นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO ผู้นำธุรกิจสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรแห่งอาเซียน เปิดเผยถึงแผนงานครึ่งปีหลัง 58 ว่า บริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจตามยุทธศาสตร์ที่ได้วางไว้ คือ การรักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์ ด้วยการรักษาลูกค้าเก่า และขยายไปยังฐานลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เข้ากับเทรนด์และตอบสนองไลฟสไตล์ของคนรุ่นใหม่ มากขึ้น ตลอดจนเพิ่มโครงการประเภทที่สร้างให้รายได้อย่างมั่นคงในระยะยาว พร้อมจะนำโมเดลทางธุรกิจเดียวกันไปใช้ในต่างประเทศ อีกด้วย
ล่าสุด บริษัทฯ ลงทุนกว่า 50 ล้านบาท เปิดธุรกิจสวนสนุกแห่งจิตนาการ ภายใต้ชื่อ “IMAGINIA” (อิเมจิเนีย) ซึ่งโครงการนี้จะช่วยปลูกจินตนาการและสร้างการเรียนรู้สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 – 15 ปี เป็นพื้นที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยมีพื้นที่กว่า 1,400 ตร.ม มีการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยและเครื่องเล่นที่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย อิเมจิเนียตั้งอยู่ชั้น 3 ของศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม โดยจะมีกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม นี้
“ธุรกิจ IMAGINIA ถือเป็นธุรกิจในกลุ่มที่จะสร้างรายได้มั่นคงในระยะยาวให้กับบริษัทฯ โดยคาดว่าจะทำรายได้ปีละ 50 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ เชื่อว่าจะมีคนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะทุกวันนี้ ผู้ปกครองเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับเรื่องการเสริมสร้างความคิดและจิตนาการให้กับเด็กๆ ที่นอกเหนือจากการเรียนทางวิชาการ โดย IMAGINIA จะช่วยพัฒนา EQ ของเด็ก ทำให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องของอารมณ์ การเข้าสังคม ตลอดจนเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็กๆ ด้วย” นายเสริมคุณ กล่าว
สำหรับ โครการ IMAGINIA มีทั้งหมด 19 โซน ซึ่งแต่ละโซน จะมีความโดดเด่นแตกแต่งกันไป ให้เด็กๆ ได้สนุกกับเทคโนโลยีอินเตอร์แอคทีฟ รวมถึงโซนที่ให้ปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ และจิตนาการผ่านงานศิลปะ อาทิเช่น โซน Wonder Car ให้เด็กๆ สามารถออกแบบลวดลายบนรถในรูปแบบของตัวเอง ซึ่งลายที่เด็กๆ ออกแบบจะไปโชว์อยู่ที่โมเดลรถตรงหน้าของเขา , โซน Ride to The Sky เด็กๆสามารถขี่จักรยานท่องเที่ยวทั่วดินแดน IMAGINIA รวมไปถึงขี่จักรยานผ่านดินแดนที่ต้องผจญภัยและท้าทาย นอกจากนี้ยังมีอีกโซนที่น่าสนใจ โซน Imaginia Town Hall เป็นห้องนิทานขนาดใหญ่ที่ผสมผสานศาสตร์การเล่านิทานเข้ากับเทคโนโลยีแบบใหม่ เป็นต้น
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CMO กล่าวอีกว่า จากแผนงานที่วางไว้ มั่นใจว่ารายได้ปี 58 จะเป็นไปตามเป้าที่ 1,200 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 58 ว่าบริษัทฯ มีรายได้ 210.42 ล้านบาท ขณะที่มีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 17.50 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากไตรมาสแรกของปี 2557 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 30 ล้านบาท ทั้งนี้ รายได้ในไตรมาสแรก ของปีนี้ ถือเป็นอัตราการเติบโตที่เป็นไปตามสภาพตลาด ของธุรกิจอีเว้นท์ นอกจากนี้บริษัทมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 750 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ได้แน่นอน
“ทั้งนี้ในส่วนของภาพรวมธุรกิจอีเว้นท์ในประเทศ ในช่วงครึ่งปีหลัง 58 คาดว่าจะมีการเติบโตไม่มากนัก เพราะภาคเอกชนยังไม่มั่นใจกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายๆ บริษัท ชะลอเรื่องการใช้งบประมาณทำกิจกรรมทางการตลาด ในขณะที่ภาครัฐ ก็ไม่ได้มีแผนงานที่จะใช้งบประมาณกับการจัดอีเว้นท์เช่นกัน แต่จะเห็นว่า อีเว้นท์ประเภท Entertainment โดยเฉพาะคอนเสริต์แนว EDM (Electronic Dance Music) กลับมีการเติบโตสูง ซึ่งในปีนี้สูงถึง 300% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ซึ่งจุดนี้ทำให้อยู่ในภาวะเสี่ยงOver Supply ได้เช่นกัน” นายเสริมคุณ กล่าวทิ้งท้าย