คณะกรรมการ ป.ป.ช. แสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

จันทร์ ๑๘ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๔:๐๓
ในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๕.00 น. ศาสตราจารย์พิเศษ วิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แถลงจุดยืนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ว่าสืบเนื่องจากอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ค.ศ. 2003 (United Nations Convention against Corruption: UNCAC) ซึ่งประเทศไทยเข้าเป็นรัฐภาคีโดยให้สัตยาบันและมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นต้นมา ทั้งนี้ ในข้อ ๓๖ ได้กำหนดให้หน่วยงานหรือองค์กรของรัฐในการต่อต้านการทุจริต ต้องมีลักษณะ ดังนี้

- ต้องมีความเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงใดๆ

-มีความชำนาญพิเศษในด้านการต่อต้านการทุจริต

-ผู้ปฏิบัติงานต้องได้รับการฝึกอบรมที่เหมาะสมและได้รับทรัพยากรที่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่

นอกจากนี้ อนุสัญญาได้วางมาตรการและกฎเกณฑ์เพื่อให้การต่อต้านการทุจริตมีประสิทธิภาพโดยให้ดำเนินการในด้านต่างๆ ประกอบด้วย

(๑) การป้องกันการทุจริตทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน

(๒) การกำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐ

(๓) การดำเนินคดีความผิดอาญาและความผิดทางวินัย

(๔) การริบและติดตามทรัพย์สินคืน

(๕) การประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ

(๖) การดำเนินการ อย่างบูรณาการของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

ดังนั้น เพื่อให้การยกร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงการยกร่างกฎหมายอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริต จึงสมควรดำเนินการให้สอดคล้องกับอนุสัญญาดังกล่าว โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้แสดงจุดยืนต่อร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ดังนี้

- องค์กรใดๆ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ต้องมีฐานะเป็นองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญและใช้กระบวนการตรวจสอบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน เช่น ใช้ระบบไต่สวน

- คณะกรรมการ ป.ป.ช. ต้องมีบทบาทและความรับผิดชอบในภารกิจทั้ง ๓ ด้าน คือ การป้องกันการทุจริต การปราบปรามการทุจริต และการตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาการทุจริตสามารถเชื่อมโยงอย่างเป็นระบบ แต่สำหรับภารกิจด้านการป้องกันการทุจริต อาจไม่จำเป็นต้องกำหนดให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. รับผิดชอบทั้งหมด ควรคงบทบาทให้เป็นผู้กำหนดนโยบาย ยุทธศาสตร์ ทิศทาง ผู้สนับสนุน ติดตามประเมินผล การเสนอมาตรการ ความเห็น ข้อเสนอแนะในการต่อต้านการทุจริตต่อคณะรัฐมนตรี ตลอดจนส่งเสริมความร่วมมือและการประสานงานระหว่างหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน และองค์กรอื่นๆ ในการต่อต้านการทุจริต

- คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์กรหลักในการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยรับผิดชอบและเป็นศูนย์กลางการบูรณาการ เพื่อความคุ้มค่าของงบประมาณ ลดความซ้ำซ้อนคณะกรรมการ ป.ป.ช. และสำนักงาน ป.ป.ช. ควรได้รับการสนับสนุนงบประมาณให้เพียงพอโดยจัดสรรเป็นวงเงินในรูปแบบร้อยละของวงเงินงบประมาณประจำปี เช่น ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๐.๓

- ให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังคงมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลคุณธรรมและจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นอกจากนี้ ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๗๔ วรรค ๔ วรรค ๕ วรรค ๖ และมาตรา ๒๕๓ ทำให้เกิดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการถอดถอนเพิ่มขึ้นคือคณะกรรมการการเลือกตั้งและสมัชชาคุณธรรม ล้วนมีอำนาจในการส่งเรื่องให้รัฐสภาถอดถอนได้ จึงควรกำหนดขอบเขตของแต่ละองค์กรให้ชัดเจน

- แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๗๔ (๗) , (๘) ดังนี้

(๗) ดำเนินการตามพันธกรณีและข้อตกลงระหว่างประเทศในการต่อต้านการทุจริต

(๘) ดำเนินการอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ

๗. แก้ไของค์ประกอบของคณะกรรมการสรรหากรรมการ ป.ป.ช. ตามร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๖๑ โดยให้ใช้องค์ประกอบคณะกรรมการสรรหา แบบเดิม ที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ ปี ๒๕๕๐ คือ ประธานศาลฎีกา ประธานศาลรัฐธรรมนูญ ประธานศาลปกครองสูงสุด ประธานสภาผู้แทนราษฎร และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร

๘. ร่างรัฐธรรมนูญ มาตรา ๒๐๕ การตรวจสอบนโยบายการคลังและงบประมาณของรัฐ ควรกำหนดให้ชัดเจนเกี่ยวกับอำนาจไต่สวนข้อเท็จจริงและสรุปสำนวนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองแผนกคดีวินัยการคลังและการงบประมาณ ระหว่างคณะกรรมการ ป.ป.ช. และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน โดยเฉพาะในชั้นของการออกพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญในเรื่องนี้

๙. ควรตัดบทบัญญัติใน มาตรา ๒๕๕ (๓) ของร่างรัฐธรรมนูญออก ในเรื่องที่กำหนดให้มีกรรมการสามฝ่าย ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ผู้แทนอัยการสูงสุด และผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายอื่น ซึ่งมีจำนวนฝ่ายละเท่ากัน เพื่อหาข้อยุติเกี่ยวกับการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ