ์การออกและเสนอขายตราสาร Basel III และการปรับปรุงเกณฑ์ให้ผู้ประกอบธุรกิจบริการลงทุนในสินค้าต่างประเทศได้สะดวก นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในการรวมตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (AFET) กับตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) ให้เป็นไปอย่างราบรื่น เพื่อประโยชน์ต่อประเทศในด้านการประหยัดต่อขนาด (economy of scale) และอำนวยความสะดวกให้ผู้ลงทุนสามารถทำธุรกรรมในตลาดเดียว ครอบคลุมด้านสินค้าและตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ด้านผู้ประกอบธุรกิจ และด้านบุคลากรทางด้านการพัฒนากฎหมาย มีความคืบหน้าเป็นอย่างมากในการผลักดันการแก้ไขกฎหมายหลายฉบับ ได้แก่ กฎหมายหลักทรัพย์เพื่อเพิ่มมาตรการลงโทษทางแพ่ง (civil sanction) และองค์กรกำกับดูแลตนเองในตลาดทุน (SRO)การดำเนินคดีแบบกลุ่มในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (class action) การปรับปรุงบทบัญญัติการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ให้มีความเป็นสากล (securitization) และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่กองทุนและผู้ออมเพื่อเป็นหลักประกันกรณีการออกจากงานและชราภาพ

นายวรพลกล่าวเสริมว่า สิ่งที่สำคัญมากและจะขาดเสียมิได้เลย คือ การส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการลงทุน ทั้งในด้านการให้ความรู้แก่ประชาชน และส่งเสริมงานวิจัยเกี่ยวกับตลาดทุน ในส่วนของการให้ความรู้แก่ประชาชนให้มีความรู้ทางการเงินเพื่อชีวิตที่มั่นคง ลดความเหลื่อมล้ำ ได้ริเริ่มโครงการส่งเสริม ความรู้ด้านการเงินหลายโครงการ พัฒนาสื่อการเรียนรู้บนเว็บไซต์ www.จัดการเงินเป็น.com เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนวัยเริ่มทำงาน ทำคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมและการจัดทำโครงการสร้างวินัยให้พนักงานบริษัทจดทะเบียนรู้จักการวางแผนทางการเงิน (FL in workplace)การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นประโยชน์ของการลงทุนอย่างสม่ำเสมอผ่านโครงการสานฝันเริ่มด้วยพันบาท และที่สำคัญคือ การมีความร่วมมือกับหน่วยงานภาคีและพันธมิตรถึง 17 แห่ง ในการดำเนินโครงการเปลี่ยนประเทศไทยให้รุ่งเรือง

ด้วยความรู้ทางการเงิน

พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. มุ่งส่งเสริมภาคการศึกษาและการพัฒนางานวิจัยสำหรับตลาดทุน โดยความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำ 4 แห่ง ได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) จัดสัมมนา “SEC Working Papers Forum” ทุกเดือน เพื่อเป็นเวทีนำเสนอผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และมุ่งนำบทวิจัยไปใช้ได้จริง

“ตลอดระยะเวลาร่วม 4 ปี ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ดำเนินการตามยุทธศาสตร์ที่มีความต่อเนื่อง และครอบคลุมการพัฒนาหลากหลายด้านพร้อม ๆ กัน เพื่อทำให้ตลาดทุนไทยเป็นที่น่าสนใจในสายตาผู้ลงทุนทั่วโลก เปิดโอกาสให้กับกิจการระดับต่าง ๆ เข้าถึงทุนในรูปแบบที่เหมาะสมกับตนเอง สร้างสินค้าและบริการที่หลากหลายสร้างผู้ลงทุนคุณภาพ รู้จักใช้ประโยชน์จากตลาดทุน ส่งเสริมการสร้างความยั่งยืน ด้วยความเชื่อมั่นในหลักความดีเมื่อตลาดทุนดี จะดึงดูดเงินลงทุน เพราะผู้ลงทุนย่อมเลือกลงทุนในของที่ดี” นายวรพลกล่าวในท้ายที่สุด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ