ก.ล.ต. เผยผลงานวิจัย มก. ชี้พฤติกรรมผู้ลงทุนไทยที่ลงทุนซื้อขายหลักทรัพย์ตามกระแสเสี่ยงขาดทุนสูง

ศุกร์ ๒๔ เมษายน ๒๐๑๕ ๑๔:๑๙
ก.ล.ต. เผยแพร่ผลงานวิจัยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัด SEC Working Papers Forum ครั้งที่ 3/2558 ในหัวข้อ “พฤติกรรมนักลงทุนตามกระแส (noise trader) ในตลาดหุ้นไทย”

นายชาลี จันทนยิ่งยง รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า งานสัมมนา SEC Working Papers Forum ครั้งที่ 3/2558 ก.ล.ต. เผยแพร่ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เกี่ยวกับสภาพคล่องและพฤติกรรมผู้ลงทุนตามกระแส (noise trader) ในตลาดหุ้นไทย ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาข้อมูลและการประเมินมูลค่าพื้นฐานของหลักทรัพย์ให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงในการซื้อขายหลักทรัพย์

ผศ.ดร. ธนโชติ บุญวรโชติ นักวิจัยจากคณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดเผยถึงผลงานวิจัยเรื่องแรก “ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทน ปริมาณซื้อขายหลักทรัพย์ของนักลงทุนและความผันผวนของอัตราผลตอบแทน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” งานวิจัยนี้ใช้แบบจำลองเพื่อศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทน (return) ความผันผวนของอัตราผลตอบแทน (volatility) และปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ (volume) ของผู้ลงทุนแต่ละประเภทในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อวิเคราะห์หาโอกาสในการเกิดความเสี่ยงจากการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกระแส (noise trading risks) พบว่า มีความเสี่ยงจากการซื้อขายหลักทรัพย์ตามกระแสใน SET แสดงให้เห็นว่าดัชนี SET ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐานในระดับสูง เช่น ปริมาณการซื้อขาย ซึ่งแตกต่างจากตลาดหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา ที่การเพิ่มขึ้นหรือลดลงของดัชนีตลาดได้รับอิทธิพลส่วนใหญ่จากปัจจัยพื้นฐาน

งานวิจัยเรื่องที่สองเกี่ยวกับ “การวิเคราะห์พฤติกรรมแบบ Noise Traders ของนักลงทุนภายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” ซึ่งได้เคยศึกษาวิจัยไปแล้วเมื่อปี 2553 และสรุปผลว่า ผู้ลงทุนรายย่อยมีแนวโน้มพฤติกรรมลงทุนตามกระแสนั้น ต่อมาได้ทำวิจัยเพิ่มเติมและได้ข้อสรุปใหม่ คือ พฤติกรรมการลงทุนของผู้ลงทุนทุกประเภทใน SET เป็นผู้ลงทุนที่ทำการบ้านอย่างดีก่อนการตัดสินใจซื้อขาย (informed traders) อย่างไรก็ตาม เมื่อวัดผลตอบแทนการลงทุนของผู้ลงทุนแต่ละประเภท ปรากฏว่า ผลตอบแทนการลงทุนของผู้ลงทุนต่างประเทศมีค่าสูงสุด ขณะที่ผู้ลงทุนรายย่อยมีผลตอบแทนการลงทุนต่ำสุด เนื่องจากข้อจำกัดที่เกิดจากวิธีการส่งคำสั่ง โดยผู้ลงทุนสถาบันส่งคำสั่งซื้อขายโดยใช้ราคาตลาด (market order) ขณะที่ผู้ลงทุนรายย่อยส่งคำสั่งซื้อขายโดยวิธีระบุราคา(limit order) จึงได้รับผลกระทบจากความผันผวนของราคาหลักทรัพย์มากกว่า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ