สพฉ. จัด ทีม ประสานงานผนึกกำลังทีมแพทย์ฉุกเฉินไทย ช่วยแผ่นดินไหวเนปาลรอบสองเต็มที่ พร้อมจัดตั้งโรงพยาบาลสนามอพยพผู้ป่วยมารักษาทุกสถานการณ์ รองเลขาสพฉ.ระบุ ยังขาดเครื่องมือในการอพยพผู้ป่วย เต็นท์และผ้าห่มสำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบ

จันทร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๓๒
นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศเนปาลในเช้าวันอังคารที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเนปาลยังมีความน่า กังวลเป็นอย่างยิ่งเพราะเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเท่ากับว่าจำนวนของผู้ป่วยฉุกเฉินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็จะเกิดเพิ่มขึ้นมากขึ้นอีก โดยล่าสุดนั้นสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหม่แล้วว่ามี 66 ราย และมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1,261 คน อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยที่เข้าให้การช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศเนปาลที่มีอยู่ในพื้นที่ 2 ชุด ก็ยังคงเสริมกำลังการทำงานกันอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ขับคันและยากลำบาก ทั้งนี้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้จัดทีมประสานงานซึ่งประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกู้ภัยทีได้ผ่านการฝึกอบรมจากต่างประเทศด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติหรือที่เรียกว่า (Disaster Medical Assistant Team DMAT) เข้าประสานและช่วยเหลือในการทำงานของทีมแพทย์ฉุกเฉินของไทยด้วย

รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรอบใหม่นั้นได้สร้างผลกระทบต่อโรงพยาบาล Manmohan Memorial Hospital ของประเทศเนปาลที่ทีม DMATได้เตรียมประสานงานในการเข้าให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งขณะเกิดเหตุทีมแพทย์ของโรงพยาบาลและทีม DMAT ได้ร่วมกันอพยพ เคลื่อนย้าย และปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยและได้ร่วมช่วยจัดพื้นที่สำหรับการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งร่วมกับทางโรงพยาบาล Manmohan Memorial Hospital จัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว ซึ่งมีผู้ป่วยในการดูแลของทีมแพทย์ฉุกเฉินไทยประมาณ 50 คน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสามารถดำเนินการต่อได้และได้สนับสนุนเต็นท์สนาม ผ้าห่ม ให้กับโรงพยาบาลสนามชั่วคราวอีกด้วย

“นอกจากนี้แล้วเรายังได้ถอดบทเรียนของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเพื่อที่จะนำมาปรับใช้ในการทำงานของเราในครั้งต่อไปโดยพบปัญหาอุปสรรคหลักๆ ดังนี้ 1. เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นเกิดความตื่นตระหนกทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจึบทำให้การช่วยเหลือประชาชนที่เข้ามาทำการรักษาในโรงพยาบาลมีปัญหา 2. ทีมได้สังเกตเห็นว่าระบบการเตือนภัยของประเทศเนปาลนั้นมีปัญหา เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้วนั้นไม่มีระบบเตือนภัยให้กับประชาชนและไม่มัสัญญาณแจ้งให้ประชาชนทำการอพยพ 3. ระบบสื่อสารต้องเป็นระบบที่เราจะต้องจัดเตรียมให้พร้อมรับกับทุกสถานการณ์เพราะที่ประเทศเนปาลเมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นนั้นระบบการสื่อสารทุกอย่างในประเทศล่มหมดและจะกลับมาใช้ได้หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวประมาณ 2ชั่วโมง นอกจากนี้แล้วเรายังพบว่าเส้นทางอพยพประชาชนนั้นต้องผ่านถนนซึ่งมีรถหนาแน่น จึงทำให้การเคลื่อนย้ายประชาชนและผู้ป่วยมีปัญหา นอกจากนี้แล้วปัญหาที่สำคัญมากที่สุดคือเรื่องของข้อมูลผู้ป่วย เพราะโรงพยาบาลที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินของเราได้เข้าไปให้การช่วยเหลือนั้นไม่มีข้อมูลผู้ป่วยที่จะอพยพ ไม่ทราบจำนวนผู้ป่วยที่แท้จริง จึงทำให้ทีมที่เข้าสนับสนุนช่วยเหลือไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น” รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าว

นพ.ภูมินทร์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้สิ่งที่ประเทศเนปาลกำลังขาดและต้องการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในเรื่องของระบบการแพทย์ฉุกเฉินคือ ยา และอุปกรณ์ในการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่มีไม่เพียงพอ อาทิ รถนั่ง เปลหาม และในเรื่องที่อยู่อาศัยนั้นบ้านเรือนส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศเนปาลนั้นสร้างขึ้นจากอิฐและดินจึงทำให้ง่ายต่อถล่ม ทำให้ประชาชนจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัย การจัดหาเต็นท์นอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ประชาชนเนปาลต้องการ

สำหรับทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ (Disaster Medical Assistant Team หรือDMAT) ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ประสานงานช่วยทีมแพทย์ฉุกเฉินชุดที่สองของประเทศไทยประกอบด้วย นายแพทย์คณินทร์ กีรติพงค์ไพบูลย์นางสาวสิริมา ใจปล้ำ นางหทัยรัตน์ รังสรรค์สฤษดิ์ นายไชยเชษฐ์ พัดสี นายอนุกูล สอนเอก นายรณยุทธ กุลพันธ์ และนายสมศักดิ์ บุญรัตนกิจ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version