นางสุภาวดี หาญเมธี ประธานสถาบันอาร์แอลจี (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป) เปิดเผยว่า EF (Executive Functions) เป็นกระบวนการทางความคิด (Mental process) ในสมองส่วนหน้า ที่เกี่ยวข้องกับการคิด ความรู้สึก และการกระทำ เช่น การยั้งใจคิดไตร่ตรอง การควบคุมอารมณ์ การยืดหยุ่นทางความคิด การตั้งเป้าหมาย วางแผน ความมุ่งมั่น การจดจำและเรียกใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดลำดับความสำคัญของเรื่องต่างๆ และการทำสิ่งต่างๆ อย่างเป็นขั้นเป็นตอนจนบรรลุความสำเร็จ ซึ่งเป็นทักษะที่มนุษย์เราทุกคนต้องใช้ มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเรียน การทำงาน รวมทั้งการมีชีวิตครอบครัว ทักษะ EF นี้นักวิชาการระดับโลกชี้แล้วว่า สำคัญกว่า IQ และ EQ มีงานวิจัยชี้ชัดว่าช่วงวัย 3-6 ปีนี้ เป็นช่วงเวลาสำคัญในการพัฒนาทักษะ EFให้กับเด็ก
Executive Functions (EF) ประกอบด้วยทักษะ 9 ด้าน ประกอบด้วย1.Working memory ความจำที่นำมาใช้งาน 2.Inhibitory Control การยั้งคิด 3.Shift หรือ Cognitive Flexibility การยืดหยุ่นความคิด 4.Focus /Attention การใส่ใจจดจ่อ 5.Emotional Control การควบคุม 6.Planning and Organizing การวางแผนและการจัดระบบดำเนินการ 7.Self -Monitoring การรู้จักประเมินตนเอง 8.Initiating การริเริ่มและลงมือทำงานตามที่คิด 9. Goal-Directed Persistence ความพากเพียรมุ่งสู่เป้าหมาย
การนำ EF ไปใช้ ไม่ได้เนื้อหาในบาท และไม่ได้เพิ่มภาระใหม่ให้กับพ่อแม่หรือครู ไม่ต้องมีอุปกรณ์แพงๆ แต่ต้องทำความเข้าใจหลักการพัฒนาทักษะEF ให้ชัดเจน แล้วสังเกตว่าลูกของเรามีจุดแข็ง EF ในด้านใด มีจุดอ่อนด้านใด แล้วฝึกฝนเสริมสร้างในด้านนั้น โดยพัฒนาผ่านประสบการณ์ในชีวิตจริง ทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน
โลกในศตวรรษที่ 21 เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว และซับซ้อนมาก เด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ หากทักษะ EF บกพร่อง ชีวิตอาจล้มเหลว ตกเป็นทาสของสิ่งเร้าทั้งหลาย อาทิ ยาเสพติด การพนัน แอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่หากได้รับการฝึกฝนทักษะ EF มาดี บุคคลจะคิดวิเคราะห์ มีหลักการ มีการไตร่ตรอง ตัดสินใจได้อย่างเหมาะสม ว่าสิ่งไหนถูกสิ่งไหนควร รู้จักวางแผนก่อนลงมือทำ หากทำไปแล้วเกิดอุปสรรค สามารถลุกขึ้นสู้ รู้จักแก้ไข คิดค้นหาทางออกใหม่ๆ ไม่ยึดติดอยู่กับกรอบความคิดเดิมๆ และรู้จักควบคุมอารมณ์ และพฤติกรรมตนเอง จนเป็นที่ยอมรับของสังคม เพื่อน คนในครอบครัว ดังนั้น EF จึงเป็นทักษะพื้นฐานสำคัญของชีวิต