ก.เกษตรฯ เดินหน้ามาตรการติดตามผล โครงการสร้างรายได้ฯ ตำบลละไม่เกิน 1 ล้าน ชี้ทุกกิจกรรม เน้นถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้

พุธ ๑๕ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๘:๔๔
นายสมปอง อินทร์ทอง รองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการสร้างรายได้และพัฒนาการเกษตรแก่ชุมชนเพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง ว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบอนุมัติให้ดำเนินโครงการสร้างรายได้ฯ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2558 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตร เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินงาน ร่วมกับกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ชุมชนสามารถกำหนดกิจกรรมจากความต้องการและสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ทางการเกษตร นำไปสู่การพัฒนาการเกษตรของชุมชนอย่างยั่งยืน จำนวน 3,051 ตำบล ตำบลละไม่เกิน 1 ล้านบาท ได้มีการประชุมคณะกรรมการฯ ระดับกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาอนุมัติโครงการและติดตามความคืบหน้าของโครงการฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้ ได้มีการดำเนินการให้คำแนะนำ เรื่องการจัดทำบัญชีโครงการฯ โดยกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ และ การประเมินผลโครงการฯ โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร อีกด้วย

นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกรมส่งเสริมการเกษตรทุกกิจกรรม เน้นถูกต้อง ครบถ้วน โปร่งใส ยุติธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อให้พื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งซ้ำซากได้รับประโยชน์โดยตรงและทั่วถึง ขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้โครงการประสบความสำเร็จเกษตรกรได้รับประโยชน์ กว่า 1.8 ล้านครัวเรือน ?พร้อมเปิดเผยความคืบหน้าของโครงการสร้างรายได้ฯ (ผลการดำเนินงาน 10 เมษายน 2558) คณะกรรมการระดับกระทรวงพิจารณาผ่านโครงการแล้วจำนวน 6 ครั้ง 6,596 โครงการ วงเงิน 3,004.193 ล้านบาท คิดเป็น 98.47% มีครัวเรือนเกษตรกรได้รับประโยชน์ 2,605,196 ครัวเรือน มีเกษตรกรผู้ใช้แรงงาน 352,368 ราย แบ่งเป็นลักษณะกิจกรรม 4 ลักษณะที่กำหนด คือ 1.กิจกรรมเพื่อจัดการแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรของชุมชน 50.44% 2.กิจกรรมปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต 40.84% 3.กิจกรรมการผลิตทางการเกษตรและการแปรรูปผลผลิตเกษตรเพื่อสร้างรายได้ในฤดูแล้ง 6.96 % 4.กิจกรรมเพื่อลดความสูญเสียผลผลิตเกษตร 1.76 % และได้ดำเนินการเสนอของบประมาณสำนักงบประมาณแล้วประมาณ 2,694.234 ล้านบาท คิดเป็น 88.31 %

โดยสำนักงบประมาณอนุมัติงบประมาณแล้ว 1,455 โครงการวงเงินงบประมาณ 628.25 ล้านบาท คิดเป็น 20.59 %สำหรับขั้นตอนของการเบิกจ่ายเงินในโครงการสร้างรายได้ฯ นั้น จะเป็นไปอย่างรัดกุม โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ ซึ่งขั้นตอนการจ่ายเงินจนถึงชุมชนนั้นจะผ่านระบบบัญชีเงินฝากของธนาคารทั้งหมด ส่วนค่าใช้จ่ายวัสดุจะต้องมีการทำบัญชีและการเบิกจ่ายค่าวัสดุของชุมชน โดยชุมชนจะได้รับคำแนะนำจากกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เพื่อให้ถูกต้องตามระเบียบและเงื่อนไข ส่วนงบประมาณการจ้างงานของแต่ละชุมชนจะโอนเข้าบัญชีเงินฝากของเกษตรกรตามข้อตกลงการจ้างแรงงาน โดยได้รับความร่วมมือจาก ธกส. ในการลดหย่อนค่าธรรมเนียมอีกด้วย นายโอฬาร กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๓:๐๑ ธนาคารไทยพาณิชย์คว้าแชมป์ธนาคารแห่งปีต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน
๑๓:๐๔ จุฬาฯ ผนึก สมช. และกองทัพเรือ ลงนามความร่วมมือ จัดตั้ง องค์กรจัดการความรู้ทางทะเลของประเทศไทย
๑๓:๓๖ พาราไดซ์ พาร์ค ยกร้านอาหารดังจากเมืองนางาซากิ Ringer Hut (ริงเกอร์ฮัท) และ Hamakatsu (ฮามาคัตสึ) เปิดสาขาใหม่ ชั้น
๑๓:๕๒ สคร.12 สงขลา ร่วมรณรงค์สงกรานต์ ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุ เน้นย้ำ ดื่มไม่ขับ ง่วงไม่ขับ คาดเข็มขัดนิรภัย รถตู้โดยสารสาธารณะปลอดภัย
๑๑:๑๐ กรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ คว้ารางวัลใหญ่ GRANDE จากเวที ADFEST 2025 จาก แคมเปญสมัครบัตร What the Fast!
๑๑:๒๘ ทรู เปิดพื้นที่อัจฉริยะแห่งอนาคต True Branding Shop โฉมใหม่ ขนทัพเทคโนโลยีล้ำสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ ยกระดับทุกมิติไลฟ์สไตล์ดิจิทัล ณ ชั้น 3
๑๑:๐๔ ทัช พร็อพเพอร์ตี้ แนะ 7 แนวทาง อาคารรับมือช่วงมรสุมหลังแผ่นดินไหว จุดไหนต้องเฝ้าระวังเพิ่ม
๑๑:๓๔ OPPO ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ร่วมบริจาคอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้แก่มูลนิธิสันติสุข
๑๑:๓๖ NITMX เผยสถิติการใช้งาน PromptPay มีนาคม 2568 ยอดธุรกรรมแตะ 2.1 พันล้านรายการ หนุนไทยสู่สังคมไร้เงินสด
๑๐:๒๘ NT แนะนำบริการ AWS Migration Assessment and Deployment เพื่อช่วยหน่วยงานภาครัฐ ย้ายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีขึ้นคลาวด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด