นายจตุภูมิ พุ่มอิ่ม หัวหน้าฝ่ายอาคารและผังเมือง เทศบาลปู่เจ้าสมิงพราย จ.สมุทรปราการ ปัจจุบันเป็นคุณพ่อลูก 2 ของน้องพิม วัย 4 ขวบ และ น้องภู วัย 10 เดือน แนวทางการเลี้ยงลูกโดยเฉพาะการส่งเสริมเรื่องการเรียนของลูกๆนั้น คุณจตุภูมิ กล่าวว่า ตนให้ความสำคัญกับการส่งเสริมเรื่องการเรียนภาษาอังกฤษของลูกมาก เสริมทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน โดยเฉพาะเรื่องการออกเสียง เราจะชวนลูกๆพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษในครอบครัว หรือ ระหว่างดูโทรทัศน์ หรือ ไปเที่ยว
“ส่วนตัว คิดว่าจำเป็นมาก เพราะคิดว่าการเรียนภาษาจากในห้องเรียนยังไม่พอเท่าที่สังคมปัจจุบันต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าสังคม หรือ การทำงาน การรู้ภาษาอังกฤษและการออกสำเนียงที่ถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญ และอีกหน่อยเราก็เปิด AEC แล้ว จะมีอีกหลายประเทศเข้ามาทำการค้าแบบเสรีในบ้านเรา ฉะนั้นตนคิดว่าภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญมาก เพราะอย่างตนทำงานก็จะมีลูกค้าต่างชาติมาติดต่อเจรจาธุรกิจเสมอ อย่างที่บ้าน จะเริ่มให้ลูกเรียนตั้งแต่ 2 ขวบ เพราะเราอยากให้เขามีอนาคตที่ดีต่อไป”
“สำหรับภาษาที่ 3 ผมก็คิดว่าสำคัญนะ เพราะเราจะเปิดเสรีอาเซียนแล้ว จะมีประเทศต่างๆที่เป็นเพื่อนบ้านเข้ามาติดต่อการที่เราสามารถพูดภาษาที่ 3 ได้จะถือเป็นข้อได้เปรียบของเราในการติดต่อสื่อสาร ไม่ต้องแปลข้ามภาษาอังกฤษไปมา อย่าง จีน ญี่ปุ่น อย่างผมมักจะมีลูกค้าเป็นชาวญี่ปุ่น จะเห็นชัดว่าถ้าจะทำงานกับเค้าก็ต้องพูดภาษาเค้าได้ ดังนั้นหากต้องการสร้างความก้าวหน้าให้บุตรหลานในอนาคต ผมว่าการเสริมสร้างทักษะภาษาต่างชาตินับว่าเป็นเรื่องสำคัญมาก ข้าราชการหนุ่มคุณพ่อลูกสองกล่าว
ด้านคุณสมเจตน์ เขียววิชัย วิศวกร และเจ้าของธุรกิจส่วนตัว มีลูกสาวน่ารักวัย 7 ขวบชื่อน้องฟูจิ กล่าวว่า เนื่องจากตนต้องทำงานติดต่อกับชาวต่างชาติอยู่เป็นประจำ จึงเห็นโอกาสและความสำคัญของภาษาอังกฤษ จึงทำให้สนับสนุนให้ลูกสาวเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่ยังเล็ก เพราะส่วนตัวตอนยังเล็กๆสมัยประถมไม่ได้เรียน โดยเน้นให้ลูกสาวเรียนรู้การใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน เราก็คุยหรือถามเค้าเป็นภาษาอังกฤษบ้างช่วงไปรับส่งที่โรงเรียน
“ส่วนตัวผมว่าการให้ลูกเรียนเสริมภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะเวลาเราไปต่างประเทศ มันจำเป็นต้องใช้ในการติดต่อสื่อสาร อย่างลูกสาวจะชอบเรียน น้องมาขอเรียนเสริมวันเสาร์เอง เพราะเค้าเรียนโรงเรียนไบลิงกัว เวลาพูดคุยกับเพื่อนก็จะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษกับไทยปนๆกัน ส่วนของผมก็จะเสริมเรื่องการพูดคุยตอนเช้าที่ไปส่ง พอเลิกเรียนถ้ากลับมาเร็ว ผมก็จะถามพูดคุยกับเค้าเป็นภาษาอังกฤษว่าวันนี้เค้าเรียนอะไรมาบ้าง หรือเปิดกูเกิ้ลให้เค้าดูว่า ศัพท์ภาษาอังกฤษคำนี้แปลว่าอะไร ฝึกให้เค้าลองเรียนรู้ด้วยตัวเอง”
น้องเต้ ด.ช.อัครเดช ลำพอง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม.3 รร.สารสาสน์วิเทศน์ สุวรรณภูมิ เล่าว่า ตอนนี้เรียนอยู่ 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ จีน เริ่มเรียนภาษาจีนมาตั้งแต่ชั้น ป.5 ปกติช่วงวันหยุดกิจกรรมที่ทำบ่อยๆ ก็จะมีเล่นเกมส์ ฟังเพลง เล่นดนตรี แต่สำหรับปิดเทอมนี้ ตนเลือกมาลงเสริมภาษาอังกฤษเรื่องฟัง พูด เพราะปกติทักษะเรื่องเขียนค่อนข้างใช้ได้อยู่แล้ว ผลการเรียนก็ค่อนข้างดี ล่าสุดได้เกรดเฉลี่ย 3.75-3.9 ส่วนเทคนิคการเรียนภาษาอังกฤษให้เก่ง ควรหมั่นฝึกพูดกับครูบ่อยๆ ตั้งใจเรียนในห้อง หรือฟังเพลงภาษาต่างประเทศเยอะๆ ให้ลองแปลความหมายเพลงดู ก็ถือเป็นการเรียนรู้อีกแบบ
น้องฟูจิ ด.ญ.ภัควลัญชญ์ เขียววิชัย อายุ 7 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.1 รร.สารสาสน์วิเทศน์ สุวรรณภูมิ ผลการเรียนสอบได้ที่ 1 ของชั้น เล่าว่า ปกติช่วงวันหยุดเธอชอบทำกิจกรรมมากมายมีทั้งเรียนศิลปะ เรียนบัลเลย์ เรียนว่ายน้ำ เล่นไอซ์สเก็ต และไปเที่ยวกับพ่อแม่ แต่เรื่องเรียนเธอก็มิได้ละเลย โดยเฉพาะการเรียนเสริมภาษาอังกฤษ เพราะต้องใช้พูดในชีวิตประจำวันกับเพื่อนๆและครู และในอนาคตจะได้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ เพราะคุณแม่บอกว่าจะส่งไปเรียนต่างประเทศเมื่อเรียนจบแล้ว
“ตอนแรกคุณแม่ให้เรียนพอเสริมเรื่องการออกเสียง จะได้เรียนสนุก ไม่เบื่อ ถูกใจ คุณครูสอนง่ายเข้าใจ พอกลับมาบ้านก็ฝึกพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน ถ้ามีคำศัพท์ไม่เข้าใจก็จะเข้าไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต ตอนนี้มีภาษาที่อยากเรียนเพิ่มเติม คือ ภาษาจีนค่ะ เพราะเห็นคุณพ่อทำธุรกิจกับจีน เลยอยากเรียนภาษาจีนจะได้ไว้มาช่วยคุณพ่อทำงานตอนโต” น้องฟูจิกล่าว
และเพื่อเป็นการสนับสนุนให้เด็กไทยสนใจเรียนภาษาต่างประเทศมากขึ้น สถาบันภาษาอีซีซี จึงได้จัดแคมเปญต้อนรับเปิดเทอม Back to School รับฟรี ตำราเรียน 1 ชุด เมื่อสมัครเรียน 2 หลักสูตรขึ้นไป หรือ รับไปเลยทันที ตุ๊กตาหมี ecc เมื่อสมัครเรียนหลักสูตรส่วนตัว 60 ชม.ขึ้นไป
ปัจจุบันสถาบันภาษาอีซีซีเป็นสถาบันภาษาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และมีสาขาทั่วประเทศ ปัจจุบันมีสาขารวม 42 สาขา อยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 26 สาขาแบ่งเป็นในห้าง 25 สาขา สแตนอะโลน 1 สาขา ส่วนในต่างจังหวัดมี 16 สาขา แบ่งเป็นในห้าง 7 สาขา สแตนอะโลน 8 สาขา พร้อมกันนี้ยังขยายสาขาต่างประเทศที่ ไต้หวัน อีก 1 สาขา
สำหรับหลักสูตรการเรียนการสอนในปัจจุบัน ประกอบด้วย คอร์สเรียนภาษาอังกฤษ ได้แก่ สนทนาภาษาอังกฤษทั่วไป (General English), ไวยากรณ์ (Grammar), การเขียน (Writing), ภาษาอังกฤษเพื่อธุรกิจ (Business English), ภาษาอังกฤษเพื่อเตรียมสอบ TOEFL/ TOEIC/ IELTS/ GED และยังมีหลักสูตรภาษาต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ภาษาจีน, ญี่ปุ่น ,เกาหลี ,พม่า ฯลฯ