นายวิลเลียม ฟาง กรรมการอำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึง ผลประกอบการของบริษัทฯงวดไตรมาส 1/2558 ว่า มีรายได้รวมอยู่ที่ 701.12 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มี 587.31 ร้อยละ 19.38 ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ ที่ 188.30 ล้านบาท หรือ 0.09 บาท/หุ้น เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี2557 ที่มีกำไร 169.80 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ทั้งนี้รายได้ที่เพิ่มขึ้นสัดส่วนหลักมาจากรายได้ค่านายหน้าที่ เพิ่มขึ้นเป็น 302.50 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อนรายได้อยู่ที่ 195.21 ล้านบาท รวมทั้งรายได้จากค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มสูงขึ้นเป็น 125.31 ล้านบาท จาก 81.75 ล้านบาท ขณะเดียวกันมีการบันทึกรายได้ในส่วนของกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 58.96 ล้านบาท กำไรจากตราสารอนุพันธ์ จำนวน 82.25 ล้านบาท ดอกเบี้ยและเงินปันผล จำนวน102.94 ล้านบาท และ ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์จำนวน 24.36 ล้านบาท นอกจากนี้ได้แต่งตั้ง นายจื้อ หง-หลิง เป็นกรรมการทดแทนกรรมการที่ลาออก
ทั้ง นี้ บริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์งวดไตร มาส 1/2558 เฉลี่ยที่ 4.27%ประกอบกับ ธุรกิจตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า และธุรกิจตราสารหนี้มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นด้วย ขณะเดียวกันได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง สำหรับธุรกิจตราสารอนุพันธ์บริษัทเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีบทบาทใน การออกและซื้อขายใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจจัดการกองทุนรวม ได้ออกกองทุนใหม่จำนวน 8 กอง และมีทรัพย์สินภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้น โดยในภาพรวมบริษัทมีผลกำไรจากการดำเนินงานที่ดี โดยให้ความสำคัญต่อการให้บริการที่มีคุณภาพ และคงไว้ซึ่งการควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ
“ปี 2558 ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาผลประกอบการของบริษัทฯออกมาเป็นที่น่าพอใจ กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ11 แม้ว่าจะมีความผันผวนสูง จากปัจจัยเรื่องเศรษฐกิจโลก และภาวะเศรษฐกิจในประเทศ แต่ธุรกิจหลัก คือ การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ยังเติบโต และมีมาร์เก็ตแชร์ 4.27 เปอร์เซ็นต์ ส่วนธุรกิจตราสารอนุพันธ์และตราสารหนี้จากภาวะตลาดหุ้นที่ ผันผวนส่งผลให้มีการลงทุนในตราสารอนุพันธ์มากขึ้น ” นายวิลเลียม กล่าว