การซ่อมบำรุงประจำปีของแหล่งก๊าซฯ 2 แห่งในสหภาพเมียนม่าร์ มีระยะเวลา 10 วัน คือ ตั้งแต่วันที่ 10-19เมษายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณก๊าซฯ ขาดจากระบบรวม 1,200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ปตท. จึงได้ประสานการจัดหาเชื้อเพลิงสำรองสำหรับโรงไฟฟ้าฝั่งตะวันตกไว้ล่วงหน้า โดยมีปริมาณการใช้น้ำมันเตาสะสมทั้งหมดอยู่ที่ 61ล้านลิตร (จากปริมาณสำรอง 144 ล้านลิตร) และการใช้น้ำมันดีเซล อยู่ที่ 10 ล้านลิตร (จากปริมาณสำรอง 100 ล้านลิตร) ในส่วนของเอ็นจีวีนั้น มีการจัดส่งก๊าซฯ ให้กับสถานีบริการเอ็นจีวีตามแผนได้อย่างพอเพียงตลอดการซ่อมบำรุง
ทั้งนี้ ปริมาณสำรองที่คงเหลืออยู่จะสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงทดแทนก๊าซธรรมชาติที่จะขาดจากระบบประมาณ 430 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ในช่วงที่มีการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ซอติก้า ระหว่างวันที่ 20-27 เมษายน ศกนี้ ได้ทันที โดย ปตท. จะมีการติดตามความก้าวหน้าของการซ่อมบำรุงกับผู้ผลิตตลอดระยะเวลาซ่อมบำรุง เชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ใช้ก๊าซฯ เช่นกัน
“การซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ แต่ละครั้ง ต้องมีการประสานงานทั้งผู้ผลิต ภาครัฐ และผู้ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อทุกภาคส่วนน้อยที่สุด ปตท. จึงใคร่ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประชาชนทุกท่านที่เข้าใจถึงความจำเป็น และร่วมสนับสนุนด้วยการลดใช้พลังงาน ซึ่งช่วยให้สถานการณ์พลังงานประเทศในช่วงซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ เป็นไปด้วยดี อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ ยังมีแหล่งก๊าซฯ อื่นๆ ที่มีแผนซ่อมบำรุงประจำปีเพื่อศักยภาพในการผลิต ปตท. ต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่อาจเกิดขึ้น และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือจากทุกท่านเช่นเดิม” นายชาครีย์ กล่าวเสริมในตอนท้าย