สาระสำคัญของพระราชบัญญัติฉบับนี้ ยังได้มีมาตรการออกใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับอาหารสัตว์ เช่น ใบรับรองระบบการประกันคุณภาพอาหารสัตว์ (GMP และ HACCP) และใบรับรองอื่น ๆ จะทำให้กระบวนการผลิตมีคุณภาพและมีมาตรฐานเพิ่มมากขึ้น มาตรการการโฆษณาอาหารสัตว์หรือวัตถุดิบ ที่จะต้องมีการวางแนวทางปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขของกระทรวง โดยจะต้องไม่แสดงคุณประโยชน์ คุณภาพ ปริมาณ มาตรฐาน ส่วนประกอบ หรือแหล่งกำเนินของอาหารสัตว์ ที่ไม่เป็นความจริงหรือเกินความจริง และไม่แสดงข้อความที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ระบบการควบคุมกว้างมากขึ้น และมีที่มาที่ชัดเจนมากขึ้น โดยมีการกำหนดบทกำหนดโทษการกระทำผิดในกรณีผลิต นำเข้า หรือขายอาหารสัตว์ ตามที่มีการประกาศห้ามเป็นอาหารสัตว์ หรือส่วนผสมในอาหารสัตว์ โดยมีบทลงโทษเพิ่มขึ้นจากพระราชบัญญัติฉบับเดิม 3 เท่า คือระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นายวิมล กล่าวต่อไปว่า กระทรวงเกษตรฯ ยังได้พิจารณาร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ และวิธีการได้มาซึ่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ พ.ศ. ... โดยจะมีผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการควบคุมอาหารสัตว์ จำนวน 5 คน จากสหกรณ์ 1 คน กลุ่มเกษตรกร 2 คน และผู้ประกอบธุรกิจภาคอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ 2 คน โดยได้มีการวางหลักเกณฑ์ในการคัดสรรคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งจะมีการประกาศรับสมัคร และสรรหาไปตามขั้นตอนต่อไป
“สำหรับมาตรการการตรวจจับหรือการตรวจสอบอาหารสัตว์ที่ผิดกฎหมายนั้น ได้มีการวางหลักเกณฑ์ในกฎหมายใหม่แล้ว ซึ่งสารวัตรปศุสัตว์ก็จะมีการดำเนินการตรวจจับให้ครอบคลุมในพื้นที่และระยะเวลาที่มากขึ้น นอกจากนี้ จะมีการประกาศให้ยาต้านจุลชีพ ไม่สามารถใช้เป็นสารเร่งในการเจริญเติบโตได้ เนื่องจากสารดังกล่าวได้ถูกห้ามใช้โดยต่างประเทศหมดแล้ว จึงต้องมีการพิจารณาและวางหลักเกณฑ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคและต่างชาติให้ดีมากขึ้น และสินค้าปศุสัตว์จะได้เป็นที่น่าเชื่อถือจากต่างประเทศด้วย” นายวิมล กล่าว