นายสุครีพ บุญชุ่ม นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.สุโขทัย กล่าวว่า “ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2555-2558 ชาวไร่ยาสูบและผู้เกี่ยวข้องทั้งต้นน้ำและปลายน้ำได้คัดค้านร่างกฎหมายฉบับสุดซอยนี้มาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ส่งคืนร่างกฎหมายฉบับนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุข หลังพบว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวยังมีปัญหาและความขัดแย้งอยู่มาก แสดงว่ากฎหมายนี้มีปัญหาจริง แต่สาธารณสุขก็ยังดื้อดึง ส่งร่างกฎหมายกลับไปใหม่ โดยไม่รับฟังความคิดเห็นจากผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างพวกเราเลย จึงเป็นเหตุผลที่พวกเราต้องออกมาแสดงพลังกันอีกครั้งในวันนี้ โดยการเขียนไปรษณียบัตรส่งถึงท่านนายก โดยหวังว่ารัฐบาลคงเห็นใจและรับฟังเกษตรกรรากหญ้าอย่างพวกเรา”
นายสงกรานต์ ภักดีจิตร นายกสมาคมชาวไร่ยาสูบเบอร์เลย์ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวเสริมว่า “ปีนี้ชาวไร่เพชรบูรณ์ต้องประสบกับปัญหาพายุลูกเห็บและฝนผิดฤดูซึ่งทำให้ไร่ยาสูบเสียหายไปพอสมควร แต่เราก็ยังได้ผลผลิตมากพอสมควรและนำส่งขายมีรายได้เพิ่มเป็นกอบเป็นกำ หลังหมดหน้าทำนา สำหรับร่างกฎหมายใหม่นี้มีข้อห้ามต่างๆ ที่สุดโต่งและมองอาชีพชาวไร่ยาสูบด้วยอคติ และมีปัญหาข้อกฎหมายมากมายหลายมาตราถือเป็นการละเมิดสิทธิการประกอบอาชีพและจะส่งผลกระทบต่ออาชีพชาวไร่ยาสูบ โดยไม่ช่วยให้คนเลิกสูบบุหรี่ ทางสมาคมฯ ขอวิงวอนท่านนายกฯประยุทธ์ช่วยหยุดร่างกฎหมายฉบับนี้และขอโรงงานยาสูบและกรมสรรพสามิตเข้ามาดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด”
สำหรับจังหวัดสุโขทัย มีการปลูกยาสูบส่งขายให้โรงงานยาสูบและบริษัทส่งออกต่างๆปีละ 14 ล้านกิโลกรัม สร้างรายได้กว่ากว่า 700-800 ล้านบาท ส่วนผลผลิตเพาะปลูกใบยาสูบสายพันธุ์เบอร์เลย์ในฤดูกาล 2557 ของจังหวัดเพชรบูรณ์นั้น มีผลผลิตใบยาแห้งประมาณ 15 ล้านกิโลกรัมจากพื้นที่เพาะปลูกกว่า 30,000 ไร่ในเขต 5 อำเภอหลัก ขายให้แก่โรงงานยาสูบและบริษัทรับซื้อใบยาส่งออกไปต่างประเทศทำรายเข้าจังหวัดกว่า 800 ล้านบาท