ประมง..แจง ปลาตายแม่น้ำป่าสัก 400 กว่าตัน สูญกว่า 38 ล้านบาท หารือจังหวัดเร่งให้ความช่วยเหลือ แนะ..แนวคิดทำกระชังระบบปิดไว้สำรอง

ศุกร์ ๑๗ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๐:๕๔
จากกรณีเกิดเหตุการณ์ปลาในธรรมชาติและปลาทับทิมของเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังลุ่มแม่น้ำป่าสัก จังหวัดสระบุรี ลอยหัวตายเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 29 มีนาคม 2558 นั้น

นายจุมพล สงวนสิน อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ในครั้งแรกทางสำนักงานประมงจังหวัดสระบุรี ได้ลงพื้นที่ หมู่ที่ 3 อำเภอแก่งคอย และ หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 8 ตำบลบ้านป่า อำเภอแก่งคอย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 แล้ว ซึ่งขณะนั้นพบมีปลากระชังของเกษตรกร ประมาณ 250 กระชัง รวมถึงปลาในธรรมชาติ อาทิ ปลาตะเพียน ปลากระแห ปลากาดำ ปลากระมัง ปลาตะโกก ปลาหนวดพราหมณ์ ปลาเทโพ ปลาลิ้นหมา และกุ้งก้ามกราม ลอยหัวฮุบอากาศ และเริ่มลอยตายจำนวนมาก ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวแสดงว่าน่าจะเกิดจากในน้ำมีปริมาณออกซิเจนต่ำ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ท้องน้ำ จนเป็นเหตุให้สัตว์น้ำที่อาศัยอยู่ที่พื้นท้องน้ำ รวมถึงปลากระชังต้องขึ้นมาหาอากาศที่ผิวน้ำ ซึ่งอาการนี้เรียกว่า “ปลาลอยหัว” ซึ่งเบื้องต้นได้มีการแนะให้ทางเกษตรกรเติมอากาศและพ่นน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำให้กับปลา แต่พอวันรุ่งขึ้น (31 มี.ค.58) ได้ลงพื้นที่เดิมอีกครั้ง พบว่ามีปลาในกระชังลอยตายเพิ่มจำนวนมากขึ้น อีกทั้ง การตายของปลากระชังยังได้แพร่ขยายไปยัง ตำบลนาโฉง อำเภอเมืองสระบุรี จึงได้แจ้งให้เกษตรกรขนย้ายปลาในกระชังที่ตายขึ้นเอามาฝังกลบ และปลาที่ยังไม่ตายให้จับขึ้นมาจำหน่ายเพื่อลดการสูญเสีย โดยได้ประสานขอกำลังทหาร จำนวน 50 นาย เพื่อมาช่วยขนย้ายปลากระชังให้เกษตรกร ตลอดจนแจ้งเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังที่อยู่ในอำเภอเมืองสระบุรี และอำเภอเสาไห้ ที่ยังไม่ได้รับผลกระทบ เตรียมรับมือกับมวลน้ำเสียที่จะไหลลงมาตามแม่น้ำเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามทราบจากทางพื้นที่ว่า ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี กำลังจะประกาศให้กรณีดังกล่าวเป็นภัยพิบัติที่เกิดจากธรรมชาติ และจะหามาตรการเยียวยาช่วยเหลือต่อไปตามระเบียบราชการ

สำหรับสถานการณ์ปัจจุบันนี้ จากการลงพื้นที่สำรวจพบความเสียหายของผู้เลี้ยงปลากระชังแล้วใน 4 อำเภอ ได้แก่ แก่งคอย เมืองสระบุรี เสาไห้ และเฉลิมพระเกียรติ คาดว่าจะมีเกษตรกรที่เสียหาย จำนวน 111 ราย กระชัง 538 กระชัง ผลผลิตที่เสียหาย จำนวน 430,400 กิโลกรัม) คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 38,736,000 บาท

นายวิทยา หวังเจริญพร ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีระบบการเลี้ยงสัตว์น้ำ กรมประมง กล่าวในรายละเอียดเพิ่มเติมว่า จากการลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการตายของปลาจำนวนมากขนาดนี้ พบว่าน้ำเสียได้ไหลผ่านไปหมดแล้วและไหลผ่านไปยังเขตจังหวัดอยุธยาบริเวณเขื่อนพระราม 6 แล้วเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 ทำให้มีภาวะปลาธรรมชาติลอยหัว แต่เนื่องจากมีการปล่อยน้ำจากเขื่อนป่าสักลงมาดันช่วยให้ขณะนี้น้ำมีค่าปกติและไม่มีปลาตายแล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพื้นที่จังหวัดสระบุรี ขณะนี้ได้มอบหมายให้นักวิชาการประมงเก็บตัวอย่างปลา และตัวอย่างดินเพิ่มเติมเพื่อตรวจสอบหาการปนเปื้อนซึ่งรอผลการตรวจสอบอยู่ อีกทั้ง ยังได้เสนอแนวคิดการทำกระชังพักปลาระบบปิด ซึ่งมีระบบกรองน้ำและเติมออกซิเจนไว้ในบริเวณข้างๆ กระชัง สำหรับย้ายลงเลี้ยงชั่วคราวหากเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรสามารถนำปลาขึ้นจากกระชังได้ทันท่วงที

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ