นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOWผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กแท่งยาว (Steel Billet) รายใหญ่ของประเทศที่มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และธุรกิจพลังงานทดแทนประเภทพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2558 ที่ผ่านมา ที่ประชุมได้รับทราบและอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ โดยนายอนาวิล จิรธรรมศิริ ได้ลาออกจากการเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) แต่ยังคงดำรงตำแหน่งกรรมการ ประธานกรรมการบริหาร กรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน และกรรมการบริหารความเสี่ยงของบริษัทต่อไป และได้ไปดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงาน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558
นอกจากนั้น นายสุทธิชัย สุรพัฒน์ ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการบริหาร รองกรรมการผู้จัดการ และผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) เช่นเดียวกัน โดยนายสุทธิชัย สุรพัฒน์ ไปดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติแต่งตั้ง นางสาวคูเมนไว ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารแทนนายอนาวิล จิรธรรมศิริ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไป และอนุมัติแต่งตั้ง นายศุภชัย ยิ้มสุวรรณ ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหาร รองกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายการเงินและบริหาร แทนนายสุทธิชัย สุรพัฒน์ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม 2558 เป็นต้นไปเช่นเดียวกัน
นายอนาวิล กล่าวว่า การปรับโครงสร้างองค์กรครั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับบริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด ที่นับวันจะเติบโตขึ้นอย่างโดดเด่นและมีนโยบายจะขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่อง การลงมาบริหารและดูแลรับผิดชอบอย่างใกล้ชิดจะทำให้การขยายธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะบริษัทแม่โดยตรง ในขณะเดียวกัน การเปลี่ยนผู้รับตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHOWมาเป็นนางสาวคูเมนไว ถือว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากนางสาวคูเมนไว เป็นกรรมการที่ดูแลบริษัทฯ มาตั้งแต่ต้น และเข้าใจธุรกิจเป็นอย่างดี ประกอบกับตัวเขายังดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารใน CHOW จึงมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อบริษัทฯ แต่ในทางกลับกันจะช่วยให้การบริหารธุรกิจในเครือเป็นไปอย่างเหมาะสมและคล่องตัวขึ้นด้วย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการบริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) ได้อนุมัติให้บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (CE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ทำธุรกิจด้านพลังงาน แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด เพื่อยื่นคำขออนุญาตเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือตลาดหลักทรัพย์ mai โดยปัจจุบัน บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัดได้ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นแล้ว 58 เมกะวัตต์ เป็นโครงการที่ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อยจำนวน 18 เมกกะวัตต์ ลงทุนร่วมกันพันธมิตรจำนวน 40 เมกะวัตต์ และพัฒนาเพื่อจำหน่ายให้กับพันธมิตรทางธุรกิจอีก 87 เมกะวัตต์ โดยในปี 2559 จะเป็นปีที่บริษัท เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด รับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานอย่างเต็มตัว