คำแถลงเนื่องในงานรำลึกวีรชนพฤษภาประชาธิปไตย

จันทร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๐๘:๔๙
มูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยซึ่งก่อตั้งโดยมีที่มาจากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 มีดำริจะจัดงานรำลึก 23 ปี พฤษภาประชาธิปไตยเพื่อแสดงกตัญญูกตเวทิตาต่อบรรดาวีรชนผู้สูญเสียในเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อ 23 ปีที่ผ่านมา และเพื่อให้สังคมได้ตระหนักถึงความเสียสละอันยิ่งใหญ่ และการรู้รักในคุณค่าประชาธิปไตยที่แลกมาด้วยชีวิต แม้กิจกรรมรำลึกนี้จะจัดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์บ้านเมืองในช่วงเปลี่ยนผ่านและมีรัฐบาลชั่วคราวที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งก็ตาม เพื่อระลึกถึงวีรภาพความอาจหาญของวีรชน และสืบทอดเจตนารมณ์ของผู้สละชีวิตเพื่อต่อสู้กับเผด็จการในครั้งนั้น และสะท้อนการยืนยันในหลักการประชาธิปไตยที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ ประธานกรรมการมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตย เปิดเผยว่า การจัดงานรำลึกเนื่องในโอกาสครบรอบ 23 ปีเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 โดยมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยในวันอาทิตย์ที่ 17พฤษภาคมนั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1. กระตุ้นให้สาธารณชนเห็นความสำคัญของเหตุการณ์พฤษภา 2535 และ ตอกย้ำบทเรียนเพื่อให้สังคมหลีกเลี่ยงความรุนแรงนองเลือดจากวิกฤตการณ์ทางการเมือง 2. ตอกย้ำและสืบทอดเจตนารมณ์ของวีรชนเดือนพฤษภาในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ หลักการประชาธิปไตยและผู้นำประเทศมาจากประชาชนและนายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง 3. ส่งเสริมกิจกรรมในเครือข่ายองค์กรประชาธิปไตยที่เข้าร่วม 4. เสนอบทบาทที่ชัดเจนของมูลนิธิฯตามเจตนารมณ์ของวีรชนพฤษภาให้เป็นที่ประจักษ์

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ในปีนี้ ทางมูลนิธิได้จัดงานในรูปแบบสหปาฐกถาโดยเชิญผู้มีบทบาทในเหตุการณ์รณรงค์ประชาธิปไตย ณ เวลานั้น เช่น เรืออากาศตรี ฉลาด วรฉัตร นายแพทย์สันต์ หัตถีรัตน์ นายแพทย์เหวง โตจิราการ และครูประทีป อึ้งทรงธรรม ฮาตะ อดีตกรรมการสมาพันธ์ประชาธิปไตยมาเป็นองค์ปาฐก และเสนองานวัฒนธรรม ศิลปดนตรี บทกวีเพื่อประธิปไตย ตลอดจนการวางหรีดรำลึกในวันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.00 น. ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (ตึกหลัง) และวางหรีดรำลึกวีรชนผู้สละ เวลา16.00 น. ณ. ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ประชาธิปไตย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ อย่างไรก็ตาม ทางมูลนิธิได้รับการติดต่อจากนายทหาร คสช. ให้งดจัดกิจกรรมโดยเฉพะปาฐกถา และ ได้มีนายทหารพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาเยี่ยมที่สำนักงานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิได้ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทางนายทหารจาก คสช. ต้องการให้งดจัดกิจกรรมโดยอ้างว่าเหตุการณ์บ้านเมืองยังไม่สงบจึงไม่อยากให้จัดกิจกรรมสัมมนาทางการเมือง ทางมูลนิธิได้ให้ร่วมมือโดยงดจัดกิจกรรมปาฐกถา แต่ขอจัดกิจกรรมวางหรีดเพื่อเป็นการรำลึกถึงผู้สละชีวิตให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของประเทศนี้

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมปาฐกถาในครั้งก่อนช่วงปลายเดือนเมษายน ทางมูลนิธิได้ให้ความร่วมมือกับ นายทหารจาก คสช. ในการงดจัดกิจกรรมเปิดห้องประชุมนวมทอง ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นกิจกรรมภายในของมูลนิธิเพื่อรำลึกถึงวีรชนที่สละชีวิตเพื่อหลักการประชาธิปไตยไปแล้วครั้งหนึ่ง การใช้ชื่อห้องประชุมเพื่อเป็นเกียรติแก่สามัญชนผู้เสียสละกล้าหาญในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย ทาง คสช.ไม่ให้จัด มูลนิธิก็ได้ให้ร่วมมืองดจัดทันที ประธานมูลนิธิวีรชนประชาธิปไตยจึงขอความร่วมมือมาทาง คสช.บ้าง โดยอยากให้ คสช.ช่วยกำกับให้การร่างรัฐธรรมนูญเป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ไม่สืบทอดอำนาจ และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยคืนสู่ประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตามกรอบเวลาที่ประกาศเอาไว้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทางคสช. จะให้ความร่วมมือกับมูลนิธิเช่นเดียวกับ ที่มูลนิธิให้ความร่วมมือกับ คสช. เพื่อความปรองดองสมานฉันท์ เพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอย่างสันติสุข

นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กล่าวย้อนไปในอดีตว่า เหตุการณ์พฤษภาคมมหาโหด 2535 เป็นเหตุการณ์ที่ประชาชนเคลื่อนไหวประท้วงรัฐบาลที่ พล.อ.สุจินดา คราประยูร เป็นนายกรัฐมนตรี และต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ระหว่างวันที่ 17- 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2535 ซึ่งเป็นการรัฐประหารรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 อันนำไปสู่เหตุการณ์ปราบปรามและการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารกับประชาชนผู้ชุมนุม มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คนและบาดเจ็บจำนวนกว่า 600 คน รวมทั้งมีผู้สูญหายจำนวนมาก เหตุการณ์ดังกล่าวนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง

นายอนุสรณ์กล่าวว่า สังคมไทยโดยเฉพาะผู้อำนาจรัฐควรเรียนรู้จากบทเรียนเพื่อหลีกเลี่ยงความรุนแรงนองเลือดจากการสลายการชุมนุมและการทำร้ายผู้ชุมนุม เพราะหลังเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 ก็ยังมีเหตุการณ์จากการสลายการชุมนุมเกิดขึ้นเป็นระยะๆ โดยครั้งรุนแรงที่สุด คือ เหตุการณ์เดือนพฤษภาคม 2553 มีผู้เสียชีวิตถึง 98 คน ส่วนเหตุการณ์เดือนพฤษภาในปี พ.ศ.2535นั้น มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 ราย ดังมีรายนามดังต่อไปนี้

กฤษฎา เนียมมีศรี:ถูกตีและถูกกระสุนปืน

กิตติกรณ์ เขียวบริบูรณ์:ถูกกระสุน

กิตติพงษ์ สุปิงคลัด:ถูกกระสุน

เกรียงไกร จารุสาร:ถูกกระสุน

กอบกุล สินธุสิงห์:ถูกกระสุน

จักรพันธ์ อัมราช:ถูกกระสุน

จักราวุธ นามตะ:ถูกกระสุน

เฉลิมพล สังข์เอม:สมองบอบช้ำ

ชัยรัตน์ ณ นคร:ถูกกระสุน

ซี้ฮง แซ่เตีย:ถูกกระสุน

ณรงค์ ธงทอง:ถูกกระสุน

ทวี มวยดี:ถูกตีศีรษะ

ทวีศักดิ์ ปานะถึก:ถูกกระสุน

นคร สอนปัญญา:ถูกกระสุน

บุญมี แสงสุ่ม

บุญมี วงษ์สิงโต:ถูกกระสุน

บุญคง ทันนา:ถูกกระสุน

ปรัชญา ศรีสะอาด:ถูกกระสุน

ประสงค์ ทิพย์พิมล:ถูกกระสุน

ปรีดา เอี่ยมสำอางค์:ถูกกระสุน

พิพัฒน์ สุริยากุล:ถูกกระสุน

ภูวนาท วิศาลธรกุล:ถูกกระสุน

ภิรมย์ รามขาว:ถูกกระสุน

มะยูนัน ยีดัม:ถูกกระสุน

มนัส นนทศิริ:ถูกกระสุน

วีระ จิตติชานนท์:ถูกกระสุน

วงเดือน บัวจันทร์:ถูกกระสุน

วีรชัย อัศวพิทยานนท์:ถูกกระสุน

ศรากร แย้มประนิตย์:ถูกกระสุน

สมชาย สุธีรัตน์:ถูกกระสุน

สำรวม ตรีเข้ม:ถูกกระสุน

สาโรจน์ ยามินทร์:ถูกกระสุน

สมเพชร เจริญเนตร:ถูกกระสุน

สุชาต พาป้อ:ถูกกระสุน

สุรพันธ์ ชูช่วย

สมาน กลิ่นภู่:ถูกกระสุน

สัญญา เพ็งสา:ถูกกระสุน

หนู แก้วภมร:ถูกกระสุน

อภิวัฒน์ มาสขาว:ถูกกระสุน

เอกพจน์ จารุกิจไพศาล:ถูกกระสุน

เอียน นิวมีเก้น

ไม่ทราบชื่ออีก 3 ราย รวม 44 ราย?

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ