การศึกษาสุดยอดนายจ้างดีเด่นของบริษัท เอออน ฮิววิท นี้มีความครอบคลุมและน่าเชื่อถือที่สุดในเอเชีย แปซิฟิค ขณะนี้ได้มีการศึกษาดังกล่าวใน 12 ประเทศ คือ ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์, จีน, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, อินเดีย, อินโดนิเซีย, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, สิงคโปร์, ไต้หวัน และ ไทย ซึ่งบริษัท แมคไทย จำกัดได้ศึกษาและสอบถามพนักงานเกี่ยวกับความผูกพันของพนักงานกับองค์กร, ความภาคภูมิใจในแบรนด์, ประสิทธิผลของผู้นำในองค์กรและการสร้างวัฒนธรรมที่ส่งเสริมการทำงานที่มุ่งเน้นผลงาน โดยสุ่มตัวอย่างจากตัวแทนของพนักงานในองค์กรกว่า 9,000 คนและผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการตัดสินให้บริษัท แมคไทย จำกัดเป็นหนึ่งในนายจ้างดีเด่นฯประจำปีนี้
มร.เฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด กล่าวว่า "ผมรู้สึกดีใจและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่แมคไทยได้รับเลือกให้เป็น “นายจ้างดีเด่นของประเทศไทย ประจำปี 2558” (Best Employer Thailand 2015) หลังจากที่เคยคว้ารางวัล “นายจ้างดีเด่นของประเทศไทย และเอเชียแปซิฟิค ประจำปี 2554” (Best Employers in Thailand and in APAC 2011) และรางวัล “สุดยอดนายจ้างดีเด่นอันดับ 1 ของประเทศไทยและนายจ้างดีเด่น ระดับภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ประจำปี 2556” (Best of the Best Employer in Thailand and Regional Accredited Best Employer in APAC 2013) จากการศึกษาโดยเอออน ฮิววิทและสถาบันศศินทร์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเมื่อปลายปีที่ผ่านมาแมคไทยซึ่งเป็นธุรกิจอาหารเพียงแบรนด์เดียวที่ได้รับการยกย่องให้ได้รับรางวัล “สุดยอดองค์กรในการสร้างและพัฒนาผู้นำยอดเยี่ยมแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประจำปี 2557” (Top Company for Leaders® in South East Asia 2014) จากเอออน ฮิววิท ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาองค์กรและทรัพยากรบุคคลอีกด้วย นับว่าเป็นรางวัลที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความผูกพันของพนักงานที่มีต่อองค์กร และพร้อมที่จะมุ่งมั่นทำงานเพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จ สอดคล้องกับนโยบายที่แมคไทยใช้เป็นแนวทางการบริหารมาโดยตลอด ย้อนกลับไปเมื่อปี 2549 ที่ผมเริ่มเข้ามาบริหารแมคโดนัลด์ ประเทศไทย หนึ่งในวิสัยทัศน์ของบริษัทฯคือการเป็น Employer of Choice ภายในปี 2554 เพราะธุรกิจของแมคโดนัลด์จริงๆ แล้วเป็น People Business ดังนั้นเราจึงให้ความสำคัญกับการดูแลพนักงานเป็นอันดับแรก เพราะเราเชื่อว่าถ้าเราดูแลพนักงานเป็นอย่างดีแล้ว ธุรกิจจะดูแลตัวมันเองและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน จนถึงวันนี้มีการขยายสาขาเพิ่มขึ้นกว่า 200 สาขา มีจำนวนพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 3,000 คนในปี 2549 เป็นกว่า 9,000 คนในปัจจุบัน ประกอบกับ
ยอดขายที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นภาพสะท้อนความสำเร็จในแง่ธุรกิจ แต่นอกเหนือจากตัวเลขที่เป็นดัชนีของความสำเร็จธุรกิจแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่คณะผู้บริหารคำนึงถึงคือ ดัชนีความผูกพันของพนักงานกับองค์กร การศึกษาครั้งนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีที่องค์กรขับเคลื่อนผลลัพธ์ทางธุรกิจผ่านบุคลากรและยังช่วยให้องค์กรวัดความมีประสิทธิภาพของการบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งเวทีดังกล่าวเป็นเวทีอันทรงเกียรติระดับโลกที่บริษัทชั้นนำหลายแห่งอยากเป็นเจ้าของรางวัล สำหรับในประเทศไทยได้มีการศึกษามาตั้งแต่ปี 2544 ซึ่งผลการศึกษาพบว่า “แมคไทย” เป็นแบรนด์ QSR หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลนายจ้างดีเด่นฯ ติดต่อกัน 3 ครั้งในรอบ 10 ปี”
ด้านปัจจัยที่เป็นกุญแจแห่งความสำเร็จ มร.เฮสเตอร์ ชิว กล่าวว่า "ธุรกิจของแมคโดนัลด์เป็น People Business เราจึงให้ความสำคัญกับพนักงานเพราะพวกเขาคือผู้ส่งมอบความสุขและความประทับใจให้กับลูกค้า และเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดผลลัพธ์ทางธุรกิจ ดังนั้นความสำเร็จครั้งนี้นับได้ว่าเกิดจากพวกเขาเหล่านั้นที่ช่วยกันขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งได้แก่ STEPUP ให้กลายเป็นรูปธรรมและเป็นวิถีปฏิบัติของแมคไทยในทุกๆวันประกอบด้วย S-Sanook @ Work พนักงานมีความสุข สนุกสนาน และกระตือรือร้นในการทำงาน T-Team to Win มีเป้าหมายร่วมกัน ทำงานร่วมกันเป็นหนึ่ง ไว้ใจและเชื่อมั่นในความคิดเห็นของทุกคน E-Exceed Customer Expectation เข้าใจและตอบสนองได้เกินกว่าความต้องการของลูกค้า P-People ส่งเสริมสนับสนุน และพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ชื่นชมใน ความสำเร็จของกันและกัน U-Ultimate Ownership ทำงานเสมือนเป็นเจ้าของกิจการ กล้าเผชิญและร่วมแก้ปัญหา อย่างสร้างสรรค์ P-Passion to Win มีความรัก มุ่งมั่น และกระหายต่อความสำเร็จ เพื่อความเป็นที่หนึ่ง”
คุณจิระวัฒน์ แต่งเจนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท แมคไทย จำกัด เปิดเผยว่า “การได้รับเลือกเป็น “นายจ้างดีเด่นของประเทศไทย ประจำปี 2558” (Best Employer Thailand 2015)เกิดจากความเชื่อมั่นและความไว้วางใจของพนักงานที่มีต่อองค์กร ซึ่งต้องใช้เวลาในการสร้าง เพราะต้องเริ่มจากระดับซีอีโอผู้บริหารระดับสูง เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับผู้จัดการร้านทุกสาขาซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนของแบรนด์และทูตวัฒนธรรม พวกเขามีส่วนสำคัญมากที่สุดในการสร้างความเข้าใจและดูแลพนักงานกว่า 9,000 คนที่กระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ นอกจากนี้การสร้างบรรยากาศและสร้างแรงจูงใจในการทำงาน ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไป มีพนักงานหลากหลาย Generation ที่ต้องร่วมกันสร้างผลงานให้สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันอย่างสมดุล ซึ่งในภาวะที่มีการแข่งขันสูงและการขยายธุรกิจในปัจจุบันซึ่ง
ต้องการบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นแมคโดนัลด์จึงต้องสร้างความแตกต่างเพื่อให้องค์กรเป็นทางเลือกอันดับที่ 1 สำหรับผู้สนใจที่จะเข้าสู่ธุรกิจ QSR ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งที่ช่วยส่งเสริมให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการทำงานเป็นทีม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายและสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี รวมถึงทัศนคติในการบริการและความสนุกในการทำงาน ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคนเป็นอย่างมากและอีกหนึ่งปัจจัยที่สร้างความแตกต่างคือภาวะผู้นำอันเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลต่อการดูแลพนักงาน"
“ปัจจุบัน ระดับความคาดหวังของพนักงานเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้น แมคโดนัลด์จึงเน้นเพิ่มระดับความสุขของพนักงานและสร้างความผูกพันของพนักงานกับองค์กร นอกจากนี้ ยังต้องรับฟังความคิดเห็นของพนักงานและตอบสนองต่อความต้องการของพวกเขาให้ได้มากที่สุด รวมถึงให้คำมั่นสัญญาว่าพนักงานจะได้ทำงานอย่าง มีความสุขและเติบโตไปพร้อมๆ กับองค์กร เพื่อให้พนักงานร่วมงานกับเราและมีโอกาสก้าวหน้าไปด้วยกันอย่างต่อเนื่อง การที่แมคไทยเป็นแบรนด์ QSR หนึ่งเดียวที่ได้รับรางวัลนายจ้างดีเด่นฯติดต่อกัน 3 ครั้งในรอบ 10 ปี เป็นเครื่องยืนยันได้อย่างดีว่าเราเดินมาถูกทาง เราให้คำมั่นสัญญาว่าเราจะดูแลพนักงานเป็นอันดับแรก และมุ่งมั่นกับการพัฒนาบุคลากรอย่างดีที่สุด ปัจจุบันแมคโดนัลด์เปิดบริการ 212 สาขาทั่วประเทศ ให้บริการลูกค้ากว่า 8 ล้านคนต่อเดือน โดยมีพนักงานทั่วประเทศมากกว่า 9,000 คน ธุรกิจที่แข็งแกร่งของแมคโดนัลด์ในวันนี้เกิดขึ้นจากทีมงานที่ช่วยกันขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กรที่เข็มแข็ง จึงเป็นที่มาของความสำเร็จในปัจจุบัน” คุณจิระวัฒน์ กล่าวสรุป