นายกฤษน์ ศรีชวาลาประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด พร้อมคณะผู้บริหารบริษัทในเครือ ซึ่งประกอบด้วย มร.ซานเจย์ซิงห์กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด,มร.ซุนดาราม เวนคาเทซันกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟิโก้ เมทเทิลส์แอนด์ ไมเนอร์รอลส์ จำกัด, นายวรพจน์ นิ่มวิจิตรกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิวส์ เอนเตอร์เทนเมนท์ กรุ๊ป จำกัด, นายจริญ ศรีทิพย์ผู้อำนวยการโครงการ(อสังหาฯในไทย) บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัด,มร.ราจีฟมาธูร์กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนาเท็กซ์ จำกัด และนายทวีป สิงห์ประสงค์ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและโครงการบัตรเครดิต บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเผยในงานแถลงข่าวFICO CORPORATION PRESS CONFERENCE 2015 “ONE WORLD ONE VISION” เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ว่าฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น เป็นกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภทอาทิ อุตสาหกรรมสิ่งทอ โรงแรม อสังหาริมทรัพย์ อาหารและเครื่องดื่ม แฟชั่น และบันเทิง โดยเป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากกว่า 40 แบรนด์ในกลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร รวมถึง สินค้าแฟชั่นจากต่างประเทศในปี 2558 นี้ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น และบริษัทในเครือฯยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนทั้งในธุรกิจเดิมของบริษัท ตลอดจนเปิดไลน์ธุรกิจใหม่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ในงบประมาณกว่า 4.1 พันล้านบาทโดยแบ่งเป็นการลงทุนในประเทศภายในปี 2560 ทั้งสิ้น มูลค่า 3.58 พันล้านบาท และในต่างประเทศอีกกว่า 15 ล้านยูโร (525 ล้านบาท) จากการควบ 2 โรงแรมในสหราชอาณาจักรในปีนี้ โดยคาดว่าจะเพิ่มพอร์ทยุโรปอีก 50 ล้านยูโร (1.75 พันล้านบาท ) ภายในปีนี้ และตั้งเป้าขยายการลงทุนเพิ่มพอร์ทในยุโรปอีก 150 ล้านยูโร (5.25 พันล้านบาท) ภายใน 3 ปี
แผนการลงทุนของ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น ในปี 2558 ประกอบด้วย
1) การเปิดบริษัท ฟิโก้ เมทเทิลส์แอนด์ ไมเนอร์รอลส์ จำกัด (FICO Metals & Minerals Co.,Ltd.)หรือ ฟิม่าในเดือนพฤษภาคม 2557 เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงาน โลหะและแร่ธาตุ ด้วยเม็ดเงินลงทุนเริ่มแรก 300 ล้านบาท และคาดว่ารายได้รวมของปีนี้อยู่ที่ 1,600 ล้านบาท ธุรกิจของฟิม่าในเบื้องต้นมุ่งเน้นไปที่การผลิตและจำหน่ายส่วนผสมเหล็กโลหะ ถ่านหินแอนทราไซต์ ถ่านหินพลังงานความร้อนเพื่อโรงไฟฟ้าและโรงปูน (bituminous coal) ถ่านโค้ก แร่ทองแดง แร่แมงกานีส เป็นต้น โดยได้จัดสร้างโรงงานถ่านหินแอนทราไซต์ที่มีกำลังการผลิต 72,000 MT ต่อปี ณ อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยเริ่มการผลิตและจัดส่งถ่านหินแอนทราไซต์ไปยังบริษัทต่างๆ ในประเทศตั้งแต่เดือนมกราคมที่ผ่านมา เป้าหมายระยะกลางของฟิม่าคือการเพิ่มกำลังการผลิตและส่งออกถ่านหินแอนทราไซต์ไปยังต่างประเทศ เช่น อินเดียและมาเลเซียส่วนเป้าหมายระยะยาวคือการขยายไปสู่ธุรกิจโภคภัณฑ์และวัตถุดิบทางอุตสาหกรรมอื่นๆเป็นลำดับต่อไป
2) โครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศประกอบด้วย
2.1 โครงการที่จะแล้วเสร็จภายในปี 2558
Metropolis อาคารสำนักงาน 21 ชั้น สไตล์ยุโรปคลาสสิคที่เน้นความหรูหราสง่างาม ตกแต่งภายในด้วยผนังหินอ่อน เพดานล็อบบี้สูง 10 เมตร เพดานชั้นอื่นสูง 3.3 เมตร ซึ่งจัดว่าสูงที่สุดในบรรดาอาคารสำนักงานในกรุงเทพฯที่มีอยู่ในปัจจุบัน ตัวอาคารมีพื้นที่รวม 26,000 ตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับร้านค้ารายย่อย 2 ชั้น ตั้งอยู่ในบริเวณ ดิเอ็มดิสทริค(The EM District) บนถนนสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯติดสถานีรถไฟฟ้าBTS พร้อมพงษ์ใช้งบประมาณก่อสร้างประมาณ 1.3 พันล้านบาท
Residence Metropole บูติคเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์สำหรับลูกค้าระดับสูง ซึ่งโครงการนี้ถือว่าเป็นการลงทุนสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์แห่งแรกของฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น ในงบประมาณก่อสร้าง 400 ล้านบาทตัวอาคารทั้งภายนอกและภายในเป็นแบบนีโอคลาสสิคสมัยศตวรรษที่ 19 สไตล์ปารีสร่วมสมัย จำนวน117 ห้อง พร้อมฟิตเนส เซ็นเตอร์และสระว่ายน้ำออนเซ็นโครงการตั้งอยู่บนทำเลทองย่านทองหล่อ เดินทางสะดวกด้วยทางด่วนและรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ
2.2 โครงการที่เริ่มดำเนินการในปี 2558 และจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2559 และภายในปี 2560
การปรับเปลี่ยนโรงแรม Le Fenix Sukhumvit (สุขุมวิท ซ.11)ให้เป็นโรงแรมบูติค งบประมาณ 70-80 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างโรงแรมบัดเจท (Budget Hotel) ในย่านสีลม (บริเวณข้างโรงแรมโนโวเทล สีลม)ในงบประมาณก่อสร้าง 500 ล้านบาท
โครงการก่อสร้างเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ย่านเอกมัยงบประมาณก่อสร้างประมาณ 1พันล้านบาท
3) การลงทุนในต่างประเทศ ในเดือน มิถุนายน ปี 2557 ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่นทุ่มเงินลงทุน 75 ล้านยูโร หรือประมาณ 3.32 พันล้านบาท (ตามอัตราค่าเงินแลกซื้อ ณ วันทำการซื้อ 44.3 บาท ต่อ 1 ยูโร) เพื่อซื้อโรงแรม 8 แห่งในเยอรมนีได้แก่ Days Inn Berlin West, Days Inn Dresden, TRYP by Wyndham Leipzig North, TRYP by Wyndham Bad Oldesloe, TRYP by Wyndham Berlin City East, Wyndham Garden Bad Malente Dieksee, Ibis Erfurt Ost และ Ibis Gelsenkirchen ซึ่งปัจจุบัน มูลค่าของ 8 โรงแรมดังกล่าว ได้ขึ้นไปถึง 100 ล้านยูโรแล้ว อีกทั้งในปีนี้ ฟิโก้ได้ทุ่มเงินลงทุนอีก 15 ล้านยูโร หรือประมาณ 525 ล้านบาท เพื่อซื้อกิจการโรงแรม 2 แห่งในสหราชอาณาจักร ได้แก่ The Lion Hotel, Shrewsbury และ The White Swan Hotel, Halifax พร้อมตั้งเป้าขยายสินทรัพย์ของบริษัทฯ ในยุโรปอีก 50 ล้านยูโร (1.75 พันล้านบาท ) ภายในปี 2558 และขยายเพิ่มอีก 150 ล้านยูโร (5.25 พันล้านบาท) ภายใน 3 ปี
4) การเปิดบริษัทค้าปลีกและแบรนด์ใหม่ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น เปิดบริษัทใหม่ในชื่อ บริษัท ช็อคโกฮอลิคจำกัด(Chocoholic Co., Ltd.)เพื่อดูแลและจัดจำหน่ายช็อกโกแลตแบรนด์โกไดวา(Godiva) แบรนด์ช็อคโกแลตพรีเมี่ยมจากประเทศเบลเยี่ยม รวมถึงยังเดินหน้าเปิดร้านบูติคโกไดวาแห่งแรกในกรุงเทพฯ ในช่วงปลายปีนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ในการลิ้มรสช็อกโกแลตชั้นเลิศที่คนทั่วโลกต่างหลงรักพร้อมกันนี้ บริษัท เอเวอร์เรส เวิลด์ จำกัด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบริษัทในเครือฟิโก้ ยังได้รับสิทธิ์ให้เป็นผู้ดูแลการจัดจำหน่ายและการตลาดของสินค้าแฟชั่นแบรนด์ “เอโตร” (ETRO) ซึ่งประกอบด้วยเสื้อผ้าบุรุษและสตรีที่โดดเด่นด้วยลวดลายเพสลีย์อันเป็นเอกลักษณ์ น้ำหอม เครื่องหนัง กระเป๋าถือและกระเป๋าเดินทาง รวมถึงเครื่องประดับตกแต่งบ้าน
5) การจัดตั้งกลุ่มฟิโก้ มีเดีย (FICO MEDIA)สำหรับธุรกิจด้านมีเดียและเอนเตอร์เทนเมนท์ก่อตั้งขึ้นเพื่อให้บริการที่หลากหลายและตอบโจทย์ความต้องการของคนเมือง โดยเน้นที่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่แตกต่างและแปลกใหม่มาให้บริการตั้งแต่การจัดงานอีเวนต์และประชาสัมพันธ์ การจัดคอนเสิร์ตรูปแบบใหม่ ไปจนถึงการนำเทคโนโลยีและสื่ออินเตอร์แอคทีฟมาให้บริการด้านการตลาด อาทิ
คิเน็กต์ (Kinect) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการควบคุมตัวละครและแอนิเมชันบนจอ
เฟรมทัชสกรีนแบบมัลติทัช (Multitouch) ขนาดตั้งแต่ 32 นิ้ว จนถึง 100 นิ้วเพื่อใช้ในกิจกรรมด้านการตลาดและอีเวนต์ต่างๆ
คีออสถ่ายภาพแบบอินเตอร์แอคทีฟ (Interactive photo kiosks) เป็นคีออสที่เชื่อมโยงข้อมูลอินเตอร์แอคทีฟแห่งแรกของประเทศไทย ให้บริการถ่ายภาพผู้ใช้งานและแชร์รูปถ่ายผ่านอีเมล์และเฟสบุ๊ค โดยสามารถนำภาพสินค้าเนื้อหาหรือข้อความประชาสัมพันธ์ใส่เข้าไปในรูปภาพได้
การจำลองภาพเสมือนจริง (Augmented Reality)เป็นระบบจำลองภาพเสมือนจริง (virtual-reality 3D based system) ภาพที่ได้จะเป็นภาพ3 มิติที่สามารถนำมาแสดงผ่านบาร์โค้ด 2 มิติ (QR Code)
6.) การลงทุนด้านนวัตกรรมและการเพิ่มขีดความสามารถด้านการผลิตของกลุ่มธุรกิจสิ่งทอ มร.ราจีฟมาธูร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟีนาเท็กซ์ จำกัด หนึ่งในเครือ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น เผยแผนธุรกิจและการลงทุนของกลุ่มธุรกิจสิ่งทอในเครือฟิโก้ว่า ปัจจุบัน ตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศมีความต้องการนวัตกรรมและความแปลกใหม่ ฟีนาเท็กซ์จึงมุ่งเป้าไปที่การคิดค้นเส้นด้ายพิเศษชนิดใหม่ รวมถึงการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าอื่นๆ โดยเป็นการร่วมมือและแลกเปลี่ยนด้านเทคโนโลยีกับผู้ผลิตรายใหญ่ในทวีปเอเชียนอกจากนี้ยังเดินหน้าเพิ่มขีดความสามารถด้านการทอด้วยการเพิ่มจำนวนเครื่องจักรทอผ้าให้เพียงพอต่อความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นทั้งนี้บริษัทฯมีรายได้เติบโตขึ้นถึง 48% นับจากปี 2553 (1.64 พันล้านบาท) จนถึงรายได้ ณ ปัจจุบันปี 2557 (2.43 พันล้านบาท) ถึงแม้จะประสบความท้าทายทางเศรษฐกิจทั้งในระดับจุลภาคและมหภาคบริษัทฯก็ยังคงรักษาระดับการเติบโตและเชื่อว่าในปี 2558 ฟีนาเท็กซ์จะมียอดขายเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ15 จากยอดขายในปี 2557 ที่ทำไว้ที่ 2.43 พันล้านบาท
7.) การออกบัตรเครดิตเคทีซี-ฟิโก้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น ได้จับมือกับ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน)ออกบัตรเครดิตเคทีซี-ฟิโก้ “Discover Your World” ซึ่งนายทวีป สิงห์ประสงค์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและโครงการบัตรเครดิต บริษัท ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเผยว่าเป็นโครงการคืนกำไรให้แก่ลูกค้าคนสำคัญผู้มีอุปการคุณด้วยดีตลอดมา รวมถึงเป็นการสร้างความสัมพันธ์และความผูกผันระหว่างสมาชิกและองค์กรในระยะยาวโดยจัดทำเป็นบัตร 2 ประเภท ได้แก่ “เคทีซี-ฟิโก้ วีซ่า อินฟินิท” สำหรับสมาชิกเอ็กซ์คลูซีฟที่ได้รับเชิญเท่านั้นและ “เคทีซี-ฟิโก้ วีซ่า แพลทินัม” สำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ชื่นชอบความสนุกสนาน เน้นการใช้ชีวิตอย่างมีสีสัน ซึ่งจะมอบส่วนลดและสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟจากร้านค้าในเครือฟิโก้มากกว่า27 แบรนด์ชั้นนำ รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆ จากเคทีซีให้แก่ผู้ถือบัตร ซึ่งความร่วมมือกับเคทีซีในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสอันดีที่ฟิโก้จะได้ประชาสัมพันธ์ธุรกิจในเครือให้แก่สมาชิกบัตรเครดิตเคทีซีกว่า1.7 ล้านใบได้รับทราบและสนใจใช้บริการมากขึ้นในอนาคตคาดว่าจะมีสมาชิกให้ความสนใจสมัครบัตรเครดิตเคทีซี-ฟิโก้ มากถึง 20,000 ราย
นายกฤษน์ ศรีชวาลา กล่าวสรุปว่า “ภาพรวมการขยายธุรกิจและการลงทุนของ ฟิโก้ คอร์ปอเรชั่น ในปีนี้ เป็นไปตามวิสัยทัศน์ขององค์กรที่ว่า“One World One Vision นำพาทุกบริษัทในโลกของฟิโก้เติบโตไปด้วยกัน” ทั้งนี้ชาวฟิโก้ทุกคนตั้งใจมอบความสุขและความสะดวกสบายให้ลูกค้าคู่ค้า และพนักงาน แบบครอบคลุมและครบวงจรตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งเรามั่นใจอย่างยิ่งว่าการลงทุนครั้งนี้จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้แก่ไลฟ์สไตล์คนเมือง ทั้งยังช่วยเสริมสร้างธุรกิจของฟิโก้ คอร์ปอเรชั่นให้ก้าวหน้าอย่างแข็งแกร่งและโดดเด่นยิ่งขึ้น”