นายวัชรพงศ์ รามสูต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอริช ทริลเลี่ยน จำกัด เปิดเผยว่า “สำหรับการจัดมหกรรมความงามด้านสุขภาพและความงามระดับสากล ภายใต้ชื่องาน Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015 ภายใต้แนวคิด Beauty of Asian Culture knowledge นับเป็นงานที่ครอบคลุมด้านสุขภาพและความงามโดยเน้นตั้งแต่สุขอนามัยพื้นฐานไปจนถึงการป้องกันรักษากับมืออาชีพจากสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศอันเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพการโภชนาการออกกำลังกายและดูแลผิวพรรณควบคู่ไปกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่จะเปลี่ยนผู้เข้าชมงานให้เป็นคนใหม่โดยสามารถเลือกสรรค์ความงามแบบครบวงจรทั่วเอเชีย
“ด้านกลยุทธ์ด้านการตลาดสำหรับงานมหกรรมนี้คือ “สร้าง-เพิ่ม-ยกระดับ” หมายถึง สร้างความแตกต่างของงานแสดงสินค้า และ สร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ รวมไปถึง การสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและบริการในงาน เพิ่มศักยภาพสินค้าของผู้ประกอบการให้มีมาตรฐานที่ดีขึ้นและเพิ่มการต่อรองทางการค้าให้ถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ยกระดับงานแสดงสินค้าความงามในประเทศไทย โดยได้จับมือกับพันธมิตรสร้างความน่าเชื่อถือ อาทิ ตัวแทนจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ TCEB / ตัวแทนจาก กรมสนับสนุนการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข / นายกสมาคมผู้ผลิตเครื่องสำอางไทย และ นายกสมาคมผู้ประกอบการ สปาไทย เป็นต้น เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจและประชาชนทั่วไป เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าและประชาชนที่ รักสุขภาพ ความงามทุกเพศทุกวัย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทางด้านสุขภาพ , บริษัทชั้นนำต่างๆ ที่เกี่ยวกับธุรกิจสุขภาพและความงาม , กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs และเจ้าของธุรกิจด้านสุขภาพและความงาม ในการจัดงานตั้งแต่ 30 เมษายนจนถึง 3 พฤษภาคม ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น. ณ บริเวณ ฮอลล์ 7-8 เมืองทองธานี ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากการจัดงานครั้งนี้คือ สินค้าดี ราคาถูก และสินค้าได้มาตรฐานสากล คาดยอดผู้เข้างานเฉลี่ยประมาณ 200,000 รายต่อวัน แบ่งเป็น โซน Cosmetic 20% โซน Health & Spa 14% โซน Lifestyle 25% โซน Healthy food 18% และอื่นๆ 18%
เนื่องจากหลังสงกรานต์คาดว่าเศรษฐกิจขยับตัวดีขึ้น สืบเนื่องมาจากกำลังมวลรวมของประเทศ บวกปัจจัยหลายๆ อย่าง โครงการในส่วนของภาครัฐก็มองเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น อาทิเช่น ข่าวของโครงการรถไฟไทยจีน ไทยญี่ปุ่น ที่น่าจะตามมาในไม่ช้านี้ ก็จะทำให้การออเดอร์ปูนซิเมนต์ที่ดีขึ้นสะท้อนภาคของการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะขยายตัวมากทั้งด้วยการลงทุนภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐบาล รวมถึงยอดการใช้จ่ายของภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยเป็นการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในประเทศที่เพิ่มขึ้นถึง 19.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มที่เก็บจากการนำเข้ายังลดลง 9.5% นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น และผมมันใจในกำลังซื้อในงานแสดงสินค้า Asia Beauty & Cosmetic Expo 2015 น่าจะมีการตอบรับที่เป็นบวกอย่างแน่นอน โดย ยอดการซื้อสินค้าจากงานประมาณ 30 ล้านบาท โดยคาดว่าเงินจะสะพัดจากการจัดงานครั้งนี้กว่า 50 ล้านบาท “ ประธานกรรมการบริหาร กล่าว
นายณฐกันต์ คงประดิษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอริช ทริลเลี่ยน จำกัด กล่าวเสริมว่า “จุดประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมธุรกิจต่อยอดทางด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม ซึ่งจะเพิ่มพูนยอดขายและสร้างการจดจำตราสินค้าและบริการของผู้เข้าร่วมงาน โดยเป็นตัวกลางในการสร้างโอกาสสำหรับสินค้าและบริการด้านสุขภาพและความงามได้มีโอกาสพบกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ทั้งนี้จะกระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางด้านสุขภาพและความงาม ให้ก้าวต่อไปอย่างเข้มแข็ง และเพื่อคืนกำไรให้กลับผู้เข้าชมงานในการเลือกซื้อสินค้าดี มีมาตรฐาน ในราคาพิเศษ
อีกทั้งผู้ประกอบการร่วมงานจะได้รับโดยแตกต่างจากการจัดมหกรรมอื่นๆ คือสามารถเพิ่มยอดขายให้กับตลาดของสินค้าสู่สายตาผู้บริโภคเป้าหมายโดยตรง สร้างโอกาสในการแข่งขันทางการตลาด ซึ่งสร้างทัศนะคติที่ดีระหว่างลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังสามารถเปิดตลาดใหม่ให้กับสินค้าและบริการ และได้สร้างโอกาสในการหาตัวแทนจำหน่ายสินค้าและบริการอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น สำหรับในปี 2016 งาน Asia Beauty & cosmetic Expo 2015 มุ่งเน้นการทำ Road show Asia Beauty & Cosmetic Expo Showcase ตามหัวเมืองใหญ่ในภูมิภาคต่างๆ อาทิ เชียงราย อุดร หาดใหญ่ เป็นต้น โดยธีมงานแต่ละงานก็น่าจะให้มันสอดคล้องกันกับการดำเนินชีวิตของในแต่ละภูมิภาค เหตุผลที่เลือกจังหวัดดังกล่าวเพราะเป็นจังหวัดที่มีรอยต่อระหว่างชายแดน ซึ่งในอนาคตน่าจะมีการเติบโตอย่างแน่นอนหลังเป็น AEC เป็นต้น
อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2558 สำหรับธุรกิจความงามไทยมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางเครื่องสำอางในภูมิภาคอาเซียนได้ด้วยตัวเลขการส่งออกเครื่องสำอางไทยสูงที่สุดในอาเซียน คิดเป็นมูลค่า 2 แสนล้านบาทต่อปี เติบโตกว่า 10% โดยธุรกิจความงามระดับโลกเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 4.7% มูลค่าการค้าปลีกขยับเพิ่มขึ้นมากถึง 2.1 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐ คาดปี 2017 มูลค่าเติบโตกว่า 2.65 แสนล้านดอลล่าร์สหรัฐ
“ สำหรับตลาดความงามไทยโต 3%ต่อปี คาดในปี 2017จะมีมูลค่าสูงกว่า 20,000 ล้านบาท ฉะนั้นประเทศไทยจัดอยู่ในอันดับที่ 17 ในการผลิตเครื่องสำอางค์ของโลก อุตสาหกรรมเครื่องสำอางค์ไทยยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในช่วง 10ปีที่ผ่านมา เฉลี่ย 10-20 % ต่อปี มูลค่าการส่งออกเครื่องสำอางค์เพื่อการแต่งหน้า คิดเป็น 1.28%ของมูลค่าการส่งออกโลก อีกทั้งมีการพัฒนาเทคโนโลยีและส่วนผสมเครื่องสำอางค์อย่างมากในเอเชียต่อจากประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ไทยจึงเป็นตลาดสำคัญของการขยายธุรกิจและต่อยอดธุรกิจและเป็นตลาดเป้าหมายสำคัญของสินค้าความงามและสุขภาพแนวโน้มของธุรกิจความงามในปี 2558 ในไตรมาสแรกคิดว่าน่าจะมีอัตราเฉลี่ยของตลาดโตขึ้น 10 % “กรรมการผู้จัดการ กล่าวสรุป