KTAMขายตราสารหนี้ทั้งใน-ตปท.ชู6เดือนยิลด์2.45%

พุธ ๒๒ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๑:๑๖
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเดินหน้าเปิดขายกองทุนตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ ที่กำหนดอายุโครงการอย่างต่อเนื่องในทุกสัปดาห์ เพื่อรองรับลูกค้าที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ และรักษาฐานลูกค้ารายเดิมที่มีกองทุนครบอายุ เพื่อลงทุนต่อเนื่อง หากไม่มีความจำเป็นต้องการใช้เงิน และเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการล็อคผลตอบแทน ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจผันผวน

ในสัปดาห์นี้ บริษัทเปิดจำหน่ายอีก 2 กองทุน เสนอขายตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 28 เมษายน 2558 โดยแต่ละกองทุน มีความแตกต่างกัน ที่นโยบายการลงทุน อายุโครงการ และเงินลงทุนเริ่มต้น โดยกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ เอ็นแฮนซ์ 10 (KTFFE 10 ) เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินลงทุนสูง ตั้งแต่ 500,000 บาท ขึ้นไป อายุโครงการ 6 เดือน เน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ทั้ง100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน โดยกองทุนจะลงทุน ประเภทเงินฝาก ประจำ Akbank T.A.S , เงินฝากประจำ China Construction Bank , MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A. , MTN ออกโดย Banco ABC (Brazil ) และ MTN ออกโดย Turkiye IS Bankasi A.S. ผลตอบแทนประมาณ 2.45% ต่อปี

ส่วนกองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 65 (KTFF65) อายุโครงการ 3 เดือน เน้นลงทุนในตราสารต่างประเทศ ประเภทเงินฝากประจำ China Construction Bank , เงินฝากประจำ Bank of China , MTN ออกโดย Banco ABC (Brasil ) และ MTN ออกโดย Banco BTG Pactual S.A. ในสัดส่วน 80 % ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในตั๋วแลกเงินของ บมจ. บัตรกรุงไทย ผลตอบแทนประมาณ 2.20% ต่อปี เงินลงทุนขั้นต่ำ 10,000 บาท โดยทั้ง2 กองทุน ผลตอบแทนที่ได้รับบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษี

สำหรับ ภาวะตลาดตราสารหนี้ อัตราผลตอบแทนแกว่งตัวในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการลงทุนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่เป็นวันหยุดยาว ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจไทย โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติมียอดขายสุทธิจำนวน 5,108 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตาได้แก่ การตอบรับของตลาดต่อ Bond Supply ที่ในสัปดาห์นี้จะมีการประมูลทั้งตั๋วเงินคลัง พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี (LB21DA) และอายุ 22 ปี (LBA37DA) รวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยและแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของคณะกรรมการนโยบายการเงินที่จะมีการประชุมในช่วงปลายเดือน

ส่วนตลาดอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.26 - 32.53 บาทต่อดอลลาร์ฯ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกาโดยรวมปรับตัวลดลงจากสัปดาห์ก่อน จากตัวเลขเศรษฐกิจหลาย ๆ ตัวที่ออกมาไม่ดีรวมถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจไตรมาส 1 ปี 2558 ของจีน และกระแส Risk off รอบใหม่ฝั่งหุ้นจากตัวเลขเงินเฟ้อที่สูงกว่าคาดและความต้องการถือพันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการปรับตัวลดลงของหุ้น จากความกังวลรอบใหม่เกี่ยวกับความสามารถในการชำระหนี้ของกรีซ โดยสุรปอัตราผลตอบแทนสหรัฐอายุ 2 ปี ปรับตัวลดลง -6 bps. มาอยู่ที่ 0.51% ต่อปี อายุ 5 ปี ปรับตัวลดลง -10 bps. มาอยู่ที่ 1.31% ต่อปี และอายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง -9 bps. มาอยู่ที่ 1.87% ต่อปี สำหรับปัจจัยที่ต้องจับตามองได้แก่ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา และแนวทางการดำเนินนโยบายการเงินของ FOMC ที่จะมีการประชุมในช่วงปลายเดือน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ