โครงการนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยใช้ทุนจากกองทุนพหุภาคีสำหรับการดำเนินการของพิธีสารมอนทรีออลที่คณะกรรมการกองทุนพหุภาคีได้อนุมัติสนับสนุนโครงการนี้เมื่อเดือนธันวาคม 2555
นอกจากการปกป้องชั้นโอโซนตามข้อตกลงในพิธีสารมอนทรีออล ประเทศกำลังพัฒนาต่างๆ ได้เร่งเปลี่ยนผ่านสู่การใช้สารทำความเย็นที่ผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนน้อย ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศเหล่านั้นและได้รับการวางนโยบายให้ดำเนินการเปลี่ยนผ่านจากสารทำความเย็นอาร์ 22 สู่ อาร์ 32 ให้แล้วเสร็จภายในปี 2560
กระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ประเทศญี่ปุ่นได้เปิดตัวโครงการสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสารทำความเย็นในประเทศไทยจากมุมมองของมาตรการป้องกันการทำลายชั้นโอโซนและสภาวะโลกร้อนตลอดจนให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา ตามนโยบายที่ไม่เพียงสนับสนุนด้านเงินทุนเพียงอย่างเดียวแต่ยังเป็นการสนับสนุนทางเทคนิคอีกด้วย โครงการนี้จะช่วยให้ผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยทั้ง 12 รายดังกล่าวสามารถพัฒนา ผลิต และจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นอาร์ 32 บริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศต่างๆ รวมถึงไดกิ้นที่ได้เข้าร่วมในโครงการดังกล่าว และเนื่องจากไดกิ้นเป็นบริษัทแรกของโลกที่นำสารทำความเย็นอาร์32มาใช้กับเครื่องปรับอากาศ ไดกิ้นจึงได้รับบทบาทในการเป็นตัวกลางในการสนับสนุนโครงการฯ
ไดกิ้น จะสนับสนุนความรู้พื้นฐาน ได้แก่ คุณสมบัติและองค์ประกอบของสารทำความเย็น ความรู้ด้านความปลอดภัยในเครื่องมือต่างๆ ที่ต้องใช้ในการผลิต และยังให้คำแนะนำในด้านการติดตั้งและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ และภายหลังจากที่ผู้ผลิตแต่ละรายเสร็จสิ้นขั้นตอนการเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับการผลิตเครื่องปรับอากาศ ไดกิ้นจะเข้าเยี่ยมโรงงานแต่ละแห่งเพื่อช่วยเหลือให้เกิดความคืบหน้าต่อไปของแต่ละโรงงาน บริษัท ไดกิ้น อินดัสทรีส์ (ประเทศไทย) จำกัด*1 จะรับผิดชอบในการดูแลตารางการทำงานและสนับสนุนด้านการวางแผน ในขณะเดียวกัน บริษัท สยามไดกิ้นเซลส์ จำกัด*2 จะรับผิดชอบในการให้คำแนะนำในการติดตั้งและบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศ
ไดกิ้น ได้ทำการตรวจสอบคุณสมบัติต่างๆ อย่างพิถีพิถันเกี่ยวกับสารทำความเย็นอาร์ 32 ได้แก่ ผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน และความปลอดภัย จึงเชื่อมั่นว่าสารทำความเย็นใหม่นี้มีความเหมาะสมมากที่สุดสำหรับเครื่องปรับอากาศเพื่อที่อยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์ ไดกิ้นยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูลกับองค์กรของสหประชาชาติและแต่ละประเทศทั่วโลกและให้ข้อมูลด้านเทคนิคในงานสัมมนาและประชุมต่างๆ เพื่อเป็นการส่งเสริมการใช้สารทำความเย็นอาร์ 32 ในวงกว้าง ไดกิ้นได้รับอนุญาตในเดือนกันยายน 2554 ในการเข้าไปยังประเทศกำลังพัฒนาเพื่อผลิตและจำหน่ายเครื่องปรับอากาศที่ใช้สารทำความเย็นอาร์ 32 ตาม "สิทธิบัตรพื้นฐานสำคัญในการผลิตและการจำหน่ายเครื่องปรับอากาศโดยการใช้สารทำความเย็นอาร์ 32” ของไดกิ้น
ความพยายามดังกล่าวนับเป็นบทบาทใหม่ในการช่วยเหลือของญี่ปุ่นที่มีต่อชุมชนนานาชาติตามมาตรการรับมือกับภาวะโลกร้อนและการมีบทบาทสำคัญในความพยายามดังกล่าวนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด
ในฐานะที่ไดกิ้นเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่มีการพัฒนาทั้งสารทำความเย็นและเครื่องปรับอากาศ ไดกิ้นจะยังคงแบ่งปันข้อมูลที่จำเป็นและให้การสนับสนุนด้านเทคนิคต่อไปทั้งในขั้นตอนการผลิต ติดตั้ง และสนับสนุนด้านสารทำความเย็นและอะไหล่เพื่อเป็นการรับมือกับภาวะโลกร้อนด้วยการใช้สารทำความเย็นทางเลือกที่มีผลกระทบต่อสภาวะโลกร้อนต่ำ