อุบัติเหตุ คร่าชีวิตเด็กปีละ 1.8 แสนคน วิจัยหนุน กม.เบาะนิรภัยเด็ก

ศุกร์ ๒๒ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๒:๓๖
อุบัติเหตุทางถนนเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 ของเด็กไทย รองจากการจมน้ำ ข้อมูลสำนักระบาดวิทยาโรงพยาบาลเครือข่ายเฝ้าระวังการบาดเจ็บ 33 แห่ง พบเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี บาดเจ็บรุนแรงในสถานะผู้โดยสารถึงปีละ 4,000 ราย เสียชีวิตเฉลี่ยปีละ 524 ราย ส่วนใหญ่เป็นอุบัติเหตุจากรถกระบะ รถยนต์ส่วนบุคคล เมื่อเกิดเหตุที่มีการชนอย่างแรงทำให้เด็กหลุดออกจากตัวรถ จากที่นั่งกระเด็นออกมานอกรถหรือเด็กหลุดจากการกอดของผู้ปกครองไปกระแทกกับส่วนต่างๆ ในรถ

ขณะที่ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ประมาณการพบในแต่ละปีมีเด็กประมาณ 186,300 คนทั่วโลก ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน หรือในทุกๆ 4 นาทีจะมีเด็ก 1 คนที่เสียชีวิตบนท้องถนน

“นอกจากการเสียชีวิต บางรายมีอาการสาหัส จนถึงทุพพลภาพ เหตุการณ์เหล่านี้ยากจะประเมินค่า สร้างความโศกเศร้า และความสูญเสียทางเศรษฐกิจกับครอบครัวและญาติพี่น้องของผู้ประสบเหตุ ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพและการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต” Dr. Liviu Vedrasco ผู้แทน WHO ประจำประเทศไทย แสดงความห่วงใย

รายงานของ WHO ชี้ว่า การใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์จะมีส่วนช่วยลดการเสียชีวิตของเด็กได้ถึง ร้อยละ 70 ปัจจุบัน 96 ประเทศทั่วโลกมีกฎหมายบังคับใช้เบาะนิรภัยฯ แล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในกลุ่มที่มีรายได้สูง ส่วนกลุ่มประเทศรายได้ต่ำและปานกลางยังให้ความสำคัญกับเรื่องนี้น้อยมาก

สำหรับในประเทศไทยนั้น ประเมินกันว่ามีการใช้เบาะนิรภัยสำหรับเด็กน้อยมาก อาจมีสาเหตุจากการไม่ตระหนักถึงปัญหา และราคานำเข้าเบาะนิรภัยสำหรับเด็กฯ ที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายบังคับใช้จริงจัง ทาง WHO จึงมีการให้คะแนนประเทศไทยกับเรื่องดังกล่าวเป็นศูนย์ !!

จากสถานการณ์ปัญหาดังกล่าว นำมาสู่ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลก ศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลกและ รพ.ขอนแก่น สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แผนงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรในระดับจังหวัด (สอจร.) จับมือดำเนินโครงการส่งเสริมหนูน้อยปลอดภัยจากการใช้เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ พร้อมทำการศึกษาวิจัยพฤติกรรมและการส่งเสริมการใช้เบาะนิรภัยในรถยนต์ กรณีศึกษาของประเทศไทยขึ้น

ผศ.ดร.จรวยพร ศรีศศลักษณ์ ผู้จัดการงานวิจัย สวรส. กล่าวว่า สวรส. ได้ตระหนักถึงประเด็นปัญหาอุบัติเหตุจนทำให้มีการเสียชีวิตของเด็กที่โดยสารมาในรถยนต์ จากการประเมินเบื้องต้นพบว่าในประเทศไทยมีการใช้เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์น้อยมาก และไม่มีกฎหมายบังคับใช้ จึงสนับสนุนให้มีการศึกษาวิจัยประเมินผลการใช้เบาะนิรภัย เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่รุนแรงจากอุบัติเหตุของเด็กที่โดยสารมากับรถยนต์ พร้อมกับสังเคราะห์ข้อเสนอเชิงนโยบายในการผลักดันทางกฎหมายการใช้เบาะนิรภัยฯ โดยมี นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย เป็นนักวิจัยหลัก

“การวิจัยได้ดำเนินการศึกษาในโรงพยาบาล 4 แห่ง ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมหนูน้อยปลอดภัยจากการใช้เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ ประกอบด้วย สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี รพ.ขอนแก่น รพ.ตรัง และ รพ.ลำปาง กลุ่มเป้าหมาย คือ เด็กหลังคลอดที่ผู้ปกครองมาคลอดในโรงพยาบาล และเด็กในคลินิกสุขภาพเด็กดี ที่ผู้ปกครองใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และรถกระบะ รวม 120 คน ซึ่งมีระยะเวลาดำเนินงานหนึ่งปีนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2557”

ผศ.ดร.จรวยพร กล่าวด้วยว่า การศึกษาครั้งนี้ เพื่อสร้างการรับรู้และความตระหนักของปัญหา พร้อมศึกษาปัจจัยที่สนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการใช้เบาะนิรภัยฯ ในผู้ปกครอง รวมทั้งสังเคราะห์ข้อเสนอสำหรับผู้กำหนดนโยบายเพื่อผลักดันให้เกิดกฎหมายการมีเบาะนิรภัยฯ ต่อไป

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผอ.ศูนย์ความร่วมมือระหว่างองค์การอนามัยโลก และนักวิจัย สวรส. เผยข้อค้นพบที่สำคัญจากการศึกษาจากโรงพยาบาลและผู้ปกครองที่เข้าร่วมโครงการฯ เช่น พบว่าปัญหาที่เป็นข้อจำกัดกรเลือกใช้เบาะนิรภัยในประเทศไทย ผู้ปกครองส่วนใหญ่เห็นว่าราคาเบาะนิรภัยค่อนข้างสูง ผู้ปกครองที่มีฐานะทางการเงินต่ำ ไม่สามารถจะซื้อได้ จากนั้นเมื่อการศึกษามาถึงช่วงแรกของการใช้เบาะนิรภัย พบว่าเด็กจะงอแง ร้องไห้เกร็งบ้าง แต่ทั้งนี้ผู้ปกครองก็มีเทคนิคที่ทำให้บุตรหายจากการต่อต้าน เช่น เตรียมเด็กก่อนเดินทางให้พร้อม การให้ดื่มนมให้อิ่ม การฝึกให้ลูกซ้อมการนั่งเบาะ ก่อนติดตั้งบนรถ เป็นต้น

นักวิจัย สวรส. กล่าวต่อไปว่า จากศึกษาใน 4 โรงพยาบาล พบผู้ปกครองส่วนใหญ่ได้ใช้ประโยชน์จากคู่มือการใช้เบาะนิรภัยเป็นแนวทางในการปฏิบัติ มีประโยชน์และสามารถแนะนำผู้อื่นได้ด้วย ร้อยละ 40 ของผู้ปกครองได้มีการแนะนำบอกต่อคนอื่นให้ใช้เบาะนิรภัย เช่น บอกกับเพื่อนและญาติๆ ในกลุ่มหลังคลอด มีการโพสต์ข้อดีของการใช้เบาะนิรภัยผ่านทาง Social Media ต่างๆ ทั้งนี้ในกลุ่มทดลอง มีผู้ปกครองที่ใช้เบาะนิรภัยที่ขับรถแล้วเบรกกะทันหัน จำนวน 4 คน และรู้สึกตกใจกลัวลูกจะได้รับอันตราย แต่ปรากฏว่า เด็กนอนหลับไม่รู้สึกเลย

นพ.วิทยา กล่าวถึงข้อเสนอเชิงนโยบายที่ควรดำเนินการ คือ เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะต้องผลักดันให้เป็นกฎหมายสำหรับประเทศไทย เช่นเดียวกับนานาประเทศ ในระยะแรกกระทรวงสาธารณสุขควรเป็นผู้รับผิดชอบในการประกาศเป็นกฎกระทรวงสาธารณสุข และนำเสนอให้ผลักดันให้เป็นกฎหมายเบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ กระทรวงสาธารณสุขควรเป็นหน่วยงานสำคัญในการสร้างความตระหนักแก่ประชาชนในการใช้เบาะนิรภัย โดยสอดแทรกให้หญิงตั้งครรภ์ที่มาฝากครรภ์ การจัดหาเบาะนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก จำหน่าย หรือเช่า หรือยืม ให้แก่แม่หลังคลอด และติดตามการใช้เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ ใน Well baby clinic ควรมีการประชาสัมพันธ์อย่างกว้างขวางเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ถึงความสำคัญและความจำเป็นของการมีเบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ ผ่านสื่อต่างๆ

“รัฐบาลควรให้การสนับสนุนในเรื่องของราคาเบาะนิรภัยให้ถูกลงโดยปรับ ลดภาษีนำเข้าและสนับสนุนให้ผลิตได้เองในประเทศ บริษัทที่ผลิตรถยนต์ และขายรถยนต์ ควรแถม เบาะนิรภัยเด็กในรถยนต์ เป็นทางเลือกอีกอย่างหนึ่งสำหรับผู้ซื้อรถยนต์ โดยห้างร้านที่จำหน่ายควรให้ความรู้ในการติดตั้งและการใช้ให้กับประชาชนอย่างถูกต้อง” นพ.วิทยา กล่าว

เด็ก ถือเป็นกลุ่มประชากรที่จะเจริญเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ การผลักดันข้อเสนอสู่นโยบายระดับชาติในครั้งนี้ เป็นประเด็นที่แสดงถึงความจริงใจต่อการพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย เสมือนในหลายๆ ประเทศทั่วโลกที่ได้ขับเคลื่อนเรื่องนี้กันไปแล้ว

นั่นก็เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียในอนาคต...

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version