เตรียมเผยโฉมคันแรกปี 59 รองรับโครงการ Green Logistics ของ 7-11
บมจ. ช. ทวี ดอลลาเซียน (CHO) จับมือ บมจ.ซีพี ออลล์ (CP ALL) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3ฝ่าย "พัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์" เพื่อลดการพึ่งพาน้ำมัน – ลดต้นทุนผู้ประกอบการ - เป็นมิตรสิ่งแวดล้อม คาดได้ยลโฉม "รถขนส่งเชิงพาณิชย์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า" คันแรกของประเทศ ที่ผลิตด้วยฝีมือคนไทย ภายในต้นปี"59 "สุรเดช ทวีแสงสกุลไทย" ชี้เป็นอีกก้าวของการปฏิวัติวงการโลจิสติกส์ไทย
นายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (มหาชน)(CHO) เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3 ฝ่าย กับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) เพื่อร่วมดำเนินโครงการการพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์ ซึ่งเป็นการพัฒนา รถขนส่งเชิงพาณิชย์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าคันแรกของประเทศไทย เนื่องจาก ซีพี ออลล์ เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาประสิทธิภาพของยานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์ เพราะปัจจุบัน ซีพี ออลล์ มีการใช้ยานยนต์สำหรับขนส่งสินค้าจากคลังสินค้าสู่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นสาขาต่างๆ ซึ่งมีมากกว่า 8,300 สาขาทั่วประเทศ ดังนั้นการพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์จะส่งผลให้ประสิทธิภาพด้านการจัดการต้นทุนดีขึ้น อาทิ ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ ค่าเชื้อเพลิง ต่างๆ แล้วยังเป็นการลดมลภาวะบนท้องถนนอีกด้วย โดยคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ในการออกแบบและพัฒนา และคาดว่าจะสามารถผลิตรถขนส่งไฟฟ้าเชิงพาณิชย์คันแรกของประเทศไทยในปี 2559
นายชูศิลป์ จิรวงศ์ศรี รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CP ALL) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า การร่วมลงนาม MOU 3 ฝ่ายในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์ ซึ่งถือเป็นอีกมิติใหม่ของการขนส่งเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยที่ใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมตามแนวคิด Green Logistics ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ 7 Go Green ของบริษัท และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จจะถือได้ว่าเป็นรถขนส่งเชิงพาณิชย์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย และเป็นคันแรกของประเทศไทย ที่จะมาช่วยลดภาระต้นทุนด้านโลจิสติกส์แก่ผู้ประกอบการได้ในระยะยาว แม้การลงทุนในขั้นแรกจะสูงกว่ารถทั่วไป แต่สิ่งที่สังคมจะได้ทันที คือ การอนุรักษ์พลังงาน รักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน
ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.พิสิษฐ์ ชาญเกียรติก้อง คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) กล่าวว่า การร่วมลงนามในครั้งนี้เพื่อสร้างองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์และเพื่อศึกษาวิจัยและพัฒนาความรู้ด้านยานยนต์ให้สามารถนำมาต่อยอดและใช้ประโยชน์ต่อธุรกิจได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยพัฒนาหลักสูตรการศึกษา ด้านการพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพบุคลากร และก่อเกิดวิศวกรน้ำดีรุ่นใหม่อีกด้วย ดังนั้นทาง PIM จึงตัดสินใจร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) 3 ฝ่าย กับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และบริษัท ช. ทวี ดอลลาเซียน จำกัด (CHO) ในครั้งนี้
ทั้งนี้ CHO ได้มีการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าเพื่อการพาณิชย์สำเร็จแล้ว คือ รถลำเลียงอาหารสำหรับสายการบิน (Catering) ซึ่งใช้แบตเตอรี่ไฟฟ้า และควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองใช้งานจริงตามสนามบินต่างๆ ทั่วโลก จึงทำให้มั่นใจได้ว่า การร่วมพัฒนายานยนต์และพลังงานทางเลือกในระบบโลจิสติกส์นำร่องต้นแบบคันแรกแบบ 6 ล้อ และพัฒนาศักยภาพการชาร์ตแบตเตอรรี่ได้เต็มเร็วและใช้งานได้นานมากขึ้น พร้อมปรับลดต้นทุนการผลิตรถดังกล่าวเพื่อเหมาะสมแก่ผู้ประกอบการทั่วไป จะสามารถเห็นผลสำเร็จได้ภายในปี 2559