นายกวิน เฉลิมโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) (CYBER) เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาคณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งนายนพพล มิลินทางกูร ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายติรวัฒน์ สุจริตกุล เข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ เนื่องจากทั้ง 2 ท่าน เป็นผู้ที่มีประสบการณ์การทำงานด้านพลังงานมาอย่างยาวนาน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ทั้งในด้านการบริหารงานและกิจการใหม่ๆ ที่บริษัทกำลังเตรียมความพร้อมเดินหน้าเข้าไปลงทุนในอนาคตและมั่นใจว่าจะนำพา CYBER ให้เติบโตอย่างมีศักยภาพ มีการทำงานที่โปร่งใส ยึดหลักธรรมาภิบาลสามารถตรวจสอบได้
“คุณนพพล จบการศึกษาระดับปริญญาโท คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขานิวเคลียร์เทคโนโลยีและระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 2 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ด้านพลังงานมาอย่างยาวนาน ขณะที่คุณติรวัฒน์ ท่านก็เป็นที่ปรึกษากองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีและเป็นประธานกรรมการ บริษัทสยามเพาเวอร์ เจนเนอเรชั่น จำกัด (มหาชน) การที่ CYBER ได้คนเก่งมากประสบการณ์ถึง 2 ท่านเข้ามาร่วมทำงานด้วย ผมเชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการบริหารและกิจการใหม่ๆ ที่ CYBER กำลังเตรียมความพร้อมเดินหน้าลงทุนในอนาคตได้อย่างแน่นอน ” นายกวิน กล่าว
ด้านนายนพพล มิลินทางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด (มหาชน) (CYBER) เปิดเผยถึงสาเหตุที่ตัดสินใจเลือกทำงานร่วมกับ CYBER เพราะเป็นองค์กรที่มีความท้าทาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับโครงสร้างการดำเนินธุรกิจและตัดสินใจเดินเข้าสู่เส้นทางเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานทางเลือก ประกอบกับบริษัทมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน เป็นโครงการที่มีอนาคตและอยู่ในเส้นทางการทำงานที่มีความถนัด ดังนั้นขอให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นมั่นใจว่าต่อจากนี้ไปจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ CYBER ไปในทิศทางที่ดีขึ้นและสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอน
“อะไรที่ไม่ชัดเจนหรือไม่แน่นอน ผมจะยังไม่พูดและอะไรที่ผมพูดไปแล้วจะต้องเป็นเรื่องที่ชัดเจนและพร้อมที่จะลงมือทำให้สำเร็จ เช่นเดียวกันกับที่ผมเลือกเข้ามาทำงานใน CYBER เพราะมองเห็นอนาคตที่สามารถจับต้องได้ โดยเฉพาะแผนการลงทุนที่ชัดเจนในธุรกิจพลังงานทางเลือก รวมไปถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่บริษัทยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันให้ผลประกอบการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต ” นายนพพล กล่าวในที่สุด
ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้ซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท อันดามันเพาเวอร์แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด (APU) จำนวน 100% หรือคิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนมูลค่า 340 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงาน ประเมินว่าเป็นการลงทุนที่ WIN-WIN สร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้ง 2 บริษัท ช่วยเอื้อประโยชน์และให้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต