ด้าน นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการขนส่งมวลชนด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสายแรกของประเทศไทย โดยยึดถือความปลอดภัยเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการ จึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ด้วยการนำนวัตกรรมเข้ามาช่วยในเรื่องของการให้บริการและการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อให้ได้รับความไว้วางใจและเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนชั้นนำของโลก
บริษัทฯ ได้กำหนดนโยบายด้านการอนุรักษ์พลังงาน เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางในการดำเนินงานของพนักงาน ทุกภาคส่วนให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยการจัดตั้งคณะทำงานด้านอนุรักษ์พลังงานเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อน และจัดทำคู่มือการจัดการพลังงานเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีระบบและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด การส่งเสริมและเสริมสร้างความรู้เรื่องการอนุรักษ์พลังงานให้กับพนักงานผ่านการประชาสัมพันธ์และกิจกรรมที่จัดขึ้น อาทิ BMCL Green Power, ไอเดียใสๆ ลดการใช้พลังงาน และการนำระบบบริหารสินทรัพย์ (Asset Management) เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการทรัพย์สินภายในบริษัทให้เป็นไปอย่างมีระบบ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารงานซ่อมบำรุง อาทิ ช่วยในการจัดเก็บข้อมูลและแจ้งการซ่อมบำรุง
ด้านการวางแผนการขนส่ง เพื่อให้เกิดการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ มีการจัดทำแผนตารางเดินรถ รวมถึงการปรับความเร็วเฉลี่ยรถไฟฟ้าให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสารในกรณีวันธรรมดา วันหยุด รวมไปถึงวันหยุดนักขัตฤกษ์ และในแต่ละช่วงเวลาของแต่ละวัน เนื่องจากปริมาณความต้องการการใช้บริการที่แตกต่างกัน นอกจากนี้ ได้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วยการติดตั้ง Timer เพื่อปรับลด-เพิ่มอุณหภูมิระบบ ปรับอากาศแบบอัตโนมัติแทนการใช้ระบบ Manual ในช่วงเวลาเร่งด่วนและนอกเวลาเร่งด่วน การปิดระบบปรับอากาศ ภายในขบวนรถไฟฟ้าขณะกลับเข้าศูนย์ซ่อมบำรุงในแต่ละวัน
ด้านความปลอดภัยซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการให้บริการ บริษัทฯ ยึดถือและปฏิบัติตามระบบจัดการ ด้านความปลอดภัยจาก LIoyd’s Register Rail มีการกำหนดกฎ ระเบียบข้อบังคับการเดินรถอย่างชัดเจน มาตรการตรวจสอบ การซ่อมบำรุง วิธีการป้องกันอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาล และมีเจ้าหน้าที่ในศูนย์ควบคุมปฏิบัติการจะทำหน้าที่ควบคุมและสั่งการไปยังทุกสถานีและทุกขบวนรถไฟฟ้าเพื่อให้การเดินรถเป็นไปด้วยความปลอดภัย รวดเร็ว และตรงเวลา
จากการดำเนินงานในการบริหารจัดการขนส่งที่เป็นไปอย่างประสิทธิภาพในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.2554-2556 สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ไม่ต่ำกว่า 2,774,636 kWh คิดเป็นมูลค่า 8.32 ล้านบาท