นายพงษ์ดิษฐ พจนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ราชบุรีโฮลดิ้ง กล่าวว่า ราชบุรีโฮลดิ้ง ได้ร่วมลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อิวากิ และอูเอดะ กำลังการผลิตรวม 33 เมกะวัตต์ ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการสร้างฐานธุรกิจในญี่ปุ่น ซึ่งธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ถือเป็นตลาดที่ศักยภาพมาก เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นมีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายจะขยายการลงทุนให้ได้ราว 200 เมกะวัตต์ เพื่อสร้างมูลค่าองค์กรให้เพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ การผนึกเป็นพันธมิตรธุรกิจระหว่างกลุ่มราชบุรีโฮลดิ้งและกลุ่มเชาว์สตีล ยังคงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องสานต่อเพื่อเพิ่มขีดความสามารถและศักยภาพการแข่งขันในต่างประเทศของทั้งสองฝ่าย โดยทั้งสองฝ่ายตั้งใจที่จะร่วมลงทุนโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ในระยะที่สองที่ญี่ปุ่น รวมทั้งแสวงหาโอกาสการลงทุนอื่นๆ ในอาเซียนร่วมกันอีกด้วย
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ กลุ่มเชาว์สตีล กล่าวว่า หลังจากการวางศิลาฤกษ์โครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ อิวากิ แล้วก็จะเป็นขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งจะเริ่มขึ้นพร้อมๆกับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าอูเอดะ ซึ่งคาดว่าทั้งสองโครงการจะแล้วเสร็จพร้อมจำหน่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ให้กับการไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นได้ภายในปลายปี 2559 ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยความร่วมมือกับกลุ่มราชบุรีโฮลดิ้ง ซึ่งมีประสบการณ์สูงด้านการลงทุนธุรกิจผลิตไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จะช่วยเสริมศักยภาพและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินให้กับโครงการทั้งสอง และเชื่อมั่นว่าหลังจากนี้ จะได้เห็นความร่วมมือของทั้งสองฝ่ายเพื่อขยายการลงทุนในโครงการอื่นๆ ตามมาในไม่ช้า
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ อิวากิ จังหวัดฟูกูชิมะ ขนาดกำลังผลิต 22.68 เมกะวัตต์ เป็นหนึ่งใน 2 โครงการแรกที่เกิดขึ้นภายหลังการบรรลุข้อตกลงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นร่วมกับกลุ่มเชาว์สตีล โดยอีกหนึ่งโครงการคือ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อูเอดะ จังหวัดนากาโน่ มีกำลังการผลิต 10.8 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งสองโครงการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวอายุ 20 ปี กับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายใหญ่ของภูมิภาค พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ในการรับซื้อไฟฟ้าในรูปแบบ FIT (Feed-in tariff) ที่อัตรา 40 เยน ต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีการบริโภค) โดยได้ตั้งเป้าหมายสำหรับการจ่ายกระแสไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์ภายในปี 2559