นางวรรณี ลีลาเวชบุตร ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิโอ ทาร์เก็ต จำกัด เอเจนซี่ด้านการสร้างภาพลักษณ์และที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ และเป็นผู้คร่ำหวอดในวงการประชาสัมพันธ์มากว่า 35 ปี เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจบริการด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีธุรกิจให้บริการด้านการสื่อสารสร้างภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ทั้งส่วนที่เป็น Publicity Agency และ Consultancy Agency เกิดขึ้นมากมายก็ตาม แต่สำหรับการแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านี้ องค์กรต่างๆจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการบริหารจัดการด้านชื่อเสียงองค์กรอันมาจากพื้นฐานการบริหารงานขององค์กรที่เป็นจริง ไม่ใช่เป็นเพียงการวางกลยุทธ์สร้างภาพโดยสื่อสารผ่านสื่อเท่านั้น
จากการคาดการณ์ว่าจะมีการแข่งขันทางธุรกิจที่รุนแรงขึ้นเมื่อเปิดเสรีทางการค้าในเวลาอันใกล้นี้ นิโอ ทาร์เก็ต จึงได้พัฒนาโมเดลขึ้นมาเพื่อค้นหาพื้นฐานที่เป็นจริงขององค์กรซึ่งจะนำมาสู่การบริหารจัดการชื่อเสียงขององค์กรอย่างยั่งยืน บริษัทฯได้นำหลักการเรื่อง Sustainability Development มาเป็นแนวคิดในการพัฒนา พร้อมกับมีการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการร่วมกับนักวิชาการ นักการสื่อสาร นักธุรกิจระดับบริหาร และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆเพื่อพัฒนาแนวคิดในการบริหารชื่อเสียงองค์กรอย่างสมเหตุผล ขณะเดียวกันได้ทำการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้บริหารระดับสูง (In-depth Interview) ใน 10 กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรม ได้แก่ กลุ่มการเงิน อสังหาริมทรัพย์ กลุ่มสื่อสาร อาหารและการเกษตร พลังงาน ก่อสร้าง กลุ่มธุรกิจบริการ กลุ่มสุขภาพ กลุ่มขนส่งและรถยนต์ จำนวนประมาณ 50 ตัวอย่างด้วยกัน
การวิจัยครั้งนี้ พบว่า การบริหารชื่อเสียงขององค์กรหรือกลุ่มธุรกิจให้เป็นที่ยอมรับควรให้ความสำคัญใน 6 ไดเมนชั่นส์หลัก คือ ด้านคอร์ปอเรท (Corporate Value) ด้านการบริหาร (Management Value) ด้านบุคคลากร (Human Value) ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ (Product and Service) ด้านการเงิน (Financial Performance) และด้านสังคม (Social Accountability)
นางวรรณีกล่าวต่อไปว่า “ปัจจุบันยังไม่มีเอเจนซี่ใดที่ช่วยลูกค้าทำการวัดผลครบทั้ง 6 ไดเมนชั่นส์เลย ซึ่งการค้นหาตัวตนที่เป็นจริงรวมถึงการกำหนดสัดส่วนหรือสร้างสมดุลย์ใน 6 ไดเมนชั่นส์นี้ ไม่เพียงแต่จะทำให้การบริหารชื่อเสียงขององค์กรและสินค้าเป็นที่รู้จักและเกิดการยอมรับเท่านั้น แต่ยังจะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในด้านอื่นๆตามมาอีกด้วย ผู้ซื้อสินค้าจะได้รับรู้ถึงวิสัยทัศน์และการบริหารจัดการของผู้บริหาร ความพร้อมทางด้านการเงินและการลงทุน คุณภาพของบุคคลากรและความรับผิดชอบที่องค์กรนั้นมีต่อสังคม ซึ่งความเชื่อถือศรัทธาและชื่อเสียงในไดเมนชั่นส์ต่างๆเหล่านี้ย่อมมีผลอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคในอนาคต นับเป็นเทรนด์การสื่อสารใหม่ ดังนั้น ในแต่ละธุรกิจควรจะมีการกำหนดสัดส่วนในแต่ละไดเมนชั่นส์ให้เหมาะสมกับสภาพการแข่งขันที่แตกต่างกันไป เพื่อสร้างความแข็งแกร่งเฉพาะตัวและเพิ่มโอกาสในการแข่งขันทางธุรกิจให้มากขึ้น”
การเปิดเสรีทางการค้าที่จะมาถึงในปีหน้านี้ จะมีผลต่อการปรับตัวขององค์กรและกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีอย่างมาก ทั้งเอสเอ็มอีในเมืองไทยเองและเอสเอ็มอีที่อยู่ในต่างประเทศต่างตื่นตัวเรื่องการบริหารจัดการชื่อเสียงองค์กรและชื่อเสียงของแบรนด์และผลิตภัณฑ์มากกว่าการสร้างภาพลักษณ์แบบที่เคยเป็นมา การรู้ความต้องการของผู้บริโภคและเกณฑ์มาตรฐานของแต่ละกลุ่มธุรกิจ รวมถึงการเลือกสื่อสารในจุดแข็งของตัวเองย่อมจะทำให้เกิดการได้เปรียบทางธุรกิจยิ่งขึ้น โดยตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมา นิโอ ทาร์เก็ต ได้รับการติดต่อจากลูกค้าเพื่อขอรับบริการด้าน เรพพิวเทชั่นส์ เมเนจเมนท์ อย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันบริษัทฯ ให้บริการด้านนี้แก่ลูกค้าในกลุ่มธุรกิจหลากหลาย ได้แก่ กลุ่มธุรกิจการเกษตร รถยนต์ การเงิน พลังงาน และก่อสร้าง ซึ่งบริษัทฯเชื่อว่าเซกเมนท์ใหม่นี้จะเป็นเซกเมนท์ทางด้านการสื่อสารที่มีการเติบโตมากในอนาคตแน่นอน
นางวรรณีกล่าวเสริมว่า “ภายในเดือนสิงหาคมนี้บริษัทฯจะเปิดสัมมนาให้ความรู้แก่องค์กรและ กลุ่มเอสเอ็มอีที่สนใจ ในเรื่อง “เรพพิวเทชั่นส์ เมเนจเมนท์เพื่อการแข่งขันทางการตลาด” โดยจะเปิดให้เฉพาะผู้บริหารระดับสูงเข้าฟังจำนวนไม่เกิน 50 ท่านเท่านั้น นอกจากนี้จะเปิดการฝึกอบรมแก่ผู้บริหารระดับสูงให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องความสำคัญของ การบริหารจัดการชื่อเสียงองค์กรเพื่อเตรียมความพร้อมในด้านการสื่อสาร การเผยแพร่ข้อมูลที่สำคัญของบริษัทฯ และการออกสื่อ รวมถึงการบริหารจัดการกรณีวิกฤตและประเด็นลบขององค์กรด้วย”
ในส่วนของธุรกิจการบริการที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และการวางกลยุทธ์ประชาสัมพันธ์นั้นในปีนี้ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการจำนวนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาพบว่า มีลูกค้าสนใจใช้บริการเพิ่มมากขึ้นจำนวน 10 ราย โดยกว่าร้อยละ 50 เป็นธุรกิจบริการพวกฮอลพิทาลิตี้ เซอร์วิส โรงแรม ห้องอาหาร ที่เหลือจะเป็นลูกค้ารีเทล กลุ่มธุรกิจรถยนต์ ลอจีสติก และกลุ่มนวัตกรรมเทคโนโลยี คาดว่าในปีนี้เมื่อเปิดให้บริการการสื่อสารครบทั้ง 3 ด้านแล้ว บริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นประมาณ 15-20 %
นอกจากนี้ นิโอ ทาร์เก็ต จะทำการเปิดตัวเว็บไซต์บริษัทในช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการ เรพพิวเทชั่นส์ เมเนจเมนท์ กรุณาติดต่อ 081-870-0707 หรือ 061-653-5550