ล่าสุด พญ.นันทภัทร์ สุภาพรรณชาติ แห่ง เอเพ็กซ์ โปรฟาวด์ บิวตี้ (Apex Profound Beauty) เจ้าของฉายาการฉีดแบบ Vector Lift ที่จะปรับรูปหน้าให้ได้องศาและสัดส่วนตามองศาความงาม ได้เผยในที่ประชุมสมาคมแพทย์ผิวหนังแห่งประเทศไทยว่า “ในอดีตการฉีดสารต่างๆ เพื่อสร้างความงามให้แก่ใบหน้า เรามักพบว่าทำไมฉีดแล้วไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง หรือไม่รู้สึกว่าสวยขึ้น เป็นเพราะเมื่อก่อนนั้น การฉีดจะเน้นฉีดในบริเวณที่ต้องการแก้ไข หรือมีข้อบกพร่อง โดยไม่ได้มีการดูความงามของใบหน้าแบบภาพรวม แต่ในปัจจุบัน การฉีดสารเข้าหน้า หรือการร้อยไหม ให้สวย จะมีการวิเคราะห์องศาความงามของใบหน้า หรือ เฟเชียล อะนาไลซิซ (Facial Analysis) โดยจะดูตั้งแต่รูปหน้า โดยรูปหน้าที่ได้รับความนิยมคือรูปหน้าไข่ หรือรูปหน้ารูปเพชร ซึ่งเหมาะสำหรับผู้หญิงเอเชีย เพราะมีโหนกแก้มที่สูง ในขณะที่ผู้ชายจะเป็นรูปหน้าสี่เหลี่ยมที่มีคางเล็กน้อย จากนั้นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดูสัดส่วนของรูปหน้า ซึ่งสัดส่วนของรูปหน้าที่สวยงามสมบูรณ์แบบ คือ 3 : 5 โดยเมื่อลากเส้นแนวนอน ใบหน้าต้องมีสัดส่วนที่เท่ากันทั้ง 3 ส่วน คือไรผมถึงคิ้ว คิ้วถึงปลายจมูก และปลายจมูกถึงคาง ส่วนแนวตั้งต้องมีสัดส่วนเท่ากันทั้ง 5 ส่วนคือ หูถึงแก้ม แก้มถึงหางคิ้ว หางคิ้วถึงหัวคิ้ว หัวคิ้วถึงหางคิ้ว ความกว้างของจมูก ไม่เพียงเท่านี้เมื่อลากเส้นตรงตัดกับจุดที่กว้างสุดของใบหน้า จะได้มุม 10 องศา ที่เท่ากันทั้งมุมบน และมุมล่าง
อีกทั้งยังมีสัดส่วนองศาของจมูก องศาของปาก ที่สัดส่วนของปากบนจะต้องได้ 1 ใน 3 ของสัดส่วนปากล่าง หรือโหนกแก้มแบ่งได้ 3 ส่วนเท่าๆ กันอีกเช่นกัน และตำแหน่งสูงสุดของโหนกแก้มต้องอยู่ในส่วนที่ 2 นอกจากนี้ ใบหน้าที่ดูดีจะต้องมีส่วนโค้งและเว้าที่ เรียกว่า S Curve เมื่อมองดูส่วนใต้ตาและแก้มจากด้านข้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็น ผู้สูงวัย องศาความงามของหน้าจะหย่อนคล้อยลงมาหมด แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงต้องวิเคราะห์ให้ได้ว่า จะสามารถฉีด หรือดึงในส่วนไหน เพื่อให้ได้องศาความงามที่เหมาะสม โดยองศาความงามที่สมบูรณ์สำหรับผู้หญิง เมื่อมองด้านข้าง ตั้งแต่ช่วงหน้าผากจรดถึงปลายคาง จะต้องโค้งกลมงาม ในขณะที่องศาความงามที่สมบูรณ์ในของผู้ชาย เมื่อมองด้านข้าง จะต้องมีลักษณะเป็นเส้นตรง ซึ่งการวิเคราะห์องศาความงามของใบหน้านี้ ไม่ได้จำกัดเพียงแค่อวัยวะต่างๆ บนใบหน้าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการปลูกผมอีกด้วย
เมื่อวิเคราะห์องศาความงามได้แล้ว ก็จะมาถึงขั้นตอนของการฉีด ซึ่งการฉีดหรือการทำหัตถการอย่างไรให้ปลอดภัยนั้น อันดับแรกจะต้องขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความชำนาญของแพทย์ที่จะให้การรักษา ต้องมีความรู้ในเรื่องของกล้ามเนื้อเป็นอย่างดี จะต้องรู้ว่าเวลาที่จะฉีด จะฉีดเข้าที่กล้ามเนื้อมัดไหน ฉีดอย่างไร มุมไหน เพื่อไม่ให้มีผลข้างเคียง เช่น ยิ้มไม่ได้ คิ้วตก หรือมุมปากตก ต่อมาเลือกใช้สารที่ได้คุณภาพ ไม่ว่าจะเป็น โบท๊อกซ์ ฟิลเลอร์ หรือไหม ต้องได้มาตรฐาน ผ่านการรับรองโดย อย. ยิ่งหากเป็นสารที่มีการใช้อย่างแพร่หลายมาเป็นเวลานาน มีงานวิจัยทางการแพทย์รับรอง จะยิ่งดีมาก โดยเฉพาะฟิลเลอร์ ควรเลือกใช้สารที่ไม่ถาวร สามารถสลายเอง เพราะอันตรายจากการฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่ได้คุณภาพ โดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญ จะเสี่ยงผิวเน่า ตาบอด และสามารถเป็นอัมพาต ในขณะที่เส้นไหมที่จะนำมาร้อยก็เช่นเดียวกัน ควรใช้ไหมละลาย ยิ่งตอนนี้มีเทคนิคแปลกๆ อย่างการนำไหมไปจุ่มในสเต็มเซลล์ หรือจุ่มในสารอื่นๆ หากเมื่อนำมาร้อยที่ใบหน้า จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ และหากแพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ ร้อยไม่ดี ก็เสี่ยงเกิดเป็นรอยแผลเป็นได้เช่นเดียวกัน”
เอาเป็นว่าหากใครกำลังตัดสินใจจะแต่งสวย เสริมหล่อ ควรศึกษากันตั้งแต่คลินิกที่จะเข้าใช้บริการ ว่าเป็นแพทย์ที่เชี่ยวชาญทางด้านนี้ และของที่เลือกใช้ ได้มาตรฐานผ่านการรับรองหรือไม่ อย่าให้ความสวย ความหล่อ มาครอบงำ จนพลาดพลั้งไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ เพราะความงามควรมาพร้อมกับความปลอดภัย สนใจหรืออยากสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 080-5000-123