โดยธุรกิจที่สร้างรายได้ให้แก่บริษัทฯ มากที่สุดในไตรมาสนี้ คือ “ธุรกิจสื่อ” โดยเฉพาะ “สื่อทีวี” เป็นผลมาจากผลการดำเน “สถานีโทรทัศน์ช่อง 8 ดิจิตอลทีวี” มีรายได้ขายโฆษณาเพิ่มขึ้นจากการเพิ่มรูปแบบรายการใหม่เพื่อให้เกิดความหลากหลายมากขึ้น เช่น รายการข่าว รายการกีฬา เป็นต้น อีกทั้งจากการพัฒนาคุณภาพรายการ, ปรับผังรายการ ตลอดจนจากการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การขายให้สอดคล้องกับผังรายการที่เปลี่ยนแปลงไป คือ เพิ่มเวลาออกอากาศละครใหม่จากเดิมสัปดาห์ละ 1 เรื่องเป็นสัปดาห์ละ 2 เรื่อง โดยคอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมมีเรตติ้งสูงในไตรมาสนี้ ได้แก่ ละครอย่างเมียเถื่อน, แหวนทองเหลือง, แม้เลือกเกิดได้, หลวงพี่ดิจิตอล และลุ้นรักข้ามรั้ว รวมถึงรายการเสียงสวรรค์พิชิตฝัน ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลัง 2558 เตรียมจะออกอากาศละครใหม่อีกหลายเรื่อง ได้แก่ คุณหญิงนอกทำเนียบ, สุดแต่ใจจะไขว้คว้า, เจ้าสาวเฉพาะกิจ เป็นต้น ขณะที่ “ช่อง 2” กำลังจะปรับผังรายการใหญ่ประจำปี จากปัจจุบันมีเรตติ้งดีอยู่แล้วจะทำให้เรตติ้งดียิ่งขึ้น
สำหรับรายได้จาก “ธุรกิจเพลง” ในไตรมาสนี้เป็นไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่ได้ฟังเพลงน้อยลง เพียงแต่เปลี่ยนช่องทางการรับฟัง ดังนั้น ในส่วนของบริษัทรับรู้ เข้าใจ และปรับตัวให้สอดรับกับแวดล้อมรอบข้าง ด้วยการซีเนอจี้ (Synergy) เข้ากับธุรกิจต่างๆ ภายในเครือ เพื่อให้เกิดโอกาสใหม่และเกิดประโยชน์หรือรายได้สูงสุด รวมทั้งเสริมทัพดึงจุดแข็งทางด้านการเป็นเจ้าของสื่อทั้งทีวีและวิทยุมาต่อยอดการทำงานให้เป็นแบบวันสต็อป เซอร์วิส (One Stop Service) ควบคู่กับการใช้กลยุทธ์คัสโตเมอร์ โอเรียนเต็ด (Customer Oriented) เพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ทำให้เกิดความพึงพอใจสูงสุดกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าในแง่คนฟังเพลงหรือลูกค้าในแง่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่มุ่งเน้นใช้กลยุทธ์มิวสิค มาร์เก็ตติ้ง (Music Marketing) เป็นหัวหอกทำตลาด ดังนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังจะได้เห็นซิงเกิ้ลใหม่ทั้งเพลงสตริงและเพลงลูกทุ่งไม่ต่ำกว่า 100 เพลง ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยศิลปินไฮไลต์ที่จะมีผลงานโดดเด่น ได้แก่ ใบเตย, ฟิล์ม รัฐภูมิ, จ๊ะ, กระแต, หวาย, ขนมจีน, ธามไท, เนโกะ จัมพ์, Thank You, Black jack, หลวงไก่, บ่าววี, จินตหรา พูนลาภ, กุ้ง สุธิราช ฯลฯ และเร็วๆ นี้เตรียมจัดงานแถลงข่าวจับมือกับยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง “ไลน์ (LINE)” ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นแชตจากประเทศญี่ปุ่นที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในประเทศไทย เพื่อเปิดตัวบริการใหม่ด้วยกัน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์สร้างปรากฎการณ์กระหึ่มวงการเพลงอย่างแน่นอน
ส่วนรายได้จาก “ธุรกิจอีเวนต์” ในไตรมาสนี้มีคอนเสิร์ตและกิจกรรมที่ประสบความสำเร็จได้กระแสผลตอบรับดี ได้แก่ คอนเสิร์ตสบายดีสัญจรปี 6 และกิจกรรม “ช่อง 8 พบเพื่อน” ที่จังหวัดเชียงใหม่ ขณะที่ในช่วงครึ่งปีหลังเตรียมจัดอีเวนต์ใหญ่หลายโปรเจค อาทิเช่น สบายดีสัญจร, ลูกทุ่งเฟลติวัลปี 5 ส่งท้ายปี เป็นต้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจสื่อ 82% ของรายได้ทั้งหมด, ธุรกิจเพลง คิดเป็นสัดส่วน 8% ของรายได้ทั้งหมด และธุรกิจอีเวนต์ คิดเป็นสัดส่วน 11%