นายเศวต นราธิปกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) เปิดเผยถึงหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 420 ล้านหุ้น ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรกในวันที่ 7 พฤษภาคม 2558 นี้ เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง จากการเป็นผู้ผลิตฉลากสินค้าและงานพิมพ์คุณภาพสูง คือ ฉลากสินค้าที่มีกาวในตัว (Self Adhesive Label) ,ฉลากสินค้าแบบผนึกในแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ (In-mould Label) และงานพิมพ์ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่มีกาว (Offset Printing)
นอกจากนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทยังขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยปี2555- 2557 มีอัตราการขยายตัวที่ดีต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวมเท่ากับ 552.64 ล้านบาท, 717.27 ล้านบาท และ 644.91 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนกำไรสุทธิเท่ากับ 130.55 ล้านบาท, 163.80 ล้านบาท และ 92.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิเท่ากับร้อยละ 23.62, ร้อยละ 22.84 และร้อยละ 14.39 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10-15% ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) จะรักษาให้ไม่ต่ำกว่า 30% เนื่องจากบริษัทมีออเดอร์เข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในกลุ่มฉลากสินค้าที่มีกาวในตัวฉลากสินค้าแบบผนึกในแม่พิมพ์บรรจุภัณฑ์ และงานพิมพ์ผลิตภัณฑ์กระดาษที่ไม่มีกาว ประกอบกับในอนาคตบริษัทมีโครงการที่จะนำเงินจากการระดมทุนในครั้งนี้ไปซื้อเครื่องจักรเพื่อขยายกำลังการผลิต และส่วนที่เหลือจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบเพื่อรองรับคำสั่งซื้อในอนาคต เพื่อเพิ่มศักยภาพของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
“ผมมั่นใจว่าเมื่อหุ้น SLP เข้าซื้อขายในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากนักลงทุนมองเห็นปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง และแนวโน้มธุรกิจมีทิศทางเติบโตอย่างต่อเนื่องตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค รวมถึงอุตสาหกรรมเครื่องใช้ในครัวเรือน”นายเศวตกล่าว
นายชูพงศ์ ธนเศรษฐกร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน SLP กล่าวว่า มีความมั่นใจเมื่อหุ้น SLP เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ราคาหุ้นจะไม่ทำให้ผิดหวัง เนื่องจากภาวะตลาดหุ้นช่วงนี้ค่อนข้างสดใส ขณะที่ผลการการจองซื้อหุ้นไอพีโอในช่วงที่ผ่านมามีกระแสความต้องการสูงมาก และการที่ SLP มีจุดแข็งตรงที่ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย ส่งผลให้ฉลากที่ผลิตออกมามีคุณภาพสูง มีความละเอียดและสวยงาม ประกอบกับมีระบบการตรวจสอบคุณภาพและจำนวนของชิ้นงานหลังการผลิต ทำให้สามารถจัดส่งสินค้าได้ครบถ้วนตามจำนวนและตรงกับคุณภาพที่ลูกค้ากำหนด อีกทั้งยังเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างสูง ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้มั่นใจว่าเมื่อ SLP เข้าทำการซื้อขายจะสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้กับนักลงทุน