รุกแนวทางพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์ม กนป.เดินหน้าเต็มกำลัง ชูมาตรการ 3 ระยะ ลุยแก้ปัญหาทั้งระบบ

จันทร์ ๒๕ พฤษภาคม ๒๐๑๕ ๑๕:๓๓
เดินหน้ามาตรการแก้ปัญหาปาล์มทั้งระบบ กนป. ชู 3 มาตรการ พร้อมรับมือเพื่อแก้ปัญหาแบบเร่งด่วนและระยะยาว หวังพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มอย่างยั่งยืน เผย เตรียมงบประมาณรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดฯ เพื่อเก็บสต็อก จาก คชก.แล้ว รวมทกว่า 2,952 ล้านบาท

นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการของคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เปิดเผยว่า จากการประชุม กนป. ครั้งที่ 3/2558 เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้พิจารณาแนวทางการดำเนินมาตรการการรักษาเสถียรภาพราคาทั้งระบบ ทั้งในระยะเร่งด่วน ระยะสั้น และระยะยาวเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนทั้งระบบ ซึ่งที่ประชุมได้เห็นชอบแนวการแก้ไขปัญหาราคาปาล์มน้ำมันทั้งระบบในแต่ละมาตรการ ดังนี้

มาตรการเร่งด่วน ให้กรมการค้าภายใน กำหนดราคาแนะนำในการรับซื้อผลปาล์มทะลาย ผลปาล์มร่วง และน้ำมันปาล์มดิบ โดยออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (สกกร.) ให้รับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วง ในราคาเดียวกัน อัตราน้ำมันร้อยละ 17 ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 4.20 บาท ณ หน้าโรงสกัดน้ำมันปาล์มและจุดรับซื้อในพื้นที่ (ลานเท) โดยให้ลานเทสามารถหักค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งตามที่กำหนดในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการส่วนจังหวัดว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กจร.) เป็นผู้กำหนดค่าใช้จ่ายและค่าขนส่งที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ และเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายทั้งระบบ (ได้แก่ โรงสกัดฯ ลานเท และเกษตรกร) รวมทั้งประกาศให้รับรู้ทั่วกัน อย่างไรก็ตาม เกษตรกรขายผลปาล์มที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันสูงกว่า 17% ทุก 1% ที่เพิ่มขึ้น จะได้ราคาเพิ่มขึ้นอีก 0.30 บาท/กก. ในขณะที่ผลปาล์มที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันต่ำกว่า 17% ทุก 1% จะลดราคา กก.ละ 0.25 บาท ทั้งนี้ ได้ผ่อนผันให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตที่มีน้ำมันไม่ต่ำกว่า 15% ในช่วง 3 เดือน (พฤษภาคม – กรกฎาคม) เพื่อให้เกษตรกรสามารถปรับตัวได้

นอกจากนี้ กำหนดให้โรงกลั่นฯ โรงผลิตไบโอดีเซล และผู้รับซื้อน้ำมันดิบทั่วไปรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ในราคา ไม่ต่ำกว่า กก.ละ 26.20 บาท ณ หน้าคลังผู้รับซื้อในเขตกรุงเทพและปริมณฑล เพื่อให้ราคาขายปลีกน้ำมันพืชปาล์มบรรจุขวด ไม่สูงกว่าราคาเพดานคือไม่เกินลิตรละ 42 บาท โดยกรมการค้าภายใน กำกับดูแลให้ราคาจำหน่ายปลีกน้ำมันพืชปาล์มบรรจุขวดในสอดคล้องกับต้นทุน พร้อมติดตามประเมินผลในระยะเวลา 3 เดือน เพื่อนำเสนอต่อกนป. พิจารณาให้ความเห็นชอบออกเป็นประกาศ กกร. เมื่อสิ้นสุด 3 เดือนที่กำหนด (พฤษภาคม – กรกฎาคม) กำหนดให้เกษตรกรต้องขายผลผลิตปาล์มที่มีเปอร์เซนต์น้ำมันไม่ต่ำกว่า 17% โดยอาจจำเป็นต้องมีผลบังคับตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสภาเกษตรกร ในการร่วมตรวจสอบสต็อกน้ำมันปาล์ม เป็นรายโรงงาน ทุกเดือน

มาตรการระยะ 3 เดือน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กำกับดูแลให้การรับซื้อของลานเทเป็นไปตามประกาศสำนักงานคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (ส.กกร.) และบริหารจัดการให้ลานเทเป็นเครือข่ายของ โรงงานสกัดฯ หรือให้โรงงานสกัดฯ กำหนดพื้นที่รับผิดชอบในการรับซื้อผลผลิต และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการตรวจสอบพื้นที่เพาะปลูกปาล์มของเกษตรกร เพื่อให้ได้ข้อมูลการผลิตที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม ได้เน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัด กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสภาเกษตรกรในพื้นที่ ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจ เกษตรกร ผู้รับจ้างตัดปาล์ม ลานเท เกี่ยวกับการผลิต การเก็บเกี่ยว มาตรการของรัฐ การบังคับใช้กฎหมาย และตามประกาศข้อแนะนำต่างๆ โดยให้กรมการค้าภายในนำเสนอ กกร. เพื่อออกประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) กำหนดให้ผู้ประกอบการลานเท แจ้งชื่อ ราคา ปริมาณ และสถานที่เก็บสินค้า ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542

มาตรการระยะยาว ได้กำหนดแนวทางไว้ 2 เรื่อง คือ ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม เกรด B พัฒนาศักยภาพการสกัดเพื่อให้สามารถสกัดปาล์มทะลายได้และแยกสกัดน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มและมอบหมายให้คณะอนุกรรมการยกร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เร่งรัดดำเนินการยกร่าง พ.ร.บ.ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม

สำหรับการบริหารสต๊อกน้ำมันปาล์มเพื่อป้องกันการขาดแคลนและดึงผลผลิตน้ำมันปาล์มส่วนเกินในบางช่วงเก็บไว้เพื่อลดการนำเข้า หากราคาปาล์มน้ำมันที่เกษตรกรขายได้ต่ำกว่า 4.20 บาท และน้ำมันปาล์มดิบต่ำกว่า 26.20 บาท ที่ประชุมได้เห็นชอบการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบเก็บสต็อกตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้องค์การคลังสินค้าดำเนินการแทรกแซงตลาดรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ปริมาณ 100,000 ตัน จากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 26.20 บาท ส่งมอบ ณ หน้าคลังสินค้าในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มจะต้องแสดงหลักฐานในการรับซื้อผลปาล์มทะลายและผลปาล์มร่วงจากเกษตรกรที่อัตราน้ำมันร้อยละ 17 ในราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 4.20 บาท ทั้งนี้ อคส.จะพิจารณาเข้าไปรับซื้อผลผลิตน้ำมันปาล์มในช่วงเวลาและจำนวนที่เหมาะสมด้วย

สำหรับระยะเวลาการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบกำหนด 6 เดือน ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – พฤศจิกายน 2558 โดยระยะเวลาเก็บรักษาไม่เกิน 6 เดือน (มิถุนายน – พฤศจิกายน 2558) ซึ่งขอใช้เงินงบประมาณจากกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) เป็นค่าใช้จ่ายในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากโรงงานสกัดฯ เพื่อเก็บสต๊อก งบประมาณ รวมทั้งสิ้น 2,952.896 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินทุนหมุนเวียน จำนวน 2,620.00 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนในการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบ ปริมาณ 100,000 ตัน จากโรงงานสกัดในราคากิโลกรัมละ 26.20 บาท เงินจ่ายขาด วงเงิน 276.45 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มดิบ ตันละ 214 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานขององค์การคลังสินค้าตามที่จ่ายจริง วงเงิน 16.446 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขาย วงเงิน 40.00 ล้านบาท ส่วนหลักเกณฑ์และวิธีดำเนินการรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบขององค์การคลังสินค้า (อคส.) ให้กระทรวงพาณิชย์ พิจารณาเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การดำเนินการในการรับซื้อและการระบายให้มีความรัดกุม รอบคอบ และโปร่งใสมากที่สุด

รองเลขาธิการ สศก. กล่าวทิ้งท้ายว่า ทั้งนี้ ที่ประชุมได้มอบหมายให้กรมศุลกากร กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการลักลอบนำเข้าและการนำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์ให้ประธาน กนป. และเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรในฐานะเลขานุการ กนป. ทราบทุก 15 วัน รวมทั้งได้มีการเห็นชอบให้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์ ผลการดำเนินการของคณะกรรมการ กนป. โดยมีนายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เป็นประธานคณะทำงาน และคณะอนุกรรมการประกอบด้วย ผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนกระทรวงพลังงาน ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการ กนป. 1 คน ร่วมเป็นอนุกรรมการฯ อย่างไรก็ตาม ขอความร่วมมือจังหวัดที่มีพื้นที่ปลูกปาล์มช่วยประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้แก่เกษตรกร ผู้ประกอบการ ในพื้นที่ เกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพการผลิต การลดต้นทุนการผลิต ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม รวมทั้งให้ทางจังหวัดกำกับการดำเนินการของโรงงานสกัด ลานเท โรงกลั่นฯ และโรงผลิตไบโอดีเซล ให้เป็นไปตามมติ กนป. อย่างเคร่งครัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version