ส.อ.ท.แถลงข่าวหลังการประชุม กกร. เดือนพฤษภาคม 2558_ 6 พ.ค.58

จันทร์ ๑๑ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๓:๒๘
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)ซึ่งประกอบด้วยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย

วันนี้ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ศาสตราจารย์ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ได้ให้เกียรติ ร่วมแลกเปลี่ยนและรับฟังความเห็นกับ กกร. โดยได้ให้ความเห็นว่าหลักการร่างรัฐธรรมนูญ สมควรจะวางกรอบในลักษณะกว้างๆ ไม่ควรกำหนดหลักเกณฑ์ที่เป็นรายละเอียด เพื่อให้กฎหมายแม่บทฉบับดังกล่าวเป็นกฎหมายที่ใช้ครอบคลุมและรับรองกฎหมายลูกอื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคต โดยได้มีการนำเสนอสาระสำคัญของร่างรัฐธรรมนูญใน 4 กรอบคือ 1)สร้างพลเมืองให้เป็นใหญ่ เพื่อขยายและยกระดับสิทธิและเสรีภาพของประชาชน 2) การเมืองใสสะอาดและสมดุล เพื่อปรับสมดุลอำนาจ,ตรวจสอบและถ่วงดุล 3) หนุนสังคมที่เป็นธรรม และ4) นำชาติสู่สันติสุข

โดย กกร. จะมีการจัดสัมมนาและหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญอีกครั้งหนึ่งภายในเดือน พฤษภาคม 2558 เพื่อสะท้อนมุมมองของภาคธุรกิจ ให้กับคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นธรรม และส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยรวม

นอกจากนี้ กกร. ได้มีการประชุมสรุปภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนมีนาคม พบว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอยู่ในภาวะเปราะบาง โดยการใช้จ่ายภาคเอกชนทั้งการบริโภคและการลงทุนแผ่วลง แม้มีปัจจัยบวกจากการเบิกจ่ายภาครัฐคืบหน้ามากขึ้น โดยเฉพาะการเบิกจ่ายงบลงทุน และภาคการท่องเที่ยวยังคงรักษาโมเมนตัมเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แต่ภาคส่งออกยังคงหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่สาม

ทั้งนี้ กกร.ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ส่งออกอย่างใกล้ชิด จากความเสี่ยงภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าเป็นไปในเชิงลบมากขึ้น โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมทั้ง นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มเติม ทั้งการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงติดต่อกันสองครั้ง และล่าสุด มาตรการผ่อนคลายเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศ จะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดแรงกดดันต่อทิศทางค่าของเงินบาทได้มากน้อยเพียงใด

ในประเด็นการเพิ่มความช่วยเหลือให้กับธุรกิจ SME ในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวเช่นนี้ ทาง กกร. ได้มีการหารือร่วมกันถึงมาตรการระยะสั้น (1-2 ปี) ด้วยการขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อของ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) มาอยู่ที่ร้อยละ 30 จากประมาณร้อยละ 18 เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

โดยเรื่องดังกล่าวได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของ คสช. ซึ่งทาง กกร. จะติดตามการดำเนินงานในเรื่องนี้ต่อไป

กกร. ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อดูแลเรื่อง Ease of doing business ที่อยู่ภายใต้คณะกรรมการ Competitiveness ของ กกร. เพื่อส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของภาคเอกชน โดย กกร. จะทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.) เพื่อสนับสนุนผลักดันโครงการต่างๆที่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อภาคเอกชนและประชาชน ในการขับเคลื่อนประเทศต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก